“อย่าเพิ่งลาออกถ้ายังไม่มีงานใหม่รองรับ” คือประโยคเตือนที่เรามักได้ยินกันบ่อย ๆ เพราะการลาออกโดยที่ยังไม่ได้งานใหม่จะทำให้สถานะของเรากลายเป็น “คนว่างงาน” ทันที ซึ่งสถานะว่างงานนี้ก็อาจส่งผลให้การสมัครงานครั้งต่อไปของเรายากขึ้น เพราะองค์กรย่อมต้องมีคำถามกับช่วงเวลาที่เราหยุดทำงานไปแน่นอน รวมถึงอาจมองว่าประสิทธิภาพในการทำงานของเราลดลงด้วย
แต่สถานการณ์ของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางคนอาจมีเหตุผลส่วนตัวหรือความจำเป็นบางอย่างที่ทำให้ต้องลาออกจริง ๆ เช่น ปัญหาด้านสุขภาพ ปัญหาทางครอบครัว หรือที่ทำงานมีสภาพแวดล้อมที่ Toxic จนส่งผลกระทบกับจิตใจ ทำให้ไม่มีความสุขกับการทำงาน ซึมเศร้าหรือหมดไฟจนอยากหยุดทำงานมาพักก่อน ดังนั้นการลาออกโดยที่ยังไม่มีงานใหม่รองรับก็ไม่ใช่เรื่องผิดและสามารถทำได้ แต่ก่อนจะลาออก เราต้องทำความเข้าใจกับความเสี่ยงที่อาจตามมา ซึ่ง JobThai Tips กระทู้นี้มีแนวทางการพิจารณาและวิธีการเตรียมตัวมาฝาก
ผลกระทบที่อาจตามมา
ก่อนตัดสินใจว่าจะลาออกดีไหม เราควรพิจารณาความเสี่ยงเหล่านี้และดูว่าเราสามารถยอมรับได้หรือเปล่า ถ้าประเมินแล้วยังไม่พร้อม เราอาจจะรอจนกว่าจะหางานใหม่ก่อนค่อยลาออก
มีช่วงว่างงานในเรซูเม่
เมื่อเราหยุดพักจนเพียงพอและพร้อมที่จะกลับไปทำงานใหม่อีกครั้ง บริษัทที่เราสมัครงานอาจมองว่าช่วงเวลาว่างงานก่อนหน้านี้ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเราลดลง เพราะความรู้และทักษะบางอย่าง เช่น ทักษะด้านภาษาหรือทักษะด้านโปรแกรมมิ่ง เมื่อไม่ได้ใช้นาน ๆ ก็อาจลืมและใช้ได้ไม่คล่องเหมือนแต่ก่อน ซึ่งบริษัทอาจหยิบเอาจุดนี้มาใช้ต่อรองเงินเดือนกับเราได้
อาจพลาดโอกาสก้าวหน้าในการทำงานที่เดิม
ถ้าในช่วงที่เราลาออก บริษัทกำลังจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน ขยายตัว เพิ่มสาขา หรือเริ่มโปรเจกต์ใหม่ เราก็อาจพลาดโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง โยกย้ายไปทำงานในตำแหน่งอื่น หรือเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ใหม่ที่ทำให้เราได้เก็บประสบการณ์เพิ่มเติม รวมถึงอาจพลาดโอกาสทำความรู้จักและสร้างคอนเน็กชันใหม่ ๆ ด้วย
ขาดรายได้ในช่วงที่ว่างงาน
เมื่อลาออก แน่นอนว่าเราย่อมขาดรายได้ตามไปด้วยในกรณีที่เราทำงานประจำเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีรายได้จากช่องทางอื่น เช่น งานเสริม งานพาร์ทไทม์ ธุรกิจส่วนตัว หรือการลงทุน และถ้าเราไม่มีเงินเก็บสำรองเผื่อเอาไว้ การลาออกโดยไม่มีงานใหม่ก็จะสร้างปัญหาทางการเงินให้เราได้
สถานการณ์ของตลาดแรงงานอาจเปลี่ยนแปลงจนทำให้หางานยากขึ้น
อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ไม่มีอะไรการันตีว่าเมื่อเราพร้อมกลับไปทำงานประจำ ในเวลานั้นสถานการณ์ของตลาดแรงงานจะเป็นยังไง จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้หลาย ๆ บริษัทลดจำนวนพนักงานลงอย่างวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 อีกไหม แล้วงานในธุรกิจที่เราสนใจจะหายากขึ้นไหม ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะได้งาน และเมื่อได้งานแล้วจะได้เงินเดือนเท่าเดิมหรือเปล่า
ข้อดีของการลาออกโดยที่ยังไม่มีงานใหม่รองรับ
การว่างงานจะทำให้รายได้ลดลงและความมั่นคงน้อยกว่าเดิม แต่ก็มีข้อดีอยู่ด้วย เพราะสิ่งที่เราได้กลับมาคือเวลานั่นเอง ซึ่งเราสามารถใช้เวลาไปทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย
ได้พักกายและใจจากการทำงาน
