ข่าวเมื่อวาน (22 กุมภาพันธ์ 66)
ยังมีเหตุการณ์ในอดีตอีกนับแสนได้ ที่มาจากอุบัติเหตุโง่ๆแบบนี้
ปกติ เวลาไฟเขียว ก่อนที่จะแดง มันจะเหลืองก่อน
ซึ่งตอนที่เราเหลือง อีกฝ่ายจะยังแดง
ตอนที่เราเหลือง เราสามารถขับออกไปได้ ถ้า เราขับแบบมีคุณภาพได้ กล่าวคือ จุดที่เข้าช่วงหักเลน คุณเข้าไปตอน เขียว/เหลือง และคุณเร่งเครื่องมากพอ เพื่อให้ไปถึงอีกฝั่งได้ภายในไม่เกิน 3 วิ (อย่างปลอดภัย !) นับจากที่มันเหลือง
เช่น หลังจากที่คันหน้าออกไปมากพอจนถึงระยะปลอดภัยเร่งเครื่องของคุณ ตอนนั้นคุณไฟเขียวและเลขนับถอยหลังคือ 2 วิ
นั่นหมายความว่าคุณมีระยะเวลา 4 วิโดยประมาณ สำหรับเร่งเครื่องไปให้ถึงอีกฝั่ง
ไม่ว่ารถคุณจะใหญ่แค่ไหน ไม่ว่ารถคุณจะใกล้พังเร่งขึ้นช้าแค่ไหน
คุณเป็นคนขับ ถ้าคุณจะตัดสินใจเร่งเครื่อง คุณเป็นคนที่ "ต้องรู้" ให้ได้ ว่าคุณทำมันได้ทันมั้ย
ย้ำว่าต้องรู้ เท่านั้น นี่คือโอกาสที่ "ควร" จะมีไว้ให้เฉพาะผู้ชำนาญการ
ถ้า "ไม่รู้" คุณก็แค่หยุดรอครับ รถหลังคุณ ถ้าเค้ามีคุณภาพ เค้าไม่บีบแตรด่าหรอกว่าทำไมไม่ไป
ถ้าผมเป็นรถคันหลังในกรณีที่คุณหยุดงี้ ผมชมด้วยซ้ำว่าคุณคือคนที่รู้ ศักยภาพ "ของตัวเอง"
จุดนี้จริงๆการจราจรสร้างมาเพื่อให้รถที่มาเรื่อยๆด้วยไฟเขียว ได้เตรียมชะลอเพื่อจอด
และมันก็เป็นการ compromise (ปิดตาข้างนึง ยอมๆให้เกิดขึ้นไป หาคำไทยไม่ถูก) ให้คนขับที่ "ฉลาดและมีคุณภาพ" คุณไปได้ แต่คุณต้องไปอย่างเล็งเห็นรู้ชัดว่าคุณจะไปถึงฝั่งได้ภายใน 3 วิ นับหลังจากเหลือง หรือก็คือ ไปถึงฝั่งได้ก่อนอีกฝ่ายจะเขียว
ไปอย่างปลอดภัย และที่สำคัญ ไปอย่างรู้กาลเทศะ
เช่น คุณได้ระยะเร่งเครื่องปลอดภัยมาตอนที่ยังเขียวนับถอยหลังเหลือ 3 วิ คุณมี 5 วิก็จริง แต่ถ้าข้างหน้าคุณ มันเป็นรถที่จอดติดอยู่กลางแยก ไปไม่ได้เพราะฝั่งที่จะไปมันตันเข้าไม่ได้ อาจจะเพราะรถหน้าคุณอ่านเกมจราจรไม่ขาดหรือมีเหตุผลอื่นใด คุณก็ไม่ควรจะไปผสมโรง ไปเข้าร่วมเป็นจระเข้อีกตัวที่ขวางคลองนะครับ
ขอโทษที่พูดแรง แต่คนขับรถบางกลุ่ม ขับรถห่วยครับ
เค้าออกไปทั้งๆที่มันไม่ทัน ไม่รู้ว่าเค้าไม่รู้ได้เลยจริงๆ ว่ามันไม่ทัน หรือ รู้ แต่จะไปให้ได้
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร หยุดเถอะครับ หยุดเป็นส่วนหนึ่งของอุบัติเหตุงี่เง่า
อีกส่วนหนึ่ง
ฝั่งที่ยังแดงอยู่
ก็ขอความกรุณา ถ้ามันไม่เขียว อย่าออกมา มันคือการทำตัวขยะๆ
2 อันข้างล่างนี้ ผมเจอบ่อยสุดเลยตั้งแต่ขับรถมา
