สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ผมว่าคดีโซฮี หลักฐานไม่เพียงพอตั้งแต่แรกแล้วครับ เป็นคดีที่มาช่วยสร้างแรงกระเพื่อมเฉยๆ ถึงจะได้ dna จากไฟแช็ค แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะระบุว่ายอนจินเป็นคนผลักโซฮี เพราะพยานแวดล้อมอื่นๆไม่มีเลย
แต่นางเอกใช้คดีโซฮีมาปั่นประสาทฝั่งยอนจิน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าป้ายชื่ออันนั้นมันใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีคดีโซฮี แรงกระเพื่อมมันจะไม่มากพอที่จะทำให้ตัวละครที่เกี่ยวข้องตัดสินใจทำอะไรแบบนั้น
และสุดท้ายทุกคนในคดีนั้นก็ได้รับกรรมกันหมด เพราะกลัวว่าตัวเองจะได้รับผลกระทบจากคดีโซฮี ทั้งที่ถ้าอยู่เฉยๆ คดีนั้นแทบจะทำอะไรตัวเองไม่ได้เลย
แต่นางเอกใช้คดีโซฮีมาปั่นประสาทฝั่งยอนจิน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าป้ายชื่ออันนั้นมันใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีคดีโซฮี แรงกระเพื่อมมันจะไม่มากพอที่จะทำให้ตัวละครที่เกี่ยวข้องตัดสินใจทำอะไรแบบนั้น
และสุดท้ายทุกคนในคดีนั้นก็ได้รับกรรมกันหมด เพราะกลัวว่าตัวเองจะได้รับผลกระทบจากคดีโซฮี ทั้งที่ถ้าอยู่เฉยๆ คดีนั้นแทบจะทำอะไรตัวเองไม่ได้เลย
Jon reus ถูกใจ, คนภาคค่ำ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1866855 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 910180 ถูกใจ, เจสซี่จัง ถูกใจ, ปุอิ๊งปุอิ๊ง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1098521 ถูกใจ, ผัดไทกุ้งสดไม่งอกพิเศษเส้น ถูกใจ, Uzumaki Umami ทึ่ง, กลีบมะเฟือง ถูกใจรวมถึงอีก 9 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ดู The Glory จบมีคำถามครับ
"ฉันไปสืบเรื่องไอ้อีพวกนั้นแล้ว ครูมุนพูดถูก ขอบใจที่ช่วยให้ฉันหายแค้นเคืองนะ"
อันนี้เขาหมายถึงใครครับ?
2.พัคยอนจิน ติดคุกแล้วจู่ๆลุกขึ้นมารายงานอากาศ เพราะถูกบูลลี่ในคุก หรือเพราะเสียทุกอย่างจนเป็นบ้าครับ?
เพราะแลดูไม่มีฉากความรุนแรงเลยตรงนี้
3.มือถือใช้แล้วทิ้งกับรถที่ซื้อมาจากแก๊งค์รอยสักนางเอกกับพระเอกเอาไปทำอะไรครับ ตอนนี้รู้สึกเหลือแค่ฆาตกรในคุกคนเดียวแล้ว เลยสงสัยว่าต้องลงทุนขนาดนั้นเลย
4.นักเลงที่กระทืบฆาตกรตอนสุดท้ายนี่มายังไงครับ ใครส่งมามีบอกในเรื่องไหม?
5.สรุปยอนจินติดคุกแค่คดีฆ่ายองโอใช่ไหมครับ คดีโซฮีก็ปล่อยไว้เหมือนเดิม