ไม่มีวุฒิ ป.ตรี ได้เงินเดือนเกือบแสน พนักงานประจำ (อัพเดตชีวิต 11 ปีผ่านไป)

สวัสดีครับพี่น้องชาวพันทิป วันนี้ขออัพเดตชีวิตหลังจากกระทู้นี้

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/02/B11737274/B11737274.html

วันนี้เป็นวันที่เกือบจะครบ 11 ปีทีได้เขียนกระทู้นี้พอดี

วันนี้ขอมาเล่าให้ฟังครับว่าชีวิตผมเจออะไรมาบ้าง และ สุดท้ายแล้ววุฒิ ป.ตรี มีความจำเป็นสำหรับงานประจำหรือไม่ ผมจะมาเล่าในสิ่งที่ผมเจอให้ฟังครับ

หลังจากนั้นผมได้เขียนกระทู้นั้น อีกประมาณ 7 เดือนหลังนั้นนั้นผมได้ลาออกจากบริษัทที่ให้โอกาสผมได้เปิดโลกและได้พัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่เก่งมากขึ้น จากกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/13124124 โดยเงินเดือนก่อนออกคือ 33,000 บาท

แน่นอนครับทำไมผมจึงลาออก เพราะมี Head Hunter (ตอนนั้นบริษัท Recruitment Agency ยังไม่เกลื่อนขนาดนี้) ได้ติดต่อเข้ามาและเสนอให้ไปสัมภาษณ์ IT ที่บริษัทแห่งหนึ่ง และ ผมสุดท้ายผมได้งานที่นั่นครับ เงินเดือนปรับเป็น 40,000 บาท โดยบริษัทนั้นเป็นบริษัทต่างชาติ และ ได้ให้โอกาสมองข้ามวุฒิของผมได้รับเข้าทำงาน

แน่นอนครับ ผมได้ทำที่บริษัทแห่งนั้นจากเงินเดือน 40,000 ผมทำได้ประมาณ 2 ปี ผมได้โปรโมทครับเจ้านาย (คนอังกฤษให้โอกาส และได้มอบหมายงานให้ทำในสิ่งที่นอกสโครปงานที่นอกจาก IT ) และผมยินดีทีจะทำครับ สุดท้ายพอเราทำผลงานได้เจ้านายได้สนับสนุนและให้โปรโมทเป็นระดับ Manager

แต่มีข้อแม้ครับ เนื่องจากผมไม่มีวุฒิ ป.ตรี การจะโปรโมทมันต้องมีอะไรที่พิสูจน์ผมให้เหมาะสกับตำแหน่งได้ เจ้านายยื่นข้อเสนอให้ผมไปสอบ Cert ที่เป็น IT Management ให้ได้ 1 ใบ โดยบริษัทจะออกค่าใช้จ่ายให้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้โปรโมท

และสุดท้ายผมโชคดีครับ ผมสามารถสอบ Cert ผ่านได้ จึงได้โปรโมทเป็น Manager และ ตอนนั้นเงินเดือนได้ปรับขึ้นเป็น 50,000 บาท ถ้วน 

ตอนนั้นพี่ HR Manager ได้เรียกผมคุย และ แกก็ย้ำเสมอว่า ให้กลับไปเรียนซะนะ ถึงแม้วันนี้จะโปรโมทแล้ว แต่ผมก็แค่รับฟังเฉยๆ ครับ เพราะผมคิดว่าตัวเองมีประสบการณ์ที่จะกรุยทางเดินตัวเองได้แล้ว

หลังจากทำที่บริษัทนั้นได้ประมาณ 6 ปี ผมได้ย้ายงายอีกครั้งครับ แต่ก่อนออกทางพี่ HR เค้าเฉลยในสิ่งที่ทำให้ให้ผมประหลาดใจครับ ว่าที่ผมได้งานที่นั่นเพราะเค้ารู้จักกับพี่ที่เป็น Manager เก่าผม และแกได้แนะนำว่าให้เลือกผมไปทำงาน ผมจึงได้ทำงานที่นั่นครับ ซึ่งผมไม่รู้เรื่องเลยจนตอนที่จะลาออก T___T (พี่หัวหน้าเก่ามีบุญคุณกับผมมาตลอดจริงๆ)

เงินเดือนสุดท้าย ณ ตอนนั้นคือ 62,000 บาท

คราวนี้บริษัทเป็นบริษัทคนไทยครับ ที่ได้ย้ายเพราะ Connection ครับ จากเพื่อนผมแนะนำเข้าไปครับ

คราวนี้ได้ย้ายสายครับ ยังอยู่ในด้าน IT แต่ย้ายสายไปทำเป็น BA Manager ครับ โดยขึ้นตรงกับเจ้าของบริษัท

แน่นอนครับ ผมก็ยังพยายามทำงานเต็มที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ และ เจ้านายผมพูดกับผมประมาณ 2-3 รอบ ว่าให้กลับไปเรียนให้จบ ผมก็เช่นเดิมครับ แค่ฟังแต่ไม่ได้ใส่ใจ

จนทำได้ประมาณเกือบ 4 ปีครับ ได้ตัดสินใจลาออก สาเหตุที่ลาออกคือ เงินเดือนตันครับ เจ้านายให้เงินเดือนเพิ่มไม่ได้แล้ว เพราะเราไม่มีวุฒิ จะโปรโมทเป็นตำแหน่ง Director ขึ้นไปก็ไม่ได้ เพราะนโยบายบริษัทคือต้องจบ ป.ตรี เป็นอย่างน้อย