1 คือ 3-5 แยก ทางผมไฟเขียว รถก็ไปเรื่อยๆ แต่รถที่ไปมันไม่ได้ต่อๆกันมาก มันมาช่องว่างอยู่บ้าง ละก็จะมีพวกรถเล็ก โดยเฉพาะมอไซ จากเลนที่ยังแดง อยู่ๆสะเออะมาแจม เห้ยคือ ถึงมันจะมีพื้นที่ที่คุณคิดว่ามากพอจะแทรกสอดไปได้
แต่คุณ เดาความเร็วรถได้ทุกคันหรอ มันก็มีได้นะครับ รถที่คิดว่าตัวแดงเขียวละก็อยากรีบไปให้ถึงฝั่งไวๆ กลัวจะอยู่ๆแดงกลางแยกขึ้นมาและตัวเองยังไม่ถึงฝั่ง ไม่อยากเป็นพวกบ้าจอดรถไว้กลางแยกให้กีดขวางทางอื่นๆเค้า และก็มีได้นะครับ รถที่คิดว่า ไฟเขียวทั้งที รถที่มีสิทธิ์ไปควรได้ไป เราควรจะเร่งเครื่องเพื่อเพิ่มโอกาสให้มีจำนวนรถได้ข้ามไปกับเรา มันเข้าใกล้ขีดจำกัดของจำนวนรถที่ข้ามได้ในทางอุดมคติมากที่สุดที่เราทำได้ เป็นส่วนดีๆจากช่วงต่อจากเราที่เราทำให้มันดีที่สุด
อธิบายให้เห็นภาพคือ ในช่องว่างที่คันฝ่าไฟแดงคิดว่าจะแทรกสอดได้อย่างปลอดภัย มันคือช่องว่างเดียวกันกับ ช่องว่างที่รถที่ไปอย่างถูกต้องกำลังจะเข้าไปเติมเต็มในพื้นที่จุดนั้น
สุดท้ายก็เสี่ยงอุบัติเหตุ อุบัติเหตุแบบโง่ๆด้วย ขอย้ำไว้ตรงนี้
2 คือ ทางผมไฟแดง ทางคุณไฟแดง ทางไฟเขียวคือทางอื่นอีก
พอทางผมไฟเขียว ซึ่งทางคุณยังแดง คุณกลับชิงไป
เห้ยคือ ทางที่พึ่งเขียวอะ เค้าก็รู้มั้ยว่าเค้าต้องไป เค้าก็ไม่ได้คาดหวังมั้ยว่าจะโดนขัด
กรณีที่ทางเขียว จากล่างไปบน และโดนตัดด้วยรถขับจาก ซ้าย/ขวา ไปบน เนี่ย มันยังมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุต่ำนะ เพราะเห็นได้ง่าย หยุดให้ทันได้ไม่ยาก ถ้าสถานการณ์มันอำนวย
แต่ที่มีความเสี่ยงสูงเลย คือ กรณีที่ทางเขียว จากล่างไปบน และโดนตัดด้วยรถขับจาก ซ้าย/ขวา ไป ขวา/ซ้าย อันนี้มันคือตัดหน้าเลย
ผมละก็เกือบจะชนหลายรอบแล้วกับแบบนี้
คือ คุณครับ อันนี้ขอพูดตามตรง เวลาผมติดไฟแดง แล้วถ้าผมอยู่คันหน้าสุดอะ ผมรู้สึกเป็นเกียรตินะครับ
เป็นเกียรติ ที่จะแสดงให้ทุกคนได้เห็น ว่ามันยังมีนักขับคุณภาพอยู่ๆใกล้ๆตัวของใครก็ตามที่เห็น
นักขับคุณภาพ ที่มีสติ ไฟเขียวแล้วออกตัวภายใน 3 วิ
นักขับคุณภาพ ที่ไม่นั่งบื้อในรถจนเลยสัญญาณปืนบอกให้สตาร์ท
แต่หลังๆมา พอผมเป็นคันหน้าในแถวไฟแดงเนี่ย
พอมันเขียว ผมต้องรอ 1-4 วิ ถึงออกตัว ตามแต่ละสถานการณ์
รอเพื่อให้มั่นใจได้จริงๆ ว่าจะไม่มีการปะทะกับพวกฝ่าไฟแดง
แล้ว มันใช่เรื่องมั้ยอะ 4 วิ คือเวลามากพอ ที่จะให้โอกาสรถคันอื่นได้ไป สูงสุดถึง 3 คัน
ก็ฝากไว้ให้คิดครับ
