ชีวิตกำลังจะได้โบยบิน แต่คนในครอบครัวล้มป่วยจนเป็นผู้ป่วยติดเตียง

สวัสดีค่ะ เราอายุ 29 ปี ได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับสามีชาวสวีเดน และอยู่ในขั้นตอนของการยื่นวีซ่า UT เพื่อย้ายไปอยู่ด้วยกันที่สวีเดน งานแต่ง แผนการย้ายประเทศเป็นไปด้วยดี พ่อแม่ ครอบครัวเข้าใจ (ก่อนที่คุณย่าจะล้มป่วย)

แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน คุณย่าของเราล้มป่วยจนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง หมอบอกว่าไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เราอาศัยบ้านติดคุณย่า คุณย่าปกติแล้วท่านจะอาศัยกับคุณปู่ และมีลูกชายสองคน คนโตไปอยู่ในเมือง คนเล็กคือพ่อเราอยู่ใกล้ๆท่าน พอเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแบบนี้ คงไม่มีใครที่จะดูแลคุณย่าเราได้เลย นอกจาก พ่อ แม่ พี่ชายและเรา 

ถ้าเรายังจะย้ายไปต่างประเทศ เราจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวเกินไปไหมคะ เรากับสามีมีบ้านที่นั่นแล้ว เราทั้งเป็นห่วง ทั้งสับสน ไม่รู้ว่าชีวิตจะเดินต่อไปอย่างไร
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 22
คุณย่ามีเงินเกษียณไหมครับ ถ้ามีก็ให้คุณย่าจ้างพยาบาลมาดูแลแทน อย่างตัวผมเองตอนนี้ยังวัยทำงานพยายามออมเงินให้ได้มากเพื่อที่ตอนแก่จะได้ไม่สร้างความเดือนร้อน หรือเป็นภาระให้กับใคร
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ชีวิตเป็นของคุณ จะมาถูกผูกติดกับผู้ป่วยติดเตียงที่ยังไม่รู้จะดีขี้นเมื่อไหร่
you have your own life to live... a family to build

ตอนแม่ป่วยติดเตึยง มีพี่สาวดูแล เราอยู่อเมริกาได้แต่ส่งเงินมาให้ช่วยค่าใช้จ่าย
ตอนแม่เสีย พี่สาวบอกไม่ต้องเหนื่อยบิน ๒๒ ชั่วโมงกลับมา เราได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว
เพราะตอนยังดีๆ เราส่งเงินให้ใช้จ่ายไม่เคยขาดสักเดือนเดียวตั้งแต่จบออกมาทำงาน
ความคิดเห็นที่ 13
การตอบแทนพระคุณทำได้หลายวิธี ไม่ได้มีแค่นั่งอยู่ข้างเตียงทำนู่นนี่นั่นให้
อย่าตัดสินใจพลาดแบบผม จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายเวลา
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่เข้าใจถึงความผูกผันของคุณ ตอบได้ว่า..
ย่าไกลเกินพ่อ เกินสามี ในความหมายที่มีต่อกัน
ตอนนี้สามีสำคัญที่สุดค่ะ ลำดับต่อไปคือลูก ถูกต้องไหมคะ

การตัดสินใจต้องใช้เหตุผลของปัจจุบันค่ะ
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าเราเป็นย่า เป็นพ่อหรือแม่ จขกท เราก็ไม่อยากให้เจ้าของกระทู้มาอยู่ดูแลเรานะ อยากให้ไปอยู่กะสามีมากกว่า
ลองดูเรื่องค่าใช้จ่ายว่าสามีช่วยส่งมาดูแลค่าใช้จ่ายทางนี้บ้างได้ไหมนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่