เที่ยวกันไม่มีเบื่อ
เที่ยวกันไม่มีบ่น
เที่ยวที่ไหนก็ดีทั้งนั้น
ว่าแต่เที่ยวไหนดีก่อน
+++ ปีที่แล้วต้องบอกว่างานแยะมาก แต่โปรแกรมเที่ยวดันแยะกว่า..จนคิดว่าน่าจะเที่ยวไม่ทันตามเป้าแล้วล่ะ เลยเริ่มต้นปีด้วยทริปล่องแพเมืองกาญฯ ซะเลย..ซึ่งถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าววัยรุ่นเสียชีวิตที่เขื่อนศรีนครินทร์ (ก๋อยก็มีแอบคิดแอบวิตกอยู่เหมือนกัน)..แต่เมื่อได้ทบทวนดีดีก็ตกผลึกว่าทุก ๆ ที่มันก็มีประวัติที่ไหน ๆ ก็คงจะมีคนเคยเสียชีวิตทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะระมัดระวังตัวกันดีแค่ไหนมากกว่า ต้องท่องไว้ในใจว่า “ไม่ประมาท” เมื่อคิดได้แบบนั้นก็จองแพกันเลยจ้า +++
+++ ทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทางไปล่องแพอีก 14 ชีวิต ก็จะมีทั้งพ่อแม่ของก๋อยและอ้ายกาก แล้วก็มีญาติ ๆ ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง และรุ่นเล็ก นัดเจอกันที่แพ Silver lake เช้าวันเสาร์ที่ 21 มกราคม +++
+++ แต่ก่อนไปล่องแพ ก๋อยตั้งใจพาพ่อ ๆ แม่ ๆ ไปแช่น้ำร้อนที่บ่อน้ำร้อนหินดาด ที่อำเภอทองผาภูมิก่อน และถึงแม้ว่าบ่อน้ำพุร้อนนั้นจะเลยจากทางไปล่องแพประมาณร้อยกว่ากิโล แต่ก๋อยคิดว่าคุ้มค่ากับการเดินทางไกลเพราะเชื่อว่าพ่อ ๆ และแม่ ๆ ต้องชอบการไปแช่บ่อน้ำร้อนในช่วงฤดูหนาวอย่างแน่นอน..ซึ่งมันก็เป็นจริงเพราะพอพ่อกลับมา เค้าเรียกร้องให้ก๋อยหาบ่อน้ำพุร้อนเพื่อจะได้หาเวลาไปแช่อีกอ่ะ (ก๋อยส่องไว้ที่กำแพงเพชรแล้วล่ะ..อิอิ)+++
///ปักหมุดได้เลยไม่มีหลงแน่นอน ระยะทางที่ว่าไกลนั้นก็แค่ปากซอยเท่านั้นแหละเพราะคุยเล่นกันไปตลอดทาง..เผลอแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว///
+++ คณะของก๋อย ซึ่งประกอบด้วย ก๋อย อ้ายกาก และพ่อ ๆ แม่ ๆ ออกเดินทางจากพิษณุโลกตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อให้ไปทันเช็คอินที่รีสอร์ทตอนบ่ายสอง (ไปเลทเกือบชั่วโมงเพราะเราจอดแวะหาไรกินกันด้วย)..“ธารารินรีสอร์ท” เป็นรีสอร์ทที่อยู่ใกล้กับบ่อน้ำพุร้อนแห่งหนึ่ง จากตัวรีสอร์ทออกมาประมาณไม่น่าจะเกิน 2 กม. ก็จะถึงบ่อน้ำพุร้อน..แต่ก่อนที่จะไปแช่น้ำ ไปดูบรรยากาศรีสอร์ทกันก่อนจ้า..ธารารินเป็นรีสอร์ทที่สร้างอยู่ข้างฝายน้ำธรรมชาติ บรรยากาศถือว่าใช้ได้ มีที่ให้นั่งเล่นนั่งกินสังสรรค์ได้ ส่วนห้องพักก็อาจไม่ได้กว้างขวางสักเท่าไหร่ สภาพแวดล้อมโดยรอบก็อาจไม่สวยงามแบบโรงแรมหรือรีสอร์ท 3 ดาวอื่น ๆ แต่ที่นี่ก๋อยว่าสะดวกดีสงบด้วย แถมใกล้เป้าหมายที่เราจะไป นั่นก็คือบ่อน้ำพุร้อนหินดาด +++
