ก็แค่อุบัติเหตุลูกหนัง ที่ผมมองว่ายังดีกว่าทีมที่แพ้นัดราชมังฯ 0-4

แมนยูนานๆทีจะแพ้สกอร์ห่างกันแบบนั้น ผมมองว่าเป็นแค่อุบัติการณ์ในเกมฟุตบอล ก็แค่วันที่แย่วันนึง ไม่เห็นน่าตกใจอะไร

ถ้าลองเทียบดู ลิเวอร์พูลก็แพ้ราบคาบบ่อยครั้ง เช่น แพ้วิลล่า 7 ประตู, แพ้มาดริดทุกเกม และแพ้มาดริด 5 ประตูก็มีครับ

แล้วแดงเดือด พรีเมียร์ลีกมีให้ rematch ทุกปี

ไม่เหมือนที่ลิเวอร์พูลแพ้นัดราชมังคลา 0-4 ประตู อันนั้นแพ้แบบไม่มีรีแมตซ์ให้แล้ว ลิเวอร์พูลก็จะโดนล้อตลอดไป

ยังคงมองว่ารวมๆ แมนเชสเตอร์ คือผู้ทรงอิทธิพลเบอร์หนึ่งครับ แถมลุ้นแชมป์ได้มากกว่าด้วย ปีนี้ก็มีถ้วยติดมือ ไม่ว่างเปล่า ยิ้ม

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมเเฟนผีเเท้ๆ ยอมรับว่าเจ็บ เเละอับอายครับ

เเพ้คือเเพ้ อายก็คืออายครับ ยอมรับออกมาตรงๆ
ไม่พยายามหาข้อเเก้ ตัวให้ดูดี ดูหล่อ
ชนะลิเวอร์ ตอนพรีซีซั่น 4 -0  
นั่นมันเเค่เตะ เเมทขำๆ  เเมทซ์หาตังค์ทอดผ้าป่า

มันห่างกัน เหมือนขอบจักรวาลทั้งสองฝั่ง
เมื่อเอามาเทียบกับเเพ้ ในบอลพรีเมียร์ถึง 7-0

เพราะสถิติเเห่งความยับเยินนี้ จะถูกจดจำ จารึก
เเละบอกเล่า สืบต่อไป อีกนานเเสนนาน เป็นร้อยๆปีนับจากนี้ไป
เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาเเล้วเมื่อ 115 ปีก่อน  
ต่อให้คุณตายไป เเล้วไปเกิดใหม่อีกสองรอบ ( รวมทั้งผมด้วย )
สถิตินี้ก็ยังถูกจารึกอยู่ ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษครับ

ซึ่งต่างจากถ้วยทอดผ้าป่า วินิจคัพ ที่ชนะมาได้
นอกจากแฟนผีเมืองไทย (บางคน) เเล้ว ใครที่ไหนมันจะมานั่งจดจำ
เตะเสร็จ วันรุ่งขึ้นเขาก็ลืมกันเเล้ว

ผมว่า เผลอๆ ทั้งนักเตะ ทั้งสตาฟ ทีมงาน
ที่มา กทม ทั้งสองทีมในตอนนั้น ไม่มีสักคน ที่จะจำชื่อเเมทซ์นี้ได้ด้วยซ้ำไป
อาจจำได้เเค่ชื่อประเทศไทย กับเมืองหลวงแบงค์คอก เเค่นั้นเอง

เพราะงั้น อย่าเอามาเทียบกันครับ ....อายเค้า
( หรือว่าเเพ้เละเทะ ขนาดนี้ ยังอายไม่พอ )


เพี้ยนเซ็งเป็ด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่