สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เรื่องแบ่งทรัพย์สิน ก็ปรึกษาทนายเถอะค่ะ
ยังไงคุณก็ต้องจ้างทนายอยู่แล้ว
แต่เรื่องลูกอ่ะ
เราขอเสริมนิดนึงนะคะ
“ควรถามลูกค่ะ” ว่าเค้าอยากอยู่กับใคร
มันไม่ได้อยู่ที่ว่า ปู่ย่า หรือ ตายาย ที่เลี้ยงมาก่อน
ความรู้สึกมันอยู่ที่ ณ ขณะนี้ค่ะ ไม่ใช่อดีตที่ผ่านมา
ถ้าเราในฐานะลูกนะ เราบอกตรง ๆ เราไม่อยากอยู่กับพ่อที่ไปมีเมียน้อยค่ะ
ถึงเมียน้อยจะอยู่แบบชั่วคราวหรือถาวรก็ตาม
เราขออยู่กับฝ่ายแม่ และครอบครัวฝ่ายแม่ค่ะ
ถึงจะเคยอยู่กับปู่ย่ามาก่อน แต่เราก็พร้อมไปอยู่กับตากับยายค่ะ
ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ขนาดพ่อที่เราเชื่อว่ารักครอบครัวที่สุด ยังไปมีคนอื่นได้เลย
ตอนคุณตัดสินใจนอกใจอ่ะ
คนที่เสียใจ ไม่ใช่มีแค่เมียคุณนะ ลูกคุณก็เสียใจ
ถ้าหมดรักเมียคุณแล้ว ก็หย่าอะไรให้เรียบร้อย เลิกกันไปให้ชัดเจน ไม่ใช่แอบไปมีเมียน้อย อยากเก็บทุกคนไว้เหมือนเดิม
คนที่ทำแบบนี้แล้วบอกว่ารักลูกมากอ่ะ คุณไปคิดดีดีนะ ว่าคุณรักลูก หรือรักตัวเองมากกว่ากัน
อยากได้ในทุกสิ่งที่ตัวเองต้องการ คนอื่นจะรู้สึกยังไงนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ถามลูกคุณดูเถอะค่ะ
จริง ๆ ถ้าหลังจากมีเรื่องแล้วลูกไม่ได้แสดงท่าทีอยากจะกลับมาอยู่กับครอบครัวฝ่ายคุณเลย มันก็ชัดแล้วนะเราว่า
ยังไงคุณก็ต้องจ้างทนายอยู่แล้ว
แต่เรื่องลูกอ่ะ
เราขอเสริมนิดนึงนะคะ
“ควรถามลูกค่ะ” ว่าเค้าอยากอยู่กับใคร
มันไม่ได้อยู่ที่ว่า ปู่ย่า หรือ ตายาย ที่เลี้ยงมาก่อน
ความรู้สึกมันอยู่ที่ ณ ขณะนี้ค่ะ ไม่ใช่อดีตที่ผ่านมา
ถ้าเราในฐานะลูกนะ เราบอกตรง ๆ เราไม่อยากอยู่กับพ่อที่ไปมีเมียน้อยค่ะ
ถึงเมียน้อยจะอยู่แบบชั่วคราวหรือถาวรก็ตาม
เราขออยู่กับฝ่ายแม่ และครอบครัวฝ่ายแม่ค่ะ
ถึงจะเคยอยู่กับปู่ย่ามาก่อน แต่เราก็พร้อมไปอยู่กับตากับยายค่ะ
ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ขนาดพ่อที่เราเชื่อว่ารักครอบครัวที่สุด ยังไปมีคนอื่นได้เลย
ตอนคุณตัดสินใจนอกใจอ่ะ
คนที่เสียใจ ไม่ใช่มีแค่เมียคุณนะ ลูกคุณก็เสียใจ
ถ้าหมดรักเมียคุณแล้ว ก็หย่าอะไรให้เรียบร้อย เลิกกันไปให้ชัดเจน ไม่ใช่แอบไปมีเมียน้อย อยากเก็บทุกคนไว้เหมือนเดิม
คนที่ทำแบบนี้แล้วบอกว่ารักลูกมากอ่ะ คุณไปคิดดีดีนะ ว่าคุณรักลูก หรือรักตัวเองมากกว่ากัน
