นี่คือ 10 ผลงาน อันเอกอุที่กองทัพ ปีศาจแดง ได้แสดงแสนยานุภาพ
อันเกริกเกียรติเกรียงไกร ให้แก่ทุกทีมในพรีเมียร์ลีก
จะดุเดือด เข้มข้น เร้าใจ ขนาดไหน ไปรับชมกันได้เลยยยยย
.
.
.
อันดับ 10
Manchester City 4-1 Manchester United | September 22, 2013

ศึกดาร์บี้แมตช์ ที่เอติฮัด อเกวโรซัด 2 ลูก ขณะที่ยาย่าและนาสรี เพิ่มคนละลูก ส่วนยูไนเต็ด ได้ประตูปลอบใจ
ช่วงท้ายเกมจาก รูนีย์ ส่วนน้ามอยส์ นายใหญ่คนใหม่ ยอมรับสุดผิดหวังกับผลงานของลูกทีม
อันดับ 9
Manchester United 1-4 Liverpool | March 14, 2009

ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีเมื่อโรนัลโดทำประตูให้ยูไนเต็ดขึ้นนำหลังจากผ่านไป 22 นาทีที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แต่พลพรรคปีศาสแดงเริงร่าอยู่ได้ไม่นาน เมื่อเฟร์นานโด ตอร์เรสซัดตีเสมอ ตามด้วยเรียงหน้ายิงคนละเม็ด จาก
สตีเวน เจอร์ราร์ด, ฟาบิโอ ออเรลิโอ และอันเดรีย ดอสเซนา จบเกมลิเวอร์พูลชนะ 4-1 คาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
อันดับ 8
Brighton 4-0 Manchester United | May 7, 2022

ภายใต้การคุมทีมของราล์ฟ รังนิก ผลงานของทีมย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง เมื่อยูไนเต็ดเดินทางไปไบรท์ตันในช่วงท้ายฤดูกาล 2021-22
ไคเซโด, คูคูเรลล่า, กรอส และ ทรอสซารด์ ทำประตูได้ในชั่วโมงแรกที่ เอเม็กซ์ สเตเดียม นี่คือขนมกรุบสำหรับ พอตเตอร์ กุนซือในตอนนั้น
อันดับ 7
Brentford 4-0 Manchester United | August 13, 2022

นี่คือการเริ่มต้นฤดูกาลที่ไม่สวย สำหรับกุนซือคนใหม่ อย่าง เอริก เทน ฮาก หลังจากพ่ายไบรท์ตันในบ้าน 2-1
ในวันเปิดฤดูกาล ให้หลังหกวันต่อมา เบรนท์ฟอร์ด ก็จัดหนักให้อีกรอบ ภายใน 20 นาทีแรก เดอะ บีส์ ขึ้นนำ 2-0
จาก ดาซิลวา กับ เจนเซน ก่อนที่ เบน มี กับ เอมบูโม จะเพิ่มอีกคนละลูก จบครึ่งแรก 4-0 และจบเกมในสกอร์เดียวกัน
อันดับ 6
Newcastle 5-0 Manchester United | October 20, 1996

หลังจากผิดหวังจากการพลาดแชมป์ในปี 1995-96 โดยแพ้ยูไนเต็ดไปเพียง 4 แต้ม มาฤดูกาลนี้นิวคาสเซิ่ลระบายแค้นทันที
พวกเขาปูพรมถล่มยูไนเต็ดด้วยการชนะ 5-0 ในเดือนตุลาคม โดยมีอลัน เชียเรอร์, ดาวิด จิโนลา และเลส เฟอร์ดินานด์ เป็นผู้ทำประตู
ก่อนที่ฟิลิปป์ อัลเบิร์ตจะทำประตูปิดท้ายด้วยการชิพระยะไกลที่สวยงามข้ามหัวปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
อันดับ 5
Chelsea 5-0 Manchester United | October 3, 1999

ความคาดหวังของยูไนเต็ดที่จะไร้พ่ายในฤดูกาล 1999-2000 ต้องจบลงอย่างรวดเร็ว ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์
โปเยต์ ซัดนำตั้งแต่นาทีแรกของเกม ตามมาด้วยลูกยิงของ คริส ซัตตัน หลังจากนั้นไม่นาน โปเยต์ ยิงเพิ่มลูกที่สาม
ในช่วงต้นครึ่งหลัง ขณะที่ เฮนนิ่ง เบิร์ก ทำเข้าประตูตัวเอง ก่อนที่ โจดี้ มอรริส จะทำประตูปิดท้าย
อันดับ 4
Manchester United 0-5 Liverpool | October 24, 2021

ยูไนเต็ดออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2021-22 แต่ไม่นานก็ต้องสะดุดลงเมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ต่อ
แอสตัน วิลล่า, เสมอกับเอฟเวอร์ตัน และจากนั้นก็แพ้เลสเตอร์ 4-2
จากแย่กลายเป็นแย่ในช่วงปลายเดือนตุลาคม เมื่อลิเวอร์พูลไปเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ภายในห้านาที ผู้มาเยือนนำ 2-0 อย่างรวดเร็วจาก นาบี เกอิต้า และดิโอโก้ โชต้า หลังจากนั้นไม่นาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ซัดแฮตทริกให้หงส์แดง นำห่าง 5-0 หลังจากผ่านไปเพียง 50 นาที
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบสำหรับโอเล กุนนาร์ โซลชา ในฐานะผู้จัดการทีมยูไนเต็ด
และพวกเขายูไนเต็ดก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้หลังจากการไล่ออกของกุนซือชาวนอรเวย์
อันดับ 3
Manchester United 1-6 Tottenham | October 4, 2020

ทุกอย่างมันเริ่มต้นได้ดี เมื่อเพียงแค่ 2 นาที บรูโน่ แฟร์นานเดส ยิงให้ทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ขึ้นนำ 1-0
ต่อท็อตแนมของโจเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่จากนั้นไม่นานนัก เอ็นดอมเบเล่ ก็ตามตีเสมอได้ทันที
และอีก 3 นาทีต่อมา ซอน เฮืองมิน ก็พาทีมเยือนขึ้นนำ และช่วงเวลาที่เหลือ คือการดาหน้ายิงยูไนเต็ดอย่างสนุกของพลพรรคไก่
ซอน, แฮร์รี เคน และ แซร์จ โอริเยร์ ช่วยกันยิง จนจบเกมที่สกอร์ 6-1 และพาเปอร์สกลับลอนดอนด้วยสามแต้ม
อันดับ 2
Manchester United 1-6 Manchester City | October 23, 2011

นี่เป็นการแข่งขันชิงแชมป์ที่น่าจับตามองซึ่งจบลงด้วยผลสกอร์ที่เยอะที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
แต่สำหรับแฟน ๆ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2011-12 เป็นฤดูกาลที่ไม่น่าจดจำสำหรับพวกเขา
แชมป์เก่าของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการไม่แพ้ใคร 8 เกมรวด แต่ก็ต้องมาสะดุดเมื่อถูก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มยับเยิน 6-1 ในบ้าน มาริโอ บาโลเตลลีจัดปาร์ตี้ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยการซัดนำเมื่อผ่านไป 22 นาที
โดยเปิดเสื้อโชว์ข้อความ 'Why Always Me?'
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"ทำไมต้องเป็นกรู" หรือ "อะไรๆก็กรู"
ซึ่งเป็นข้อความอันโด่งดังของเขา ความหวังของยูไนเต็ดจะสู้กลับก็ต้องสลายเมื่อจอนนี่ อีแวนส์ถูกไล่ออกเข้าไปอีก
บาโลเตลลียิงขึ้นนำเพิ่มเป็น 2-0 ก่อนที่ซิตี้จะทุบอีกสี่ประตูผ่านดาบิด เด เคอาในช่วง 30 นาทีสุดท้าย โดยดาร์เรน เฟลตเชอร์ทำประตูปลอบใจเจ้าบ้าน
ความพ่ายแพ้ครั้งนั้นสร้างความเสียหายให้กับยูไนเต็ดเป็นพิเศษ เมื่อซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยผลต่างประตูได้เสีย
อันดับ 1
Liverpool 7-0 Manchester United | March 5, 2023

ยูไนเต็ดทำผลงานได้ดีในช่วง 40 นาทีแรกของการมาเยือนแอนฟิลด์
แต่พวกเขาก็พังพินาศ หลังจากที่โคดี้ กัคโป ยิงประตูแรกก่อนพักครึ่ง และ ดาร์วิน นูเนซ ทำประตูที่สองในครึ่งหลังได้เพียงสองนาที
ไม่นานก่อนที่ กัคโป จะทำประตูที่สามให้กับทีม จากนั้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ทำ 2 ประตูให้ตัวเอง
กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก ขณะที่ นูเนซ ทำประตูที่สองให้กับตัวเองเช่นกัน และ
โรแบร์โต ฟีร์มีโน เป็นคนปิดท้ายการทำประตูให้ทีม และนี่คือการพ่ายแพ้ในลีกครั้งใหญ่ที่สุดของยูไนเต็ด
.
.
.
อ้างอิงรูปภาพและเนื้อหาบางส่วนจาก :
https://www.goal.com/en/lists/man-utd-worst-ever-premier-league-defeats/bltd7ee356cdc674eaf#csd55f913c375dce3a
ขออนุญาต ตั้งกระทู้ 10 อันดับ ผลงานอันเอกอุ ของกองทัพปีศาจแดง แสลงใจ
อันเกริกเกียรติเกรียงไกร ให้แก่ทุกทีมในพรีเมียร์ลีก
จะดุเดือด เข้มข้น เร้าใจ ขนาดไหน ไปรับชมกันได้เลยยยยย
.
.
.
อันดับ 10
Manchester City 4-1 Manchester United | September 22, 2013
ศึกดาร์บี้แมตช์ ที่เอติฮัด อเกวโรซัด 2 ลูก ขณะที่ยาย่าและนาสรี เพิ่มคนละลูก ส่วนยูไนเต็ด ได้ประตูปลอบใจ
ช่วงท้ายเกมจาก รูนีย์ ส่วนน้ามอยส์ นายใหญ่คนใหม่ ยอมรับสุดผิดหวังกับผลงานของลูกทีม
อันดับ 9
Manchester United 1-4 Liverpool | March 14, 2009
ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีเมื่อโรนัลโดทำประตูให้ยูไนเต็ดขึ้นนำหลังจากผ่านไป 22 นาทีที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แต่พลพรรคปีศาสแดงเริงร่าอยู่ได้ไม่นาน เมื่อเฟร์นานโด ตอร์เรสซัดตีเสมอ ตามด้วยเรียงหน้ายิงคนละเม็ด จาก
สตีเวน เจอร์ราร์ด, ฟาบิโอ ออเรลิโอ และอันเดรีย ดอสเซนา จบเกมลิเวอร์พูลชนะ 4-1 คาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
อันดับ 8
Brighton 4-0 Manchester United | May 7, 2022
ภายใต้การคุมทีมของราล์ฟ รังนิก ผลงานของทีมย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง เมื่อยูไนเต็ดเดินทางไปไบรท์ตันในช่วงท้ายฤดูกาล 2021-22
ไคเซโด, คูคูเรลล่า, กรอส และ ทรอสซารด์ ทำประตูได้ในชั่วโมงแรกที่ เอเม็กซ์ สเตเดียม นี่คือขนมกรุบสำหรับ พอตเตอร์ กุนซือในตอนนั้น
อันดับ 7
Brentford 4-0 Manchester United | August 13, 2022
นี่คือการเริ่มต้นฤดูกาลที่ไม่สวย สำหรับกุนซือคนใหม่ อย่าง เอริก เทน ฮาก หลังจากพ่ายไบรท์ตันในบ้าน 2-1
ในวันเปิดฤดูกาล ให้หลังหกวันต่อมา เบรนท์ฟอร์ด ก็จัดหนักให้อีกรอบ ภายใน 20 นาทีแรก เดอะ บีส์ ขึ้นนำ 2-0
จาก ดาซิลวา กับ เจนเซน ก่อนที่ เบน มี กับ เอมบูโม จะเพิ่มอีกคนละลูก จบครึ่งแรก 4-0 และจบเกมในสกอร์เดียวกัน
อันดับ 6
Newcastle 5-0 Manchester United | October 20, 1996
หลังจากผิดหวังจากการพลาดแชมป์ในปี 1995-96 โดยแพ้ยูไนเต็ดไปเพียง 4 แต้ม มาฤดูกาลนี้นิวคาสเซิ่ลระบายแค้นทันที
พวกเขาปูพรมถล่มยูไนเต็ดด้วยการชนะ 5-0 ในเดือนตุลาคม โดยมีอลัน เชียเรอร์, ดาวิด จิโนลา และเลส เฟอร์ดินานด์ เป็นผู้ทำประตู
ก่อนที่ฟิลิปป์ อัลเบิร์ตจะทำประตูปิดท้ายด้วยการชิพระยะไกลที่สวยงามข้ามหัวปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
อันดับ 5
Chelsea 5-0 Manchester United | October 3, 1999
ความคาดหวังของยูไนเต็ดที่จะไร้พ่ายในฤดูกาล 1999-2000 ต้องจบลงอย่างรวดเร็ว ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์
โปเยต์ ซัดนำตั้งแต่นาทีแรกของเกม ตามมาด้วยลูกยิงของ คริส ซัตตัน หลังจากนั้นไม่นาน โปเยต์ ยิงเพิ่มลูกที่สาม
ในช่วงต้นครึ่งหลัง ขณะที่ เฮนนิ่ง เบิร์ก ทำเข้าประตูตัวเอง ก่อนที่ โจดี้ มอรริส จะทำประตูปิดท้าย
อันดับ 4
