JJNY : “บินไทย” พลิกขาดทุน│“พิชัย”สวน“มิ่งขวัญ”│กกต.ปัดตก คำร้อง รทสช.│ไทยร่วมชาติสมาชิก UN ร้องสันติภาพในยูเครน

“บินไทย” ปี 65 พลิกขาดทุน 272 ล้านบาท สวนทางรายได้พุ่ง เหตุค่าใช้จ่ายสูง
https://www.pptvhd36.com/news/หุ้น-การลงทุน/191202
 
 
บมจ.การบินไทย (THAI) ประกาศงบฯปี 65 มีผลขาดทุนสุทธิ 272 ล้านบาท ลดลง -100% สวนทางกับรายได้ทะลุ 105,041 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้ และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ด้านส่วนของผู้ถือหุ้นยังติดลบ 71,024 ล้านบาท

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานผลดำเนินงานประจำปี 2565 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีผลขาดทุนสุทธิ 272 ล้านบาท หรือ -100%  จากปีก่อน และมีรายได้รวม เท่ากับ 105,041 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81,294 ล้านบาท หรือ +342% จากปีก่อน
 
EBITDA หลังหักค่าเช่าเครื่องบิน อยู่ที่ 17,241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,953 ล้านบาท หรือ ดีขึ้น +735.7% จากปีก่อน  
 
รายได้ค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกิน เท่ากับ 74,036 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1,239% จากปีก่อน เนื่องจากการกลับมาให้บริการเที่ยวบินประจำ และปริมาณขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้นราว +1,118%  ขณะที่อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร เฉลี่ย 67.9% สูงกว่าปีก่อนที่เฉลี่ย 19.1%
 
รายได้การขนส่งสินค้าและไปรษณีย์ยภัณฑ์ เท่ากับ 23,784 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +117.6% เป็นผลจากปริมาณขนส่งพัสดุภัณฑ์เพิ่มขึ้น โดยมีอัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์ เฉลี่ย 63.1% ลดลงจากปีก่อนที่เฉลี่ย 94.1%
รายได้กิจการอื่น เท่ากับ 6,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +30.5% จากปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากจำนวนสายการบินลูกค้าเพิ่มขึ้น
รายได้อื่น เท่ากับ 545 ลดลง -74.9%  จากปีก่อน สาเหตุมาจากปีก่อนมีการบันทึกรายได้จากการหักกลบลบหนี้ค่าบริการและซ่อมบำรุงเครื่องยนต์
  
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวม เท่ากับ 97,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +123.8% จากปีก่อน แบ่งเป็นค่าน้ำมันเครื่องบิน 38,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น + 547.6% จากปีก่อน และค่าดำเนินงานไม่รวมน้ำมัน 58,866 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +56.9% จากปีก่อน
 
บริษัทฯ ยังรับรู้ผลขาดทุนจากการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว 4,590 ล้านบาท ดีขึ้น +84.3%  จากปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการปรับโครงสร้างหนี้
 
ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 บริษัทฯ สินทรัพย์รวม 198,178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +22.9% จากปีก่อน และมีหนี้สิน 269,202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +15.8% จากปีก่อน ขณะที่เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเท่ากับ 34,540 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 17.4% ของสินทรัพย์รวม
 
ปัจจุบัน มีเครื่องบินใช้ทำการบินรวมทั้งหมด 64 ลำ (บจ.ไทยสมายล์แอร์เวย์ กำลังใช้อยู่ 20 ลำ) เครื่องบินที่จอดระยะยาว 22 ลำ และเครื่องบินปลดละวาง รวมถึงเครื่องบินที่กำลังรอขายรวม 17 ลำ
 
ด้านส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท และบริษัทฯย่อย ยังคงติดลบ 71,024 ล้านบาท ลดลง 227 ล้านบาท จากปีก่อน



“พิชัย” สวนกลับ “มิ่งขวัญ” ลดน้ำมันได้จริงต้องทำตอนนี้เลย ไม่ต้องรอออกนโยบาย
https://siamrath.co.th/n/425872

