รีวิวเขาชนไก่ 65 ผลัด 46

กระทู้สนทนา
ขอเกริ่นก่อนเลยว่าในตอนแรกตัวผมเองก็กล้าๆ กลัวๆ อยู่เหมือนกัน เพราะฟังจากรีวิวที่คนอื่นๆ พูดมาเกี่ยวกับการไปเขาชนไก่ ไม่ต่างจากการไปนรกเลย กระทู้นี้ผมจะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้เจอมาจากเขาชนไก่ให้รุ่นน้องได้รู้ว่าจะต้องเจออะไร และมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เผื่อคนที่ขี้เกียจอ่าน ผมจะสรุปไว้ตรงนี้เลยว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต และมันสนุกมาก มันไม่ได้ลำบากอะไรขนาดนั้น อาหารหลวง (ข้าวรด) ก็ไม่ได้แย่ คือถ้าไม่ได้ติดหรู แบบต้องกินมื้อละเป็นพัน มันก็อร่อยได้ และพกตังไปเยอะๆ เพราะเขามีของให้ซื้อกินตลอด พักแทบจะทุกชม ร้านก็ร้านเมียจ่านั่นแหละ 5555+ เอ้ามาเข้าเรื่องได้

วันที่ 1 โดดหอ
    หลังจากรวมที่ศูนย์ฝึกรถออกตอน 6 โมงเช้า จะมีแวะจุดพักรถเรื่อยๆ ก็ซื้อของกินตามสะดวกได้เลย เขาให้เวลาคุณเหลือๆ อยู่แล้ว นอกเวลาเรียนครูฝึกทุกคนจะเป็นอีกลุคเลยคือจะเป็นกันเอง ชิวๆ มาก นั่งกินข้าวด้วยยังได้ (แนะนำให้ตีสนิทไว้) หลังจากนั้นก็จะมีแวะอุทยานสงครามเก้าทัพ จนประมาณเที่ยงๆ ถึงจะถึงเขาชนไก่จริงๆ ลงรถมา จัดแถวตามโรงเรียนกันไป มีรับน้องเล็กน้อยด้วยฝุ่น (ต้องเจอจนชิน) แล้วก็จะได้กินข้าวมื้อแรก เขาก็ให้เลือกเองระหว่างไปซื้อกับกินอาหารหลวง ซึ่งแน่นอน ผมกินอาหารหลวง เพราะอยากรู้ว่ามันจะขนาดไหน พอได้กินคือแบบ เห้ย ก็กินได้หนิ คือไม่ได้ทำออกมาแย่เลยนะ ให้เยอะด้วย นี่ก็กินจนอิ่ม พอทำไรกันเสร็จก็ไปเตรียมตัวโดดหอกัน หอสูง 34 ฟุต (10 เมตร) มองจากข้างล่างไม่ได้สูงมากหรอก แต่พอใส่ชุดสำหรับโดดเสร็จ แล้วขึ้นไปคือสูงมาก มองลงมาคือสูงเลย แต่วิวสวยจริงๆ อันนี้ยอมรับ ตอนโดดเราจะต้องถีบตัวออกมาให้ไกลจากจุดโดด ไม่งั้นเดี๋ยวหัวจะกระแทกเอา ตอนที่เชือกยังไม่ถึงคือมันทิ้งดิ่งลงมาทำเอาใจหวิวเลย ครั้งแรกในชีวิตตื่นเต้นมา แต่มันดันจบในไม่ถึง 10 วิ 5555+ แนะนำให้ลองมากๆ แต่ถ้าไม่โดดเขาจะมีงานจิตอาสาให้ทำแทนนะ

วันที่ 2 ยิงปืน
    หลังจากตื่นนอน กินข้าวเช้าเสร็จ ก็จะออกเดินทางไปจุดยิงปืน น่าจะ 2 กิโลได้ก็เดินกันไป ณ สนามยิงปืนพอเข้าไปถึงเขาก็จะมีให้รับปืนแล้วมาฝึกทวนคำสั่งก่อน เวลาเขาสั่งอะไรมาเราต้องทวน เอาจริงๆ บางคนอาจจะมองว่าไม่สำคัญ แต่ผมมองว่ามันสำคัญสองข้อคือ 1.) เผื่อคนที่อยู่ไกลไม่ได้ยินถ้าทุกคนทวนก็จะได้ยินคนใกล้ๆ พูดเอง 2.) ช่วยเรียกสติให้คิดได้ว่าต้องทำอะไร สถานการณ์จริงเชื่อว่าต้องมีคนสติแตกบ้างแหละ ตอนยิงปืนมีให้เราเป็นทั้งพลยิง เป็นทั้งผู้ช่วยพลยิง เราจะได้บรรจุกระสุนเอง ฝึกขั้นตอนแบบพอใส่แมกกาซีนปุ้บต้องตบตัวล๊อค ปลดเซฟ ค่อยยิงอะไรแบบนี้ด้วย ปล. เขามีที่อุดหูขาย ต้องมีใส่ทุกคน ผมลองแอบถอดออกมาดูทีนึงหูดับเลย เสียงปืนดังกว่าที่คิดมาก