เรทคะแนนกันหน่อยตาม คหสต.นะจ๊ะ
ความคุ้มค่า 7.5/10 (ราคาห้องพัก 900 บาท/ ห้อง ไม่รวมอาหารเช้า พักได้ 3 คน ตกคนละ 300 บาท)
ความสะอาด 6.5/10 (ก๋อยมีไปแอบกวาดใบไม้ช่วยเค้าด้วย 555)
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง 7/ 10 (มีเหมือนโรงแรมทั่ว ๆ ไป)
ความสะดวก 9.5/ 10 ใกล้จุดหมาย
ปล. ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีพอสมควรสำหรับผู้เดินทางที่ต้องการความสะดวก ที่รีสอร์ทจะมีร้านอาหารของรีสอร์ทเองที่เราสามารถสั่งอาหารให้เค้าไปส่งที่ห้องพักได้เลย..ราคาอาหารก็กลางๆ ไม่แพงมาก
/// เช้าวันรุ่งขึ้นไฮไลท์ของวันที่สองต้องมา "น้ำพุร้อนหินดาด"..แม่เจ้าฟินจริง..ยิ่งช่วงอากาศเย็นแบบนี้ด้วยแล้วล่ะก้อ บ่อน้ำร้อนจึงมีควันพวยพุ่งอุ๋ง ๆ กรุ่น ๆ เลยจ้า (แนะนำให้ไปแต่เช้า ๆ ซึ่งบ่อน้ำร้อนเปิดตั้งแต่ตี 5 เลยนะ ///
/// วิธีการลงไปแช่บ่อน้ำร้อนคือต้องอาบน้ำชำระล้างร่างกายก่อน 1 รอบ..สำหรับการแช่บ่อน้ำร้อนนั้นมีการแนะนำจากผู้ที่มาท่องเที่ยวบ่อย ๆ ว่าเราต้องสลับลงระหว่างน้ำอุ่นกับน้ำเย็น แต่ก่อนจะลงบ่อใดก็ตามต้องค่อย ๆ เอาน้ำลูบตัวของเราสักหน่อยก่อน ข่าวว่าบางคนผลีผลามลงไปจนหน้ามืดก็มี..บ่อน้ำร้อนที่นี่จะแบ่งระดับความร้อนออกเป็น 3 ระดับ คือ อนุบาล-ประถม, มัธยม, และมหาวิทยาลัย (ป.โท) โดยข้างบ่อน้ำร้อนนั้นจะมีธารน้ำตกที่เราสามารถลงสับสบับแช่ทั้งร้อนและเย็นได้จ้า///
ปล. ตอบโจทย์มากสำหรับ สว. ซึ่งก็อยากลงแช่กันนาน ๆ แต่ต้องขึ้นด้วยเหตุผลว่ามีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ทยอยเข้ามาแช่กันเยอะขึ้นจ้า..บ่อน้ำร้อนนี้คือดีจนต้องมาเป็นรอบที่สองเลยแหละ
+++ หลังจากแช่บ่อน้ำร้อนจนชุ่มใจก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเลย ย้อนกลับไปที่รีสอร์ทเพื่อแพ็คของและเดินทางต่อไปยังแพ “สยาม ซิลเวอร์ เลค รีสอร์ท” ณ เขื่อนศรีนครินทร์ และเราได้แวะกินมื้อเช้ากันที่ภิรมย์ปาร์คจ้า..อาหารอร่อย วัตถุดิบดี มีร้านขายเสื้อผ้าราคา Outlet และมุมถ่ายภาพพันแปดร้อยมุม สว. ชอบมากขอบอก..+++
++ ถึงแล้วจ้า “สยาม ซิลเวอร์ เลค รีสอร์ท” แพนี้จัดเป็นแพที่อยู่สูงกว่าแพหลาย ๆ เจ้าในละแวกใกล้เคียงกัน ทำให้บรรยายกาศค่อนข้างเงียบสงบและการเดินทางค่อนข้างลำบากสักหน่อยในความคิดเห็นส่วนตัว เพราะต้องขับไต่ระดับขึ้นมาสูงพอสมควร (จากถนนข้างๆ จะเป็นหน้าผา) คนที่ขับรถไม่ชำนาญมีอันต้องให้หวาดเสียวได้ และที่สำคัญคือที่จอดรถค่อนข้างไกล (รุ่นใหญ่แอบมีบ่น..555) จากจุดจอดรถเราต้องเดินกันไกลพอสมควร แถมยังต้องไต่ลงบันไดที่ค่อนข้างชัน..แหะแหะ..ถ้าเป็นใจก๋อยเองไม่แนะนำถ้าจะให้ สว. รุ่นใหญ่มาก ๆ มาที่นี่ ++