ขอร้อง เลิกฝ่าไฟแดงซะทีเถอะ หยุดได้แล้วนะครับกับการสร้าง “อุบัติเหตุโง่ๆ”
ข่าวเมื่อวาน (22 กุมภาพันธ์ 66)
ยังมีเหตุการณ์ในอดีตอีกนับแสนได้ ที่มาจากอุบัติเหตุโง่ๆแบบนี้
ปกติ เวลาไฟเขียว ก่อนที่จะแดง มันจะเหลืองก่อน
ซึ่งตอนที่เราเหลือง อีกฝ่ายจะยังแดง
ตอนที่เราเหลือง เราสามารถขับออกไปได้ ถ้า เราขับแบบมีคุณภาพได้ กล่าวคือ จุดที่เข้าช่วงหักเลน คุณเข้าไปตอน เขียว/เหลือง และคุณเร่งเครื่องมากพอ เพื่อให้ไปถึงอีกฝั่งได้ภายในไม่เกิน 3 วิ (อย่างปลอดภัย !) นับจากที่มันเหลือง
เช่น หลังจากที่คันหน้าออกไปมากพอจนถึงระยะปลอดภัยเร่งเครื่องของคุณ ตอนนั้นคุณไฟเขียวและเลขนับถอยหลังคือ 2 วิ
นั่นหมายความว่าคุณมีระยะเวลา 4 วิโดยประมาณ สำหรับเร่งเครื่องไปให้ถึงอีกฝั่ง
ไม่ว่ารถคุณจะใหญ่แค่ไหน ไม่ว่ารถคุณจะใกล้พังเร่งขึ้นช้าแค่ไหน
คุณเป็นคนขับ ถ้าคุณจะตัดสินใจเร่งเครื่อง คุณเป็นคนที่ "ต้องรู้" ให้ได้ ว่าคุณทำมันได้ทันมั้ย
ย้ำว่าต้องรู้ เท่านั้น นี่คือโอกาสที่ "ควร" จะมีไว้ให้เฉพาะผู้ชำนาญการ
ถ้า "ไม่รู้" คุณก็แค่หยุดรอครับ รถหลังคุณ ถ้าเค้ามีคุณภาพ เค้าไม่บีบแตรด่าหรอกว่าทำไมไม่ไป
ถ้าผมเป็นรถคันหลังในกรณีที่คุณหยุดงี้ ผมชมด้วยซ้ำว่าคุณคือคนที่รู้ ศักยภาพ "ของตัวเอง"
จุดนี้จริงๆการจราจรสร้างมาเพื่อให้รถที่มาเรื่อยๆด้วยไฟเขียว ได้เตรียมชะลอเพื่อจอด
และมันก็เป็นการ compromise (ปิดตาข้างนึง ยอมๆให้เกิดขึ้นไป หาคำไทยไม่ถูก) ให้คนขับที่ "ฉลาดและมีคุณภาพ" คุณไปได้ แต่คุณต้องไปอย่างเล็งเห็นรู้ชัดว่าคุณจะไปถึงฝั่งได้ภายใน 3 วิ นับหลังจากเหลือง หรือก็คือ ไปถึงฝั่งได้ก่อนอีกฝ่ายจะเขียว
ไปอย่างปลอดภัย และที่สำคัญ ไปอย่างรู้กาลเทศะ
เช่น คุณได้ระยะเร่งเครื่องปลอดภัยมาตอนที่ยังเขียวนับถอยหลังเหลือ 3 วิ คุณมี 5 วิก็จริง แต่ถ้าข้างหน้าคุณ มันเป็นรถที่จอดติดอยู่กลางแยก ไปไม่ได้เพราะฝั่งที่จะไปมันตันเข้าไม่ได้ อาจจะเพราะรถหน้าคุณอ่านเกมจราจรไม่ขาดหรือมีเหตุผลอื่นใด คุณก็ไม่ควรจะไปผสมโรง ไปเข้าร่วมเป็นจระเข้อีกตัวที่ขวางคลองนะครับ
ขอโทษที่พูดแรง แต่คนขับรถบางกลุ่ม ขับรถห่วยครับ
เค้าออกไปทั้งๆที่มันไม่ทัน ไม่รู้ว่าเค้าไม่รู้ได้เลยจริงๆ ว่ามันไม่ทัน หรือ รู้ แต่จะไปให้ได้
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร หยุดเถอะครับ หยุดเป็นส่วนหนึ่งของอุบัติเหตุงี่เง่า
อีกส่วนหนึ่ง
ฝั่งที่ยังแดงอยู่
ก็ขอความกรุณา ถ้ามันไม่เขียว อย่าออกมา มันคือการทำตัวขยะๆ