เมื่อลาออกจากงานแล้ว เราสามารถใช้ช่วงเวลาที่ว่างงานนี้ไปกับการพักผ่อน ทำงานอดิเรกที่ชอบ และท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ ไม่ต้องรู้สึกเศร้าใจทุกเย็นวันอาทิตย์ว่าวันจันทร์วนกลับมาใหม่อีกแล้ว ถือเป็นการรีเฟรชชีวิตและชาร์จแบตให้ตัวเอง โดยเฉพาะคนที่ซึมเศร้าหรือเครียดสะสมจากการทำงาน จะได้ฟื้นฟูจิตใจได้อย่างเต็มที่
มีเวลาทบทวนตัวเองและวางแผนเส้นทางในอนาคต
ในกรณีที่เรารู้สึกหมดไฟกับการทำงานที่เดิม ทั้งเบื่องานรูทีน ตันกับสายงานเดิม อยากมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงานหรือกำลังคิดว่าอยากเปลี่ยนสายงานไปทำอย่างอื่น ช่วงเวลาที่ว่างงานนี้ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้ทบทวนตัวเอง รวมถึงวางแผนเส้นทางชีวิตหลังจากนี้ว่าจะไปทางไหนต่อ
ได้โอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
นอกจากพักผ่อนและทบทวนตัวเองแล้ว เรายังสามารถใช้เวลานี้เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ ที่อาจเป็นประโยชน์กับการทำงานได้อีกด้วย ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการสมัครงานในอนาคต ถึงแม้ในเรซูเม่จะมีช่วง Gap ที่เราว่างงาน แต่ทักษะที่ได้เรียนรู้ในช่วงนี้ก็อาจช่วยเสริมศักยภาพในการทำงานให้เราได้
มีเวลาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น
เมื่อถึงเวลาที่เราต้องหางานใหม่ และมีการไปสัมภาษณ์งานก็จะสะดวกมากขึ้น เราก็ไม่จำเป็นต้องลางานเพื่อไปสัมภาษณ์งานใหม่ สามารถตอบรับการนัดหมายสัมภาษณ์ได้สะดวก รวมถึงสามารถเริ่มงานได้ทันทีอีกด้วย ซึ่งความยืดหยุ่นตรงนี้ก็อาจทำให้เรากลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับบริษัทที่ต้องการคนด่วน เพิ่มโอกาสในการได้งานมากขึ้น
ใครที่ลองชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของการลาออกโดยยังไม่มีงานใหม่รองรับแล้ว และได้ผลสรุปว่าต้องการลาออกจริง ๆ JobThai Tips กระทู้หน้าจะเอาแนวทางการเตรียมตัวก่อนลาออกมาฝาก
จะลาออกจากงาน ทั้งที่ยังไม่มีงานใหม่ดีไหม ?
แต่สถานการณ์ของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางคนอาจมีเหตุผลส่วนตัวหรือความจำเป็นบางอย่างที่ทำให้ต้องลาออกจริง ๆ เช่น ปัญหาด้านสุขภาพ ปัญหาทางครอบครัว หรือที่ทำงานมีสภาพแวดล้อมที่ Toxic จนส่งผลกระทบกับจิตใจ ทำให้ไม่มีความสุขกับการทำงาน ซึมเศร้าหรือหมดไฟจนอยากหยุดทำงานมาพักก่อน ดังนั้นการลาออกโดยที่ยังไม่มีงานใหม่รองรับก็ไม่ใช่เรื่องผิดและสามารถทำได้ แต่ก่อนจะลาออก เราต้องทำความเข้าใจกับความเสี่ยงที่อาจตามมา ซึ่ง JobThai Tips กระทู้นี้มีแนวทางการพิจารณาและวิธีการเตรียมตัวมาฝาก
ผลกระทบที่อาจตามมา
ก่อนตัดสินใจว่าจะลาออกดีไหม เราควรพิจารณาความเสี่ยงเหล่านี้และดูว่าเราสามารถยอมรับได้หรือเปล่า ถ้าประเมินแล้วยังไม่พร้อม เราอาจจะรอจนกว่าจะหางานใหม่ก่อนค่อยลาออก
มีช่วงว่างงานในเรซูเม่
เมื่อเราหยุดพักจนเพียงพอและพร้อมที่จะกลับไปทำงานใหม่อีกครั้ง บริษัทที่เราสมัครงานอาจมองว่าช่วงเวลาว่างงานก่อนหน้านี้ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเราลดลง เพราะความรู้และทักษะบางอย่าง เช่น ทักษะด้านภาษาหรือทักษะด้านโปรแกรมมิ่ง เมื่อไม่ได้ใช้นาน ๆ ก็อาจลืมและใช้ได้ไม่คล่องเหมือนแต่ก่อน ซึ่งบริษัทอาจหยิบเอาจุดนี้มาใช้ต่อรองเงินเดือนกับเราได้
อาจพลาดโอกาสก้าวหน้าในการทำงานที่เดิม