วันที่ 3 เดินทางไกลเข้าป่า
    จริงๆ มันแค่ย้ายที่ฝึกไปฝึกอีกโซนของค่ายแค่นั้น แล้วป่าที่ผมจินตนาการไว้คือมันต้องแบบต้นไม้ล้อมรอบเต้นเรา มีกองไฟตรงกลางแบบในหนังไรงี้ แต่ความเป็นจริงคือมันไม่ต่างจากที่พักเดิมเลย 5555+ แต่ตั้งแต่วันนี้เราจะได้มีปืนประจำตัวแล้ว คือมันเท่มากนะได้ถือปืนจริง แม้มันจะใช้การไม่ได้ก็เถอะ

วันที่ 4 ฝึกเข้าตี-ตั้งรับ
    ด่านเข้าตี-ตั้งรับเนี่ย จะมีตำนานของจ่านรกกับจ่าสวรรค์ แต่ตอนนี้จ่านรกเกษียณไปละ กลายเป็นด่านที่สนุกที่สุดตั้งแต่มาเขาชนไก่เลย ก่อนเข้าด่านจริงเขาก็ให้พักชิวๆ 2-3 ชมอะ (จริงๆ มันต้องฝึกไงแต่เขาชิว) ด่านตั้งรับคือเท่มาก เหมือนอยู่ในหนังฟิวนั้นเลย เสียงเอฟเฟกก็กระหึ่มเร้าในมาก เขาจะใช้ประทัดเสียงคล้ายปืนจุดให้มันดังเหมือนอยู่ในสนามรบจริงๆ แล้วเรามีปืนประจำกายในมือ ก็คือเท่ไปอีกกก จำได้ว่าผมเล่นสุดมากจนเสื้อรดเละเลย ส่วนมี่เหนื่อยที่สุดคือต้องเดินทางไกลกลับไปที่พักกองพันที่แรก ละคือตอนนั้นมันเย็นแล้ว+เหนื่อยจากการที่เล่นสุดไปหน่อย+รู้สึกไม่ค่อยสบาย ทำเอาหมดพลังไปเยอะอยู่ แต่ตอนกลางคืนเขาก็มีปาร์ตี้ส่งนศท. จัดคอนเสิทให้ เป็นอะไรที่ประทับใจมากเลยนะ ครูฝึกก็เป็นคน เขาก็มีหัวใจเช่นเดียวกับเรานั่นแหละ

วันที่ 5 วันจบ
    ในวันนี้ผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะอาการมันเริ่มทรุดหนักละ ไข้ขึ้น+แดดฤดูร้อน ครูพยาบาลเขาก็้ให้ผมกะเพื่อนอีกคนไปนั่งพักรอขึ้นรถอย่างเดียว ก็มีครูฝึกบางคนที่ไม่ได้เข้าไปร่วมพิธีจบเขาก็นั่งคุยเล่นกะพวกผม แต่ผมไม่ไหวนอนอย่างเดียวเลย 55555+ ละพอขึ้นรถทุกคนก็หลับยาวกันหมดขึ้นรถตอน บ่ายโมงกลับมาถึงศูนย์ฝึกประมาณหกโมงเย็น เป็นช่วงเวลานึงที่จะเป็นความทรงจำของผมไปอีกนานเลย

    รายละเอียดปลีกย่อยผมข้ามไปค่อนข้างเยอะเลย ที่เขาชนไก่ครูฝึกบางคนเป็นดีลเลอลับมีทุกอย่างขายไม่จำเป็นอย่าเอาไปเดี๋ยวจะโดนตรวจในวันแรก รอซื้อเอาก็ได้ แถมผมได้เพื่อนใหม่เยอะมากๆๆๆ จากการไปครั้งนี้และเป็นเพื่อนต่างสถาบันทั้งนั้นถ้ามีโอกาสก็หวังว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกนะ
    ความเห็นส่วนตัวกับเขาชนไก่คือมันไม่ได้เหนื่อยกายขนาดนั้นเพราะผมก็ออกกำลังกายประจำอยู่แล้วมันก็เลยชิวๆ แต่สภาพจิตใจผมมันยำ่แย่มาก ผมเป็นคนรักธรรมชาติคนนึง ในเขาชนไก่เราจะได้เห็นท้องฟ้ายามเช้าสวยๆ ดาวเต็มท้องฟ้ายามคำ่คืน ลำธารเล็กๆ ไหลตามข้างทาง มันฮีลใจผมได้ดีมาก แต่มันมีคนที่เดินอยู่ข้างหลังผมเป็นเพื่อนในรรผม ผมไม่เคยคิดว่ามันจะติดหรูขนาดนี้ คือมันบ่นตลอดเวลาที่อยู่เขาชนไก่ 5 วัน ประมาณว่า ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้ ทำไมต้องเดินทำไมไม่นั่งรถ กับข้าวหลวงกินไม่ลง กินไม่ได้ คือมันบ่นทุกอย่างที่จะบ่นได้ มันบั่นทอนจิตใจผมมากเลยนะเวลาที่คิดบวกแล้วแต่มีคนประเภทนี้คิดลบตลอดเวลา มันจะทำผมคิดลบตาม

   ขอจบด้วยคำที่ผมเคยได้ยินมาแล้วกัน
  "คนเรามักจะเผยธาตุแท้ของตัวเองตอนเหนื่อย"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่