++ ความสุขกำลังดำเนินไปอย่างช้า ๆ เมื่อได้แยกย้ายกันเข้าที่พักต่างคนก็ต่างออกมาทำกิจกรรมที่ตัวเองชื่นชอบ สำหรับห้องพักเราเหมาทั้ง 7 หลังซึ่งเป็นแพผูกเชื่อมติดกันเรียกว่า “จันผา”..เป็นอันว่าพื้นที่ทั้งหมดเราก็ใช้ได้อย่างอิสระเสรี ++
+++ กิจกรรมที่รีสอร์ที่สามารถทำได้ก็ตั้งแต่เล่นเครื่องเล่น (ฟรี) ล่องแพเปียก (ฟรี) พายเรือคายัค และเรือเป็ด (ฟรีแบบมีเก็บมัดจำ)..แต่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทุกคนจึงได้ช่วยกำชับว่าขอให้เวลาลงเล่นหรือทำกิจกรรมทางน้ำให้สวมเสื้อชูชีพทุกครั้งด้วย..ราคาที่พักหลังละ 2,500 บาท/ ห้อง พักได้ 2 คน ราคานี้รวมอาหารเช้า ซึ่งเป็นพวกข้าวต้ม ขนมปัง ไข่ดาว สลัด และน้ำดื่ม +++
เรทคะแนนกันหน่อยตาม คหสต.นะจ๊ะ
ความคุ้มค่า 8.5/10
ความสะอาด 8.0/10
สิ่งอำนวยความสะดวกห้องพัก 9/ 10 (ห้องน้ำดี ชอบมาก มีที่ตากผ้าปียกด้วย)
ความสะดวก 7.0/10 (ตินิดนึงตรงที่ที่จอดรถไกล และทางขึ้นค่อนข้างชันสำหรับรุ่นใหญ่)
/// รีสอร์ทนี้สวย สงบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมาก ๆ ///
///บริการแพเปียกแบบว่าลากออกไปโดดน้ำกลางเขื่อน..ใช้เวลาลากประมาณ 20-30 นาที สว.ชอบใจกันมากเพราะบนเรือจะเปิดเพลงโป๊งชึ่งให้ได้ร้องได้เต้นกันจนลืมวัยกันไปเล้ยยยยย///
/// แต่ที่เห็นสนุกกว่าใครคงจะเป็นอ้ายกาก เรือจอดปุ๊บรีบวิ่งขึ้นดาดฟ้าเรือตีลังกาลงมาทันที จนคนขับเรือตะโกนห้าม..แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว คืองี้ระเบียบของแพคือห้ามโดดน้ำลงมาจากชั้นสองของเรือจ้า...555 ณ จุดปล่อยเล่นน้ำนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจ้า ///
/// เรียกว่าทริปนี้ครอบครัวเราสนุกกันมาก ๆ ทุก ๆ คน คือเราได้ใช้เวลาทุกนาทีอย่างมีค่าทั้งการเดินทางไปแช่น้ำร้อน รวมทั้งการไปล่องแพที่เขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งวิวทิวทัศน์ของที่นี่สวยงามมาก สุขสงบ และสดชื่น..ขอบคุณร่างกายของเราที่ยังแข็งแรงและเอื้อให้เราได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่าง ๆ แบบสุขสุด ๆ ขอบคุณธรรมชาติที่ทำให้เรารู้จักกับความงดงามที่มีอยู่จริง ///
BYE ก่อนจ้า..

ไปไหนไปกาญจน์สุขสันต์วันครอบครัว (20-22 มกราคม 2566)
+++ ปีที่แล้วต้องบอกว่างานแยะมาก แต่โปรแกรมเที่ยวดันแยะกว่า..จนคิดว่าน่าจะเที่ยวไม่ทันตามเป้าแล้วล่ะ เลยเริ่มต้นปีด้วยทริปล่องแพเมืองกาญฯ ซะเลย..ซึ่งถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าววัยรุ่นเสียชีวิตที่เขื่อนศรีนครินทร์ (ก๋อยก็มีแอบคิดแอบวิตกอยู่เหมือนกัน)..แต่เมื่อได้ทบทวนดีดีก็ตกผลึกว่าทุก ๆ ที่มันก็มีประวัติที่ไหน ๆ ก็คงจะมีคนเคยเสียชีวิตทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะระมัดระวังตัวกันดีแค่ไหนมากกว่า ต้องท่องไว้ในใจว่า “ไม่ประมาท” เมื่อคิดได้แบบนั้นก็จองแพกันเลยจ้า +++
+++ ทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทางไปล่องแพอีก 14 ชีวิต ก็จะมีทั้งพ่อแม่ของก๋อยและอ้ายกาก แล้วก็มีญาติ ๆ ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง และรุ่นเล็ก นัดเจอกันที่แพ Silver lake เช้าวันเสาร์ที่ 21 มกราคม +++
+++ แต่ก่อนไปล่องแพ ก๋อยตั้งใจพาพ่อ ๆ แม่ ๆ ไปแช่น้ำร้อนที่บ่อน้ำร้อนหินดาด ที่อำเภอทองผาภูมิก่อน และถึงแม้ว่าบ่อน้ำพุร้อนนั้นจะเลยจากทางไปล่องแพประมาณร้อยกว่ากิโล แต่ก๋อยคิดว่าคุ้มค่ากับการเดินทางไกลเพราะเชื่อว่าพ่อ ๆ และแม่ ๆ ต้องชอบการไปแช่บ่อน้ำร้อนในช่วงฤดูหนาวอย่างแน่นอน..ซึ่งมันก็เป็นจริงเพราะพอพ่อกลับมา เค้าเรียกร้องให้ก๋อยหาบ่อน้ำพุร้อนเพื่อจะได้หาเวลาไปแช่อีกอ่ะ (ก๋อยส่องไว้ที่กำแพงเพชรแล้วล่ะ..อิอิ)+++
ความคุ้มค่า 7.5/10 (ราคาห้องพัก 900 บาท/ ห้อง ไม่รวมอาหารเช้า พักได้ 3 คน ตกคนละ 300 บาท)
ความสะอาด 6.5/10 (ก๋อยมีไปแอบกวาดใบไม้ช่วยเค้าด้วย 555)
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง 7/ 10 (มีเหมือนโรงแรมทั่ว ๆ ไป)
ความสะดวก 9.5/ 10 ใกล้จุดหมาย
ปล. ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีพอสมควรสำหรับผู้เดินทางที่ต้องการความสะดวก ที่รีสอร์ทจะมีร้านอาหารของรีสอร์ทเองที่เราสามารถสั่งอาหารให้เค้าไปส่งที่ห้องพักได้เลย..ราคาอาหารก็กลางๆ ไม่แพงมาก