แน่นอนครับ ด้วยความมั่นใจตัวเองของผม จึงหางานใหม่ครับ โดยเงินเดือนสุดท้าย ณ ตอนนั้นคือ 65,000 ครับ

คราวนี้เป็นการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผมเลยครับ ทำไมหรือครับ เพราะที่ผ่านมาผมได้งานเพราะคนแนะนำหรือจาก Connection ล้วนๆ แต่คราวนี้ไม่มีครับ เป็นการลุยจากสิ่งที่ผมมีเองทั้งหมด

ผมใช้เวลาหางานประมาณ 4 เดือนครับ หางานนานเหมือนกันครับ โดยยังไม่รู้ตัวครับว่าเป็นเพราะอะไรทำไมถึงหางานได้ช้า

สุดท้ายได้งาน Outsource ครับ เป็นสัญญาจ้าง แน่นอนครับหางานนานถึง 4 เดือนเราต้องเลือกไปอยู่แล้ว โดยคิดเสมอครับว่าไปก่อน แล้วเราโชว์ฝีมือให้เค้าเห็น ถ้าเราเก่งจริงเดี๋ยวเค้าจะ Convert เราไปเป็นพนักงานประจำเอง นี่คือสิ่งที่ผมคิดจริงๆครับ

เมื่อผมทำได้สักประมาณ 2 เดือน มีบริษัทหาคนที่เคยติดต่อไว้ ติดต่อมาครับ ให้ลองสัมภาษณ์บริษัทหนึ่ง เป็นโรงงานผลิตใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ ผมได้สัมภาษณ์สองรอบ และทางลูกค้าประทับใจมาก ตอนแรกจะจ้างเป็นสัญยาจ้าง 1 ปีแล้วค่อย Convert แต่สุดท้ายเค้าบอกจะจ้างเผมป็นประจำเลย ให้ HR ติดต่อโดยตรง

เมื่อผมได้รับการติดต่อ ผมแจ้งว่าผมไม่มีวุฒิ ป.ตรี นะ ทาง HR รับเรื่องไป และเกิดอะไรขึ้นไปไหมครับ....? ทาง บริษัทหาคนติดต่อกลับผมมาว่าทางลูกค้าจ้างผมไม่ได้เพราะผิด Policy บริษัท (ทางบริษัทมี ISO อยู่) ซึ่งทำให้ผมเริ่มตระหนักเล็กๆ แล้วครับว่าการไม่มีวุฒิมีปัญหากับการหางานหรือเปล่านี่หว่า????

หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไป ผมก็ยังทำงานเป็นสัญญาจ้างอยู่ จนวันหนึ่งทางบริษัททำผมไป Onsite อยู่ กำลังมองหาพนักงานตำแหน่งที่ผมทำระยะยาว (แต่คนละทีม) หัวหน้าผมแนะนำ HR ให้รับผมเข้าทำงานเป็นพนักงานประจำครับ และแน่นอนหลังจากได้คุยกับ HR ก็พบคำตอบช่นเดียวกันคือ.... "ทางบริษัทรับคุณเข้าทำงานไม่ได้เนื่องจากไม่มีวุฒิ ป.ตรี มันจะผิด Audit บริษัท"

ประโยคนี้แหละครับที่ทำให้ผมตระหนัก และคิดย้อนกลับไปถึงคำเตือนที่ทั้ง HR ทั้งหัวหน้าคนเก่าได้คอยเตือนเสมอเรื่องวุฒิ และผมได้ตกผลึกถึงแก่นที่ว่า

"ต่อให้คุณเก่งแค่ไหน มีฝีมือแค่ไหน หรือประสบการณ์เยอะขนาดไหน ถ้าหากคุณไม่มีวุฒิ คุณจะต้องเจอกำแพงแผ่นใหญ่ๆ แผ่นที่ทำให้คุณไม่มีโอกาสได้ทำงานบริษัทชั้นนำได้ กำแพงที่ไม่สามารถทำให้ก้าวเป็นตำแหน่งผู้บริหารได้ กำแพงที่ว่านั้นคือ วุฒิการศึกษา"

นั่นคือสิ่งที่ผมได้ตกผลึกในชีวิตผมตลอดการทำงานกว่า 16 ปี ว่าผมได้ปล่อยเวลาและละเลยสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการก้าวหน้าในชีวิตการงานของผมอย่างร้ายแรงมาโดยตลอด

ซึ่งคราวนี้ผมตกที่นั่งลำบากแล้วครับ เพราะสัญญาจะหมด และ ไม่มีการต่อสัญญา เพราะโปรเจคจบพอดี ไป Convert เป็นประจำก็ไม่ได้ จะหางานบริษัทชั้นนำก็ไม่ได้ ผมจึงต้องเริ่มหางานใหม่โดยเร็วที่สุดก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป หรือที่เรียกว่าก่อนที่จะตกงาน

ผมได้ร่อน CV ไปประมาณสิบบริษัท มีบริษัท Recruiter ติดต่อสอบถามมาหลายราย แต่สุดท้ายก็จบที่ไม่มีวุฒิการศึกษาไม่ผ่านเกณฑ์ลูกค้ากำหนด

เจอแบบแบบนี้มาหลายