สวัสดีครับ ผม หมียักษ์ในบ้านโพรงกระต่าย ห่างหายจากการตั้งกระทู้ไปนาน เนื่องจากชีวิตก็วนลูปกับการทำงานอันน่าเบื่อ
วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การไปเป็นครูอาสา ณ บ้านห้วยงู ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ กันครับ
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ผมมีความใฝ่ฝันอยากกจะไปเป็นครูอาสาสักครั้งในชีวิต จึงค้นหาข้อมูล
และก็เจอแบบต้องอยู่เป็นเดือนๆ สอนหนังสือจริงๆ เหมือนเราเป็นครูจริงๆ
ด้วยภาระหน้าที่ บวกกับการงานของเรา และเราไม่ได้เรียนจบครูมา จึงไม่สามารถทำได้
และเหมือนโชคชะตานำพา ได้ไปเจอเพจอาสา ของครูสุ (SU Backpacker - ครูสุอาสาแบกเป้เที่ยว)
ผมก็ได้ติดตามเพจสักพัก เห็นถึงความตั้งใจ กิจกรรมต่างๆของครูสุ ผมจึงสมัครไปเป็นครูอาสา
และเรื่องราวก็เริ่มขึ้น
ผมตื่นเต้นและเตรียมซื้อของสำหรับการไปใช้ชีวิตบนดอย 7 วัน ด้วยปกติไปแคมป์อยู่แล้ว ก็พอจะมีของใช้จำเป็นอยู่บ้าง
ดูคลิปต่างๆเกี่ยวกับห้วยงู ซึ่งมีน้อยมาก แต่พอจะจับใจความได้ว่ามีลักษณะเป็นยังไง
ทางด้านสื่อการสอนก็เตรียมไปบ้างพอสมควร
ผมเดินทางโดยเครื่องบิน ตรัง - กทม และไปต่อรถทัวร์ที่ทางครูสุจัดไว้ให้
การไปเป็นครูอาสาครั้งนี้ ผมได้พบเพื่อนใหม่ 19 คน
มิตรภาพก่อตัวขึ้นอย่างงดงามและแน่นแฟ้น เพราะเราทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน
เราเดินทางไปยัง เชียงดาว เมืองคอง ด้วยรถแดง และขึ้นไปยังห้วยงู ด้วยรถกะบะ
เมื่อเรามาถึงสิ่งที่เราสวัมผัสได้คือความสงบ เงียบ เหมือนที่นี่หยุดเวลาไว้ อากาศกำลังดี ช่วงเดือน พฤศจิกายน
ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เลยแม้แต่น้อย
ไฟฟ้าเป็นระบบน้ำ ใช้ได้เฉพาะแสงสว่างและชาร์จโทรศัพท์
ค่ายอาสาครั้งนี้มีปัญหาทางด้านการสื่อสารและปัจจัยอื่นๆนิดหน่อย ทำให้เด็กๆ บางส่วนลงไปเรียนด้านล่าง เราได้เจอแค่เด็กเล็กๆ เท่านั้น
เราจึงไม่ได้สอนอะไรมากนอกจากแจกขนมเด็กๆ และทำช่วยกันทำสื่อการสอน
ครูสุ บอกกับพวกเราทุกคนว่า เราจะกลับมาเจอเด็กๆใหม่
จบพาส 1 เราแยกย้ายกันไปโดยให้คำมั่นกันไว้ว่าจะกลับขึ้นมาอีกครั้ง เดือน กุมภาพันธ์
ต่อไปนี้คือของจริง ชีวิตครูอาสาแบบที่เราอยากเจอ
เมื่อถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ไลน์กลุ่มก็แจ้งเตือน สอบถามสมาชิกที่จะมาเจอเด็กๆ
รอบนี้เราเหลือกัน แค่ 3 คน คนที่มีแพสชั่นแรงกล้าจริงๆ
คือ ครูสุ ผม ดั้ม และลุง
(ครูสุ ครูพี่น๊อต ครูพี่ดั้ม)
ผมไลน์ถามครูสุว่า ถ้ามีแค่เราสองคนละ ครูสุตอบเลยว่า สองคนก็ไป ครูสุนัดเด็กๆไว้แล้ว เค้ารอ หรือแม้แต่จะมีแค่ครูสุคนเดียว ครูสุก็ต้องไป
ครั้งนี้เราเจอกันที่เชียงใหม่ และนั่งรถกะบะไปเหมือนเคย เราแวะเตรียมอาหารสำหรับ 6 วันบนดอย สำหรับเราและเด็กๆ
เราแวะรับเด็กๆ ที่โรงเรียนในเมืองคองขึ้นรถไปกับเรา เด็กๆ ดีใจอย่างสังเกตได้
เพราะพวกเค้าจะต้องจากบ้านมาเรียนในเมืองด้านล่าง ได้กลับบ้าน เดือนละครั้งด้วยรถรับส่งที่ตกลงกันไว้