2 อันข้างล่างนี้ ผมเจอบ่อยสุดเลยตั้งแต่ขับรถมา
1 คือ 3-5 แยก ทางผมไฟเขียว รถก็ไปเรื่อยๆ แต่รถที่ไปมันไม่ได้ต่อๆกันมาก มันมาช่องว่างอยู่บ้าง ละก็จะมีพวกรถเล็ก โดยเฉพาะมอไซ จากเลนที่ยังแดง อยู่ๆสะเออะมาแจม เห้ยคือ ถึงมันจะมีพื้นที่ที่คุณคิดว่ามากพอจะแทรกสอดไปได้
แต่คุณ เดาความเร็วรถได้ทุกคันหรอ มันก็มีได้นะครับ รถที่คิดว่าตัวแดงเขียวละก็อยากรีบไปให้ถึงฝั่งไวๆ กลัวจะอยู่ๆแดงกลางแยกขึ้นมาและตัวเองยังไม่ถึงฝั่ง ไม่อยากเป็นพวกบ้าจอดรถไว้กลางแยกให้กีดขวางทางอื่นๆเค้า และก็มีได้นะครับ รถที่คิดว่า ไฟเขียวทั้งที รถที่มีสิทธิ์ไปควรได้ไป เราควรจะเร่งเครื่องเพื่อเพิ่มโอกาสให้มีจำนวนรถได้ข้ามไปกับเรา มันเข้าใกล้ขีดจำกัดของจำนวนรถที่ข้ามได้ในทางอุดมคติมากที่สุดที่เราทำได้ เป็นส่วนดีๆจากช่วงต่อจากเราที่เราทำให้มันดีที่สุด
อธิบายให้เห็นภาพคือ ในช่องว่างที่คันฝ่าไฟแดงคิดว่าจะแทรกสอดได้อย่างปลอดภัย มันคือช่องว่างเดียวกันกับ ช่องว่างที่รถที่ไปอย่างถูกต้องกำลังจะเข้าไปเติมเต็มในพื้นที่จุดนั้น
สุดท้ายก็เสี่ยงอุบัติเหตุ อุบัติเหตุแบบโง่ๆด้วย ขอย้ำไว้ตรงนี้
2 คือ ทางผมไฟแดง ทางคุณไฟแดง ทางไฟเขียวคือทางอื่นอีก
พอทางผมไฟเขียว ซึ่งทางคุณยังแดง คุณกลับชิงไป
เห้ยคือ ทางที่พึ่งเขียวอะ เค้าก็รู้มั้ยว่าเค้าต้องไป เค้าก็ไม่ได้คาดหวังมั้ยว่าจะโดนขัด
กรณีที่ทางเขียว จากล่างไปบน และโดนตัดด้วยรถขับจาก ซ้าย/ขวา ไปบน เนี่ย มันยังมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุต่ำนะ เพราะเห็นได้ง่าย หยุดให้ทันได้ไม่ยาก ถ้าสถานการณ์มันอำนวย
แต่ที่มีความเสี่ยงสูงเลย คือ กรณีที่ทางเขียว จากล่างไปบน และโดนตัดด้วยรถขับจาก ซ้าย/ขวา ไป ขวา/ซ้าย อันนี้มันคือตัดหน้าเลย
ผมละก็เกือบจะชนหลายรอบแล้วกับแบบนี้
คือ คุณครับ อันนี้ขอพูดตามตรง เวลาผมติดไฟแดง แล้วถ้าผมอยู่คันหน้าสุดอะ ผมรู้สึกเป็นเกียรตินะครับ
เป็นเกียรติ ที่จะแสดงให้ทุกคนได้เห็น ว่ามันยังมีนักขับคุณภาพอยู่ๆใกล้ๆตัวของใครก็ตามที่เห็น
นักขับคุณภาพ ที่มีสติ ไฟเขียวแล้วออกตัวภายใน 3 วิ
นักขับคุณภาพ ที่ไม่นั่งบื้อในรถจนเลยสัญญาณปืนบอกให้สตาร์ท
แต่หลังๆมา พอผมเป็นคันหน้าในแถวไฟแดงเนี่ย
พอมันเขียว ผมต้องรอ 1-4 วิ ถึงออกตัว ตามแต่ละสถานการณ์
รอเพื่อให้มั่นใจได้จริงๆ ว่าจะไม่มีการปะทะกับพวกฝ่าไฟแดง
แล้ว มันใช่เรื่องมั้ยอะ 4 วิ คือเวลามากพอ ที่จะให้โอกาสรถคันอื่นได้ไป สูงสุดถึง 3 คัน
ก็ฝากไว้ให้คิดครับ