สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาขอคำปรึกษาเรื่องค่าสินไหมทดแทนนะคะ
เหตุเกิดจาก เรากับแฟนกำลังขับรถมอไซค์ไปทำงานตอนเช้า แล้วมีรถกระบะมาตัดหน้า ทำให้เราชนเข้ารถเขาอย่างจัง ตัวเราและแฟนบาดเจ็บค่ะ อาการบาดเจ็บ แผลฟกช้ำ แผลถลอกที่หน้าและตามลำตัว ไม่มีอะไรแตกหักค่ะ ส่วนรถคือยับเยินทั้งคัน เราสองคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล นอนโรงพยาบาล2วัน1คืน ที่เหลือกลับมาพักที่บ้านต่อค่ะ ในเรื่องสินไหมทดแทน ทางประกันของคู่กรณีนำรถเราไปซ่อมให้ จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามใบรับรองแพทย์ ในตอนแรกเราไม่ได้จะเรียกร้องอะไรจากคู่กรณีเลย เพราะกะไปเคลียร์ประกันจ่ายก็จบ แต่ตอนไปพบครั้งแรก แฟนของคู่กรณีคือตึงใส่ครอบครัวเรามากเลยค่ะ เราไหว้ทักทายทั้งไปและกลับ เขารับไหว้แบบไม่เต็มใจ ขนาดตอนเรานั่งฟังประกันอธิบายค่าสินไหมทดแทน แฟนคู่กรณีใส่แมสนะคะ เรายังมองออกเลยว่าเขาไม่พอใจ ทางเรานำผู้ใหญ่ไปด้วยเพราะเราเด็กค่ะ ให้ผู้ใหญ่ไปช่วยฟัง ป้าเรายิ้มให้เขากลับตึงใส่ ไม่มีขอโทษ ไม่มีคำถามที่จะถามสารทุกข์สุขดิบฝ่ายเราสักคำว่าเป็นยังไงบ้าง ตอนนอนรพ.ไม่เคยมาเยี่ยม มีแค่คู่กรณีโทรมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง เขามาเยี่ยมไม่ได้นะเพราะติดงาน ในกรณีนี้เราควรจัดการยังไงดีคะ เราเรียกค่าสินไหมจากคู่กรณีไปคนละ20000 ที่นอกเหนือจากประกันจ่าย แต่แจ้งนะคะว่าเขาไหวแค่ไหนมาคุยกันได้ค่ะ เพราะเราไม่ได้จะเอาจากเขาแต่แรก แต่เจอกิริยาแบบนี้เลยไม่ค่อยโอเค ถ้าเขาไม่ยอมจ่ายในกรณีนี้ ต้องขึ้นศาลใช่มั้ยคะ ใจจริงไม่อยากให้เป็นเรื่องยืดเยื้อ แต่แฟนของคู่กรณีไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิด หรืออะไรเลยค่ะ ทำเหมือนทางเราผิดที่ไปชนเขาเพราะเขาตัดหน้าเรา เหมือนเราผิดที่เจ็บตัว ผิดพลาดตรงไหนรบกวนพี่ๆช่วยออกความเห็น ชี้แจงแนวทางให้หน่อยนะคะว่าควรปฎิบัติไปทางไหน ขอบคุณมากๆค่ะ แท็กห้องผิดไปขออภัยด้วยนะคะ