“พิชัย” สวน “มิ่งขวัญ” ลดน้ำมันได้จริงต้องทำตอนนี้เลย ไม่ต้องรอออกนโยบาย ชี้ ต้องศึกษาให้รอบคอบ อย่าโม้เพื่อหาเสียงแต่ทำไม่ได้ แนะ พรรคเพื่อไทย ประกาศเมื่อไหร่ ทำได้แน่นอน 
 
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน และ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่ได้มีความพยายามใช้ราคาพลังงานมาหาเสียง ประกาศลดราคาโดยปราศจากความรู้ และ ไม่ได้ศึกษาปัญหาอย่างแท้จริง จะสร้างปัญหาและจะทำไม่ได้ เป็นแค่การขายฝันเพื่อหาเสียงเท่านั้น โดยล่าสุด ได้มีการเสนอว่าจะลดราคาน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 6 บาท และ จะลดราคาน้ำมันเบนซินลงลิตรละ 18 บาท ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ จึงอยากให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียด อย่าเพียงพูดเหมือนแค่หาเสียง แต่ไม่ได้ทำ หรือ ทำไม่ได้ เหมือนที่พรรคพลังประชารัฐหาเสียงหลายนโยบายแต่ไม่ได้ทำเลยมาตลอด เช่น ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400-425 บาท ปริญญาตรีเดือนละ 20,000 บาท ราคาพืชผลเกษตร ข้าว ยางพารา อ้อย ที่ไม่ได้ทำเลย เป็นต้น และ อีกทั้งเหมือนในสมัยที่นายมิ่งขวัญ หาเสียงคราวที่แล้วในปี 2562 ว่าจะลดราคาน้ำมันเบนซิน ลิตรละ 10 บาทในขณะนั้น แต่พอสื่อจะให้ชี้แจงออกทีวีโต้วาที นายมิ่งขวัญ กลับไม่กล้าออกมาชี้แจง เพราะเชื่อว่าจะตอบข้อซักถามไม่ได้ 
 
ทั้งนี้ หากนายมิ่งขวัญ สามารถทำได้จริง ก็อยากให้นายมิ่งขวัญ ได้สำนึกว่าปัจจุบันพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคใหญ่ที่สุดที่ร่วมรัฐบาล ดังนั้นถ้าหากทำได้จริง ต้องทำทันที ไม่ต้องหาเสียง ควรให้พรรคพลังประชารัฐเสนอให้รัฐบาลทำเลย จะมารอหลังเลือกตั้งทำไม เพราะประชาชนเดือดร้อนกันมากอยู่แล้ว นอกจากสิ่งที่นายมิ่งขวัญ เสนอเป็นการพูดขายฝันเพื่อหาเสียงเท่านั้น แต่ทำไม่ได้จริง ซึ่งถ้าทำได้จริงต้องทำเลยทันที ทั้งนี้อยากให้นายมิ่งขวัญ ได้ไปศึกษารายละเอียดให้ดีไม่ใช่ดูแค่โครงสร้างราคาแล้วเอาตัวเลขในแต่ละช่องมาคำนวณบวกลบและพูดมั่ว โดยต้องตอบให้ได้ว่า หนี้กองทุนน้ำมันจำนวนกว่าแสนล้านบาท ที่รัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐก่อหนี้นี้ขึ้นมา จะมีแนวทางในการชำระหนี้นี้อย่างไร ถ้าจะลดทุกอย่างหมด อีกทั้งรายได้ของรัฐที่ได้จากภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพื่อนำไปสร้างถนนและซ่อมแซมบำรุงถนนหนทางจะมาจากไหน เงินสนับสนุนค่าก๊าซหุงต้มที่ปัจจุบันจ่ายไปแล้วกว่า 4-5 หมื่นล้านบาทจะเอามาจากที่ใด เป็นต้น นี่เป็นเพียงบางคำถามเท่านั้น ยังมีอีกหลายคำถาม ซึ่งถ้านายมิ่งขวัญ มั่นใจว่าคิดครบทุกประเด็นก็ให้ออกมาชี้แจงให้ประชาชนทราบและทำทันทีเลยโดยไม่ต้องรอ เพราะจะได้คะแนนเสียงทันที ซึ่งตนเชื่อว่าทำไม่ได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ก็มีพรรคการเมืองหาเสียงว่าจะลดค่าไฟฟ้าเหลือหน่วยละ 3.50 บาท ซึ่งก็ไม่สามารถทำได้จริงเช่นกัน 
 
