ถ้าใครที่เคยอ่านพุทธพจน์ นิยามการเวียนว่ายตายเกิด ตลอดสังวัฏฏกัป วิวัฏกัป ที่ไม่ปรากฏเบื้องต้น เบื้องปลาย ก็ต้องพลอยได้ยิน ว่าสัตว์ทั้งหลาย หรือที่ ทรงตรัสเอาไว้ชัดๆว่า เราและพวกเธอทั้งหลาย แล่นไป ท่องเที่ยวไป เพราะความไม่รู้
อะไรคือการท่องเที่ยวกันแน่ หมายถีงสัตว์ที่เป็นธาตุอมตะ หรือไม่
ให้มาตรวจไปทีละอรรถะ เเละ พยัญชนะ กันดีกว่า
ความไม่รู้ ในที่นี้ = คือความไม่รู้ในอริยสัจ4 ใช่มั้ย
ถ้าใช่ว่านี้แร่ะคือสาเหตุที่แท้จริง เป็นตัวกั้น เครื่องกั้น
"ความไม่รู้(อวิชชา) เป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย"
เมื่อเงื้อนต้นของการปรุงแต่ง นั้นเริ่มจาก ความไม่รู้ในอริยสัจ
เมื่อเงื้อนต้นของการไปได้กายต่างๆ ของสายปฏิจสมุปบาท เริ่มจากความไม่รู้
นั้นก็บอกได้แบบฟันธงว่า การที่ไม่ได้สดับในธรรม การที่ไม่ได้รู้อริยสัจ4
จนถึงการที่ไม่ได้เกิดในยุคพระพุทธเจ้า หรือ พระพุทธเจ้าไม่แสดงธรรม ไม่ได้อยู่ในขณะสมัย ตาบอดหูหนวก เป็นสัตว์อื่นๆอะไรก็ตาม นั้นหมายถึงว่าโอกาสที่คุณต้องท่องเที่ยวมี100%
ไม่ใช่สาเหตุอื่นๆ อวิชชามันก็คือธาตุชนิด1นั้นเอง เเละพระตถาคต เป็นผู้มาเปิดประตูของความไม่ตาย
เหตุปัจจัยอย่างเนี่ย แบบมีเหตุมีผล เราจะฟังไม่ค่อยออก ไม่ค่อยรู้ว่าสังขารมันปรุงแต่งขนาดไหน
คิดซับซ้อนเกินไป
และ ตัณหา เป็นเครื่องผูก
ชื่อของตัณหาเป็นเชื้อแห่งการเกิดอยู่แล้ว การไปได้ อัตภาพอื่นๆ และตัณหา มันก็เป็นสาเหตุให้เกิดทุกข์ อริยสัจ4
หน้าที่หลักของมันคือเครื่องนำไปสู่ภพ ตรงๆ ภาวตัณหา วิภาวตัณหา
สรุปเรื่องนี้เลย
ความเป็นคุณ ความที่คุณมาได้กาย อัตภาพ ณ ตอนนี้ ไม่ใช่เรื่อง พิเศษ
สาเหตุมาจาก อวิชชา นั้นเอง และนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่สุด ของที่สุดในการได้กาย การท่องเที่ยว
ซึ่งตอนนี้ หากยังมีอาการจิตที่มี ความพอใจ ราคะ นันทิ เรียกบัญญัติชื่อว่า สัตว์ หรือ สัตตานัง
พอเข้าใจไหม
เมื่อมีความรู้ มีวิชชา มารู้อริยสัจ ท้ายที่สุด นี้ก็เป็นปัจจัย ของสัตว์ทั้งหลาย เลิกท่องเที่ยว อันแสนยาวนาน
เพราะความดับไปแห่งอวิชชา จึงมีความดับแห่งสังขารทั้งหลาย
สัตว์ที่มีอวิชาเป็นเครื่องกั้นตัณหาเป็นเครื่องผูก แล่นไป
อะไรคือการท่องเที่ยวกันแน่ หมายถีงสัตว์ที่เป็นธาตุอมตะ หรือไม่
ให้มาตรวจไปทีละอรรถะ เเละ พยัญชนะ กันดีกว่า
ความไม่รู้ ในที่นี้ = คือความไม่รู้ในอริยสัจ4 ใช่มั้ย
ถ้าใช่ว่านี้แร่ะคือสาเหตุที่แท้จริง เป็นตัวกั้น เครื่องกั้น
"ความไม่รู้(อวิชชา) เป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย"
เมื่อเงื้อนต้นของการปรุงแต่ง นั้นเริ่มจาก ความไม่รู้ในอริยสัจ
เมื่อเงื้อนต้นของการไปได้กายต่างๆ ของสายปฏิจสมุปบาท เริ่มจากความไม่รู้
นั้นก็บอกได้แบบฟันธงว่า การที่ไม่ได้สดับในธรรม การที่ไม่ได้รู้อริยสัจ4
จนถึงการที่ไม่ได้เกิดในยุคพระพุทธเจ้า หรือ พระพุทธเจ้าไม่แสดงธรรม ไม่ได้อยู่ในขณะสมัย ตาบอดหูหนวก เป็นสัตว์อื่นๆอะไรก็ตาม นั้นหมายถึงว่าโอกาสที่คุณต้องท่องเที่ยวมี100%
ไม่ใช่สาเหตุอื่นๆ อวิชชามันก็คือธาตุชนิด1นั้นเอง เเละพระตถาคต เป็นผู้มาเปิดประตูของความไม่ตาย
เหตุปัจจัยอย่างเนี่ย แบบมีเหตุมีผล เราจะฟังไม่ค่อยออก ไม่ค่อยรู้ว่าสังขารมันปรุงแต่งขนาดไหน
คิดซับซ้อนเกินไป
และ ตัณหา เป็นเครื่องผูก
ชื่อของตัณหาเป็นเชื้อแห่งการเกิดอยู่แล้ว การไปได้ อัตภาพอื่นๆ และตัณหา มันก็เป็นสาเหตุให้เกิดทุกข์ อริยสัจ4
หน้าที่หลักของมันคือเครื่องนำไปสู่ภพ ตรงๆ ภาวตัณหา วิภาวตัณหา
สรุปเรื่องนี้เลย
ความเป็นคุณ ความที่คุณมาได้กาย อัตภาพ ณ ตอนนี้ ไม่ใช่เรื่อง พิเศษ
สาเหตุมาจาก อวิชชา นั้นเอง และนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่สุด ของที่สุดในการได้กาย การท่องเที่ยว
ซึ่งตอนนี้ หากยังมีอาการจิตที่มี ความพอใจ ราคะ นันทิ เรียกบัญญัติชื่อว่า สัตว์ หรือ สัตตานัง
พอเข้าใจไหม
เมื่อมีความรู้ มีวิชชา มารู้อริยสัจ ท้ายที่สุด นี้ก็เป็นปัจจัย ของสัตว์ทั้งหลาย เลิกท่องเที่ยว อันแสนยาวนาน
เพราะความดับไปแห่งอวิชชา จึงมีความดับแห่งสังขารทั้งหลาย