พืชเศรษฐกิจ รู้ก่อน รวยก่อน

สภาพภูมิอากาศ ทำเลที่ตั้งของประเทศไทยที่เอื้ออำนวยของเรานั้น เหมาะสมแก่การปลูกพืชต่างๆ และยังปลูกได้ดีอีกด้วย! ความอุดมสมบูรณ์นี้ ทำให้คนไทยได้มี "พืช" ผลผลิตมาเลี้ยงปากท้องในครอบครัวหรือหารายได้มาสู่ครัวเรือน จนต่อยอดไปจนถึงการสร้างรายได้จากพืชให้กับประเทศเป็น "พืชเศรษฐกิจ"
.
วันนี้ผมจึงขอเสนอพืชเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน รวมไปถึงแนวโน้มพืชที่ปลูกแล้วปังในอนาคตกันด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยครับ
พืชเศรษฐกิจในปัจจุบัน
พืชเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ ตัวท็อปห้าในไทยนั่นก็คือ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย ปาล์มน้ำมัน แต่ละอันมีแนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจเป็นไปในทางไหนบ้าง ไปดูกันเลย
◉ ข้าว : ในปี 2566 คาดว่าปริมาณผลผลิตข้าวจะเพิ่มขึ้น 3.4% มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกข้าว บวกกับปริมาณน้ำฝนในอ่างกักเก็บน้ำที่มีเพียงพอ ในปี 2565 ส่วนราคาข้าว มีแนวโน้มดีขึ้นเพราะการค้าขายเริ่มกลับมาปกติ แถมข้าวยังเป็นที่ต้องการอย่างมากทั้งในประเทศและนอกประเทศ
◉ อ้อย : ปริมาณผลผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12.6% และราคาคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.2% ซึ่งปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำที่เพียงพอ บวกกับการการประกันราคาจากสมาคมโรงงานน้ำตาลทราย จูงใจเกษตรกรให้ขยายพื้นที่เพาะปลูกกันมากขึ้น
◉ มันสำปะหลัง : ปริมาณผลผลิตและราคาคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2% และ 3.1% ตามลำดับ ในด้านราคาที่มีแนวโน้มดีขึ้น จากความต้องการในการแปรรูปเป็นมันเส้น อัดเม็ด จึงจูงใจให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกมากขึ้น
◉ ปาล์มน้ำมัน : ปริมาณผลผลิตในประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% และราคาคาดว่าจะลดลง 34.6 % ปริมาณผลผลิตของปาล์มเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ราคาที่ลดฮวบนั้นเกิดจากปรากฎการณ์ลานีญา ส่งผลให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันโลกสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันปาล์มยังคงอยู่ในระดับดี เมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อน
◉ ยางพารา : ปริมาณผลผลิตจะทรงตัวจากปี 2565 ราคายางพาราคาดว่าจะปรับลดลงเนื่องจากความต้องการสูงจากการแพทย์และผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งมาถึงในปี 2566 เศรษฐกิจมีการชะลอตัวลง ทำให้ความต้องการใช้ยางพาราลดลง ราคายางพาราจึงได้มีการปรับลดลง
.
แม้ว่าพืชเศรษฐกิจเหล่านี้จะเป็นหัวใจหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศจำนวนมหาศาล แต่ยังมีพืชอีกหลายชนิดที่คาดว่าจะเติบโตและรุ่งในอนาคต โดยสามารถยกตัวอย่างได้ดังนี้
พืชเศรษฐกิจในอนาคต
1.พริกชี้ฟ้า ปลูกง่าย ราคา 45-50 บาท /กก. ใช้เวลาปลูกเพียงแค่ 2-3 เดือนก็ออกผลแล้ว และยังสามารถนำมาแปรรูปได้อีกเช่น ซอสพริก พริกแห้ง ฯลฯ

ภาพ :
https://shorturl.asia/r27eL

ภาพ :
https://shorturl.asia/r27eL
2.ไผ่กิมซุง หรือไผ่ตงลืมแล้ง เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่คาดว่า จะสามารถนำมาทดแทนยางพาราได้

ภาพ :
https://www.kasetorganic.com/knowledge/beecheybamboo/
3.แมคคาเดเมีย มีความต้องการทางตลาดสูง เนื่องจากเมล็ดมีรสชาติ และเนื้อสัมผัสที่หอมมัน อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยลดอัตราการเป็นโรคหัวใจ ยังสามารถนำมาแปรรูปได้เช่น อบเกลือ น้ำมัน สบู่