เรื่องราคาพลังงานของประเทศไทยเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและซับซ้อน และราคาพลังงานของไทยขึ้นกับราคาในตลาดโลกเพราะไทยยังต้องนำเข้าพลังงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นนโยบายด้านพลังงานจะต้องคิดให้รอบคอบและต้องคิดครบทุกกรอบและต้องศึกษารายละเอียดให้ดี ซึ่งพรรคเพื่อไทยทำการบ้านเรื่องนี้มาโดยตลอด และสามารถแก้ไขและลดราคาที่ทำได้จริงและเคยทำมาแล้ว ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยประกาศเรื่องใดพรรคเพื่อไทยจะต้องทำได้จริง เพื่อให้ประชาชนมีความสุข และต้องไม่แค่พูดแค่หาเสียงหรือแค่ขายฝัน ขอให้มั่นใจและเลือกพรรคเพื่อไทยกันมากๆ ให้ชนะแบบแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส. เกินกว่า 300 เสียง พรรคเพื่อไทยจะเข้ามาแก้ไขลดราคาพลังงานให้ยุติธรรมและจะทำได้อย่างแท้จริง 


 
กกต.ปัดตก คำร้อง รทสช. ขนคนมาประชุม แจกเสื้อแจกหมวก มหรสพ ปราศรัยหยาบคาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3840583
 
กกต.ปัดตก คำร้อง รทสช. ขนคนมาประชุม แจกเสื้อแจกหมวก มหรสพ ปราศรัยหยาบคาย
 
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า 
 
คุณวีระ สมความคิด ได้รับหนังสือแจ้งจาก กกต. (ผมไม่ได้) แจ้งว่า คำร้องที่ร้องไปวันที่ 19 มกราคม 2566 และจะรอคำตอบใน 1 เดือนมิฉะนั้นจะแจ้งความดำเนินคดีฐานละเว้นฯ นั้น กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ควรรับไว้พิจารณา
 
จดหมายราชการที่อ่านยาก บอกว่า มันไม่เข้าหลัก ข้อ 22(4) ข้อ 23(1) ข้อ 27(1) และข้อ 27(2) ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563

อ่านแล้วจะรู้ไหมว่า เพราะอะไร แถมหากไปค้นระเบียบ กกต.ฉบับ ปี 2561 ยังถูกเอาออกจากเว็ปไซต์ของ กกต. แล้วอีก เหลือแต่ฉบับที่ 2 ที่แก้ไข ซึ่งไม่มี ข้อกฎหมายที่อ้างอีก
 
แต่เมื่อหาระเบียบมาอ่านจนได้ ก็รู้ว่า ที่ตีตก เพราะเหตุ 2 ประการ คือ หนึ่ง หลักฐานเลื่อนลอย ไม่มี วัน เวลา สถานที่ บุคคล หลักฐานที่ชัดเจน และ สอง ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้อง เพราะไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้น

คนทั่วไป หรือนักร้องรายวัน พอได้จดหมายก็คงเลิก แต่ไม่ใช่ วีระ และสมชัย เพราะอ่านกฎหมายรู้เรื่องและรู้ทัน และยังมีเมตตาให้ ท่านเลขา กกต. ได้เตรียมตัวหาคำตอบ
 
วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2566 เวลา 11.00 น. ผมจะขอเข้าพบท่าน เลขาธิการ กกต. ให้โอกาสท่านชี้แจงว่า เหตุผลที่ไม่รับคืออะไร

หาก สิ่งที่ผมร้อง นั้นไม่ขัดกับข้อกฎหมายที่ท่านยกเป็นเหตุปฏิเสธคำร้อง
 
กกต. 7 คน ที่ลงมติปฏิเสธคำร้อง เตรียมรับภัยพิบัติที่ตามมาจากการลงมติแบบไม่ถูกต้องด้วย
 
สมชัย ศรีสุทธิยากร
วีระ สมความคิด
24 กุมภาพันธ์ 2566

https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0MTtixfiUyPLmqUwUp3wrWXcNxJjiNVXVpMUdH4ytshf6sX6ymYdVi1ceJWhKzz1Bl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่