คนที่ละ"วิจิกิจฉา"ได้ ชีวิตนี้จะต้องไม่ทำบาป ไม่ผิดศีลใดๆทั้งสิ้นแม้แต่เล็กน้อย ใช่หรือเปล่า

1.ละสักยาทิฏฐิ อุปทานความยึดมั่น ในอัตตาตัวตนว่าเป็นบุคคลเราเขา 2.ละวิจิกิจฉา ความสงสัยในคุณพระศรีรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 3.ละสีลัพพตปรามาส ความประมาทในศีล เป็นผู้เที่ยงตรงต่อพระนพพาน

พวกท่านทั้งหชายความตายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อย่าได้ประมาทในการใช้ชีวิต ก่อนเกิดสงคราม จะมีภัยพิบัติก่อน หนึ่งในนั้นคือแผ่นดินไหวในกทม. ทรัพย์สมบัติที่มีหามาก็จะไม่ทันได้ใช้ พึงเพียรในอริยทรัพ

นิพพาน(อสังขตธรรม) นั้นพ้นไปจากจิต พ้นไปจากผู้รู้ และไม่มีอารมณ์  ดังธรรมบรรยายนี้ ------------------- ธรรมเป็นจิต  เป็นไฉน  ?     

วิจิกิจฉาจะหมดสิ้นไปเพราะเข้าใจว่า "ไม่มีสิ่งที่เป็นตัวตน (อัตตา) อยู่ในร่างกายและจิตใจทั้งหลาย" วิจิกิจฉา คือความลังเลสงสัยในสิ่งที่เรานับถืออยู่ว่ามีจริงหรือเป็นจริงหรือไม่? ซึ่งตราบใดที่

@@  โสดา ปิด นรก เพราะ เหตุใด ครับ ? @@ ผมไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่านะครับ ผมเดาว่า .....  หรือ เป็นเพราะว่า  ละ สักกายทิฏฐิ  ได้ครับ  ? ประมาณว่า  ปล่อยวางกายแล้ว

เคยอ่านมาว่ามีพระสาวกรูปหนึ่ง ในพุทธกาลก่อนๆตั้งใจสร้างบารมี จนหลังจากได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ว่าจะได้เป็นเอตทัคคะของพระพุทธเจ้าโคตมแล้ว ก็เกิดความประมาททำบาปกรรมจนถึงขั้นมาตุฆาต จา

ผมมีข้อสงสัยว่าหลักการทศพิธราชธรรม หรือ ราชธรรม 10 ที่พระเจ้าแผ่นดินทรงประพฤติเป็นหลักธรรม ประจำพระองค์ หรือเป็นคุณธรรมประจำตนของผู้ปกครองบ้านเมือง ให้มีความเป็นไปโด

(หัวกระทู้คือนารีขี่ม้าขาวนะทุกคน) คุณคิดว่า นารีขี่ม้าขาวคือใคร

กามราคะ กับ ปฏิฆะ พระท่านละอะไรก่อนครับ ตามสังโยชน์ 10 กามราคะ มาก่อน ปฏิฆะ แต่ใน พรหมจรรย์ 10 เมตตา มาก่อน อริยมรรค ก. โอรัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ได้แก่ 1. สักกายทิฏฐิ - มีความเห็นว่าร่า