ภาพ : Engin Akyurt:
https://www.pexels.com/th-th/photo/5425013/
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ จะเห็นได้ว่าเราเห็นช่องทางทำมาหากินมากมายจากการปลูกพืช ความจริงแล้วยังมีพืชอีกเพียบที่น่านำมาปลูก และรายได้ดี หากใครสนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยครับบ
ข้อมูล :
https://www.arda.or.th/knowledge_detail.php?id=40
https://www.ttbbank.com/th/newsroom/detail/ttb-analytics-expects-2023-car-rental-market-value-to-grow
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หากชอบบทความแบบนี้สามารถไปติดตามต่อได้ที่ Facebook page
พืชเศรษฐกิจ ปลูกก่อน รวยก่อน!
สภาพภูมิอากาศ ทำเลที่ตั้งของประเทศไทยที่เอื้ออำนวยของเรานั้น เหมาะสมแก่การปลูกพืชต่างๆ และยังปลูกได้ดีอีกด้วย! ความอุดมสมบูรณ์นี้ ทำให้คนไทยได้มี "พืช" ผลผลิตมาเลี้ยงปากท้องในครอบครัวหรือหารายได้มาสู่ครัวเรือน จนต่อยอดไปจนถึงการสร้างรายได้จากพืชให้กับประเทศเป็น "พืชเศรษฐกิจ"
.
วันนี้ผมจึงขอเสนอพืชเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน รวมไปถึงแนวโน้มพืชที่ปลูกแล้วปังในอนาคตกันด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยครับ
พืชเศรษฐกิจในปัจจุบัน
พืชเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ ตัวท็อปห้าในไทยนั่นก็คือ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย ปาล์มน้ำมัน แต่ละอันมีแนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจเป็นไปในทางไหนบ้าง ไปดูกันเลย
◉ ข้าว : ในปี 2566 คาดว่าปริมาณผลผลิตข้าวจะเพิ่มขึ้น 3.4% มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกข้าว บวกกับปริมาณน้ำฝนในอ่างกักเก็บน้ำที่มีเพียงพอ ในปี 2565 ส่วนราคาข้าว มีแนวโน้มดีขึ้นเพราะการค้าขายเริ่มกลับมาปกติ แถมข้าวยังเป็นที่ต้องการอย่างมากทั้งในประเทศและนอกประเทศ
◉ อ้อย : ปริมาณผลผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12.6% และราคาคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.2% ซึ่งปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำที่เพียงพอ บวกกับการการประกันราคาจากสมาคมโรงงานน้ำตาลทราย จูงใจเกษตรกรให้ขยายพื้นที่เพาะปลูกกันมากขึ้น
◉ มันสำปะหลัง : ปริมาณผลผลิตและราคาคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2% และ 3.1% ตามลำดับ ในด้านราคาที่มีแนวโน้มดีขึ้น จากความต้องการในการแปรรูปเป็นมันเส้น อัดเม็ด จึงจูงใจให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกมากขึ้น
◉ ปาล์มน้ำมัน : ปริมาณผลผลิตในประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% และราคาคาดว่าจะลดลง 34.6 % ปริมาณผลผลิตของปาล์มเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ราคาที่ลดฮวบนั้นเกิดจากปรากฎการณ์ลานีญา ส่งผลให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันโลกสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันปาล์มยังคงอยู่ในระดับดี เมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อน
◉ ยางพารา : ปริมาณผลผลิตจะทรงตัวจากปี 2565 ราคายางพาราคาดว่าจะปรับลดลงเนื่องจากความต้องการสูงจากการแพทย์และผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งมาถึงในปี 2566 เศรษฐกิจมีการชะลอตัวลง ทำให้ความต้องการใช้ยางพาราลดลง ราคายางพาราจึงได้มีการปรับลดลง
.
แม้ว่าพืชเศรษฐกิจเหล่านี้จะเป็นหัวใจหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศจำนวนมหาศาล แต่ยังมีพืชอีกหลายชนิดที่คาดว่าจะเติบโตและรุ่งในอนาคต โดยสามารถยกตัวอย่างได้ดังนี้
พืชเศรษฐกิจในอนาคต
1.พริกชี้ฟ้า ปลูกง่าย ราคา 45-50 บาท /กก. ใช้เวลาปลูกเพียงแค่ 2-3 เดือนก็ออกผลแล้ว และยังสามารถนำมาแปรรูปได้อีกเช่น ซอสพริก พริกแห้ง ฯลฯ
ภาพ : https://shorturl.asia/r27eL
ภาพ : https://shorturl.asia/r27eL
2.ไผ่กิมซุง หรือไผ่ตงลืมแล้ง เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่คาดว่า จะสามารถนำมาทดแทนยางพาราได้
ภาพ : https://www.kasetorganic.com/knowledge/beecheybamboo/
3.แมคคาเดเมีย มีความต้องการทางตลาดสูง เนื่องจากเมล็ดมีรสชาติ และเนื้อสัมผัสที่หอมมัน อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยลดอัตราการเป็นโรคหัวใจ ยังสามารถนำมาแปรรูปได้เช่น อบเกลือ น้ำมัน สบู่
ภาพ : Engin Akyurt: https://www.pexels.com/th-th/photo/5425013/
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ จะเห็นได้ว่าเราเห็นช่องทางทำมาหากินมากมายจากการปลูกพืช ความจริงแล้วยังมีพืชอีกเพียบที่น่านำมาปลูก และรายได้ดี หากใครสนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยครับบ
ข้อมูล :
https://www.arda.or.th/knowledge_detail.php?id=40
https://www.ttbbank.com/th/newsroom/detail/ttb-analytics-expects-2023-car-rental-market-value-to-grow
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้