เด็กๆที่นี่ไม่ได้เรียนตรงตามอายุของตัวเอง ครูสุบอกว่า ต้องต่อสู้ กับอะไรหลายๆอย่าง ให้เด็กๆได้มีโอกาสได้เรียน
บางคนได้เริ่มต้นเรียน ชั้น ป.1 ตอนอายุ 15 แล้ว โดยจะสอบเทียบวัดระดับความรู้ ปกติเด็กๆ จะต้องช่วยที่บ้านทำงาน ในสวนในไร่
วันแรกเรามาถึงโรงเรียนที่ห้วยงู เด็กๆ วิ่งกลับบ้านไปเอาผ้าห่ม มานอนกับเราที่โรงเรียน และอยู่กับเราตลอด สามวัน
วันแรกเริ่มต้นด้วยการ จัดการโรงเรียน ปัดกวาดเช็ดถู ขนน้ำ หาฝืน เตรียมทำอาหาร และลุงตัดผมให้เด็กๆ
ผมทึ่งกับทักษะการเอาชีวิตรอดของเด็กๆที่นี่มาก พวกเค้า หาฟืน หุงข้าว จับปลา อาบน้ำในลำธาร ทำอะไรต่างๆได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
พวกเค้ามีความสุขกับสิ่งที่มี เล่นสนุกบนกองทรายริมลำธาร
แล้วเด็กๆ ประมาณ 20 คน ก็อยู่กับเรา นอน เล่น เรียน กิน กับเรา ตลอดช่วงเวลาที่มี
เมื่อเราเตรียม อุปกรณ์ต่างๆเสร็จ ผมกับครูสุเรียกเด็กๆ เข้าไปห้องเรียน และสอนเรื่องดวงดาวแก่พวกเค้า จากนั้นก็แบ่งไปทำอาหาร
ผมก็เรียกเด็กๆ มาเรียนรู้การใช้กล้องส่องทางไกลที่ผมได้เตรียมไป เรา ดูนก ดาว พระจันทร์ เด็กๆ ต่อคิวกันยาว
เราทำอาหารง่ายๆ เด็กๆ ก็ช่วยกันทำ มีทั้งเนื้อ และไก่
ซึ่งการทำอาหารก็เหมือนเป็นกิจกรรมหลักของเราเลย 55555
หลังจากนั้นเราก็ปล่อยให้เด็กๆ เล่น แจกขนม อาบน้ำลำธาร เพื่อมานอนดูหนัง กัน
ผมโหลดหนังจาก NETFLIX ไว้หลายเรื่อง ผมถามว่าอยากดูเรื่องอะไร เด็กๆบอกอยากดูหนังต่อสู้
ผมเลยให้เด็กๆดู นาจา เกิดอีกครั้งก็ยังเทพ และตลอดทั้งค่ายก็ไม่ได้เปิดเรื่องอื่นอีกเลย เด็กๆสามารถดูเรื่องเดิมได้ 5 รอบ 5555
แล้วเราก็หลับไปหมดทั้งแก๊งค์
ตื่นเช้า เราก็ทำอาหาร ผิงไฟ เพราะมันหนาวมากกกกกกกกก น่าจะเลขตัวเดียว และผมลืมเอาเสื้อกันหนาวไป อากาศช่วงเช้าทรมานสุดๆ
ปิ้งไก่
น้องมาปิงไฟด้วย น้องหนาว
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ พวกเราก็สอนภาษาอังกฤษง่ายๆ แก่เด็กๆ ให้ท่องคำศัพท์ หัดแต่งประโยคง่ายๆ
เด็กๆ เริ่มอยากออกไปเล่นน้ำ เราก็พักเบรกให้เด็กๆไปเล่นน้ำหาปลา และให้การบ้านให้แต่งประโยคภาษาไทย เพื่อจะสอนภาษาอังกฤษต่อ
ลำธารที่นี่น้ำใสมาก ผมชอบมาก
เด็กๆบางส่วนลงไปหาปลา บ้างก็อาบน้ำ สระผม
อาหารของเรา
หนาวจนต้องมาอาบแดด
เด็กๆ ช่วยกันทำอาหาร หาฝืน ก่อไฟ หุงข้าว
หลังจากเราอิ่มกันแล้วผมก็ชวนเด็กๆ มาถ่ายภาพเล่นๆ เด็ฏๆสนุกและตื่นเต้นมากที่ได้เห็นรูปตัวเองในกล้อง
สภาพหลังอาบน้ำเสร็จก็ไปเล่นดินกระโดดตีลังกาเหมือนเดิม
ครูพี่ดั้มถ่ายด้วย
บอดี้การ์ดของครูสุ
หลังจากนั้นเราก็ไปเรียนกันต่อ เราเอาประโยคที่เด็กๆแต่งมาแปลงเป็นภาษาอังกฤษสอนเค้า
ตอนเย็นเราก็ทำอาหารและดู นาจา อีกเหมือนเคย 5555
และอากาศก็หนาวมากกกกกกกกกกกกกกกกก มากที่สุดที่เคยเจอมาเลย
ลองเอาตัวเองไปลำบาก กับการให้ที่เหมือนเราจะได้กำไรมากกว่า "ครูอาสา บ้านห้วยงู ดอยหลวงเชียงดาว"