อยากได้ในทุกสิ่งที่ตัวเองต้องการ คนอื่นจะรู้สึกยังไงนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ถามลูกคุณดูเถอะค่ะ
จริง ๆ ถ้าหลังจากมีเรื่องแล้วลูกไม่ได้แสดงท่าทีอยากจะกลับมาอยู่กับครอบครัวฝ่ายคุณเลย มันก็ชัดแล้วนะเราว่า
แสดงความคิดเห็น
โดนภรรยาฟ้องหย่า
1.ตอนอยู่กับภรรยา ผมซื้อบ้านสองหลัง ทุกบาทผมผ่อนเองคนเดียว
2.ผ่อนรถสองคัน ผมก็ผ่อนเองทั้งสองคัน ตอนแยกกันอยู่ ผมก็แบ่งคนละคัน แต่ผมก็ยังผ่อนให้
3.หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อ ทั้งของผมและของภรรยา ผมก็เป็นผู้จ่ายให้คนเดียว
4.ผมมีลูกด้วยกันสองคน ตอนนี้อยู่กับภรรยา ค่าใช้จ่ายของลูกทุกบาททุกสตางค์ ผมก็เป็นคนจ่ายแต่เพียงคนเดียว
5.ไม่ว่าเธอจะมาขอเบิกอะไร ผมก็โอนให้หมดทุกครั้ง
6.ผมไม่ได้อยู่กับคนใหม่แบบถาวรนะครับ ผมอยู่บ้านของพ่อแม่ผม ไปๆมาๆบ้างบางครั้ง
7.สองวันก่อนทนายฝั่งภรรยาโทรมา และส่งรายละเอียดการร่างหมายฟ้องมาให้ ในนั้นระบุว่า
7.1 บ้านทั้งสองหลังเป็นสิทธิ์ในการบอกขายของภรรยาและเมื่อขายได้ เงินต้องตกเป็นของภรรยาแต่เพียงผู้เดียว (บ้านทั้งสองหลังเป็นชื่อผม ภรรยาเพียงแค่มีชื่อในการรับทราบการซื้อเท่านั้น)
7.2 รถคันที่ภรรยาใช้อยู่ จะขายก็ต่อเมื่อขายบ้านได้ และเงินที่ขายได้ ต้องตกเป็นของภรรยาแต่เพียงผู้เดียว
7.3 หนี้สินทั้งหมด สามีต้องเป็นผู้ชำระแต่เพียงผู้เดียวเช่นเดิม
7.4 เงินส่งเสียลูก สามีต้องเป็นผู้ส่งเสียทุกบาทเหมือนเดิม
จริงครับ เรื่องนี้ผมเป็นคนผิดตั้งแต่ต้น จนต้องมาเจอเรื่องราวนี้ ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้หย่ากันก็ตกลงกันว่า ผมส่งเสียให้ทุกบาท แต่จู่ๆก็ส่งทนายโทรมาคุย ผมแค่อยากทราบว่า มันจะไปเป็นได้มั้ย ที่
1. หนี้สินทั้งหมดที่เป็นชื่อผมและชื่อเค้าระหว่างที่ยังไม่ได้หย่า ผมต้องจ่ายแต่เพียงผู้เดียว
2.ผมต้องการนำลูกทั้งสองคนมาอยู่กับผม แม้ผมทำงาน พ่อแม่พี่น้องของผมก็ดูแลให้เหมือนเดิม เมื่อครั้งที่ยังอยู่บ้านพ่อแม่ผม เขาก็ดูแลให้ตั้งแต่ลูกผมเกิด มีความผูกพันธ์กัน ตัวภรรยา เมื่อย้ายออกไป ก็ให้แต่แม่เขาเลี้ยงเท่านั้น ยกเว้น เสาร์อาทิตย์ที่เขาหยุดงานถึงจะดูแลลูก
3.ขอคำแนะนำท่านอื่นด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