ถ้าในช่วงที่เราลาออก บริษัทกำลังจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน ขยายตัว เพิ่มสาขา หรือเริ่มโปรเจกต์ใหม่ เราก็อาจพลาดโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง โยกย้ายไปทำงานในตำแหน่งอื่น หรือเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ใหม่ที่ทำให้เราได้เก็บประสบการณ์เพิ่มเติม รวมถึงอาจพลาดโอกาสทำความรู้จักและสร้างคอนเน็กชันใหม่ ๆ ด้วย
ขาดรายได้ในช่วงที่ว่างงาน
เมื่อลาออก แน่นอนว่าเราย่อมขาดรายได้ตามไปด้วยในกรณีที่เราทำงานประจำเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีรายได้จากช่องทางอื่น เช่น งานเสริม งานพาร์ทไทม์ ธุรกิจส่วนตัว หรือการลงทุน และถ้าเราไม่มีเงินเก็บสำรองเผื่อเอาไว้ การลาออกโดยไม่มีงานใหม่ก็จะสร้างปัญหาทางการเงินให้เราได้
สถานการณ์ของตลาดแรงงานอาจเปลี่ยนแปลงจนทำให้หางานยากขึ้น
อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ไม่มีอะไรการันตีว่าเมื่อเราพร้อมกลับไปทำงานประจำ ในเวลานั้นสถานการณ์ของตลาดแรงงานจะเป็นยังไง จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้หลาย ๆ บริษัทลดจำนวนพนักงานลงอย่างวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 อีกไหม แล้วงานในธุรกิจที่เราสนใจจะหายากขึ้นไหม ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะได้งาน และเมื่อได้งานแล้วจะได้เงินเดือนเท่าเดิมหรือเปล่า
ข้อดีของการลาออกโดยที่ยังไม่มีงานใหม่รองรับ
การว่างงานจะทำให้รายได้ลดลงและความมั่นคงน้อยกว่าเดิม แต่ก็มีข้อดีอยู่ด้วย เพราะสิ่งที่เราได้กลับมาคือเวลานั่นเอง ซึ่งเราสามารถใช้เวลาไปทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย
ได้พักกายและใจจากการทำงาน
เมื่อลาออกจากงานแล้ว เราสามารถใช้ช่วงเวลาที่ว่างงานนี้ไปกับการพักผ่อน ทำงานอดิเรกที่ชอบ และท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ ไม่ต้องรู้สึกเศร้าใจทุกเย็นวันอาทิตย์ว่าวันจันทร์วนกลับมาใหม่อีกแล้ว ถือเป็นการรีเฟรชชีวิตและชาร์จแบตให้ตัวเอง โดยเฉพาะคนที่ซึมเศร้าหรือเครียดสะสมจากการทำงาน จะได้ฟื้นฟูจิตใจได้อย่างเต็มที่
มีเวลาทบทวนตัวเองและวางแผนเส้นทางในอนาคต
ในกรณีที่เรารู้สึกหมดไฟกับการทำงานที่เดิม ทั้งเบื่องานรูทีน ตันกับสายงานเดิม อยากมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงานหรือกำลังคิดว่าอยากเปลี่ยนสายงานไปทำอย่างอื่น ช่วงเวลาที่ว่างงานนี้ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้ทบทวนตัวเอง รวมถึงวางแผนเส้นทางชีวิตหลังจากนี้ว่าจะไปทางไหนต่อ
ได้โอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
นอกจากพักผ่อนและทบทวนตัวเองแล้ว เรายังสามารถใช้เวลานี้เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ ที่อาจเป็นประโยชน์กับการทำงานได้อีกด้วย ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการสมัครงานในอนาคต ถึงแม้ในเรซูเม่จะมีช่วง Gap ที่เราว่างงาน แต่ทักษะที่ได้เรียนรู้ในช่วงนี้ก็อาจช่วยเสริมศักยภาพในการทำงานให้เราได้
มีเวลาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น
เมื่อถึงเวลาที่เราต้องหางานใหม่ และมีการไปสัมภาษณ์งานก็จะสะดวกมากขึ้น เราก็ไม่จำเป็นต้องลางานเพื่อไปสัมภาษณ์งานใหม่ สามารถตอบรับการนัดหมายสัมภาษณ์ได้สะดวก รวมถึงสามารถเริ่มงานได้ทันทีอีกด้วย ซึ่งความยืดหยุ่นตรงนี้ก็อาจทำให้เรากลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับบริษัทที่ต้องการคนด่วน เพิ่มโอกาสในการได้งานมากขึ้น
ใครที่ลองชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของการลาออกโดยยังไม่มีงานใหม่รองรับแล้ว และได้ผลสรุปว่าต้องการลาออกจริง ๆ JobThai Tips กระทู้หน้าจะเอาแนวทางการเตรียมตัวก่อนลาออกมาฝาก