Manchester United 0-5 Liverpool | October 24, 2021
ยูไนเต็ดออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2021-22 แต่ไม่นานก็ต้องสะดุดลงเมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ต่อ
แอสตัน วิลล่า, เสมอกับเอฟเวอร์ตัน และจากนั้นก็แพ้เลสเตอร์ 4-2
จากแย่กลายเป็นแย่ในช่วงปลายเดือนตุลาคม เมื่อลิเวอร์พูลไปเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ภายในห้านาที ผู้มาเยือนนำ 2-0 อย่างรวดเร็วจาก นาบี เกอิต้า และดิโอโก้ โชต้า หลังจากนั้นไม่นาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ซัดแฮตทริกให้หงส์แดง นำห่าง 5-0 หลังจากผ่านไปเพียง 50 นาที
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบสำหรับโอเล กุนนาร์ โซลชา ในฐานะผู้จัดการทีมยูไนเต็ด
และพวกเขายูไนเต็ดก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้หลังจากการไล่ออกของกุนซือชาวนอรเวย์
อันดับ 3
Manchester United 1-6 Tottenham | October 4, 2020
ทุกอย่างมันเริ่มต้นได้ดี เมื่อเพียงแค่ 2 นาที บรูโน่ แฟร์นานเดส ยิงให้ทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ขึ้นนำ 1-0
ต่อท็อตแนมของโจเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่จากนั้นไม่นานนัก เอ็นดอมเบเล่ ก็ตามตีเสมอได้ทันที
และอีก 3 นาทีต่อมา ซอน เฮืองมิน ก็พาทีมเยือนขึ้นนำ และช่วงเวลาที่เหลือ คือการดาหน้ายิงยูไนเต็ดอย่างสนุกของพลพรรคไก่
ซอน, แฮร์รี เคน และ แซร์จ โอริเยร์ ช่วยกันยิง จนจบเกมที่สกอร์ 6-1 และพาเปอร์สกลับลอนดอนด้วยสามแต้ม
อันดับ 2
Manchester United 1-6 Manchester City | October 23, 2011
นี่เป็นการแข่งขันชิงแชมป์ที่น่าจับตามองซึ่งจบลงด้วยผลสกอร์ที่เยอะที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
แต่สำหรับแฟน ๆ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2011-12 เป็นฤดูกาลที่ไม่น่าจดจำสำหรับพวกเขา
แชมป์เก่าของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการไม่แพ้ใคร 8 เกมรวด แต่ก็ต้องมาสะดุดเมื่อถูก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มยับเยิน 6-1 ในบ้าน มาริโอ บาโลเตลลีจัดปาร์ตี้ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยการซัดนำเมื่อผ่านไป 22 นาที
โดยเปิดเสื้อโชว์ข้อความ 'Why Always Me?'
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งเป็นข้อความอันโด่งดังของเขา ความหวังของยูไนเต็ดจะสู้กลับก็ต้องสลายเมื่อจอนนี่ อีแวนส์ถูกไล่ออกเข้าไปอีก
บาโลเตลลียิงขึ้นนำเพิ่มเป็น 2-0 ก่อนที่ซิตี้จะทุบอีกสี่ประตูผ่านดาบิด เด เคอาในช่วง 30 นาทีสุดท้าย โดยดาร์เรน เฟลตเชอร์ทำประตูปลอบใจเจ้าบ้าน
ความพ่ายแพ้ครั้งนั้นสร้างความเสียหายให้กับยูไนเต็ดเป็นพิเศษ เมื่อซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยผลต่างประตูได้เสีย
อันดับ 1
Liverpool 7-0 Manchester United | March 5, 2023
ยูไนเต็ดทำผลงานได้ดีในช่วง 40 นาทีแรกของการมาเยือนแอนฟิลด์
แต่พวกเขาก็พังพินาศ หลังจากที่โคดี้ กัคโป ยิงประตูแรกก่อนพักครึ่ง และ ดาร์วิน นูเนซ ทำประตูที่สองในครึ่งหลังได้เพียงสองนาที
ไม่นานก่อนที่ กัคโป จะทำประตูที่สามให้กับทีม จากนั้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ทำ 2 ประตูให้ตัวเอง
กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก ขณะที่ นูเนซ ทำประตูที่สองให้กับตัวเองเช่นกัน และ
โรแบร์โต ฟีร์มีโน เป็นคนปิดท้ายการทำประตูให้ทีม และนี่คือการพ่ายแพ้ในลีกครั้งใหญ่ที่สุดของยูไนเต็ด
.
.
.
อ้างอิงรูปภาพและเนื้อหาบางส่วนจาก : https://www.goal.com/en/lists/man-utd-worst-ever-premier-league-defeats/bltd7ee356cdc674eaf#csd55f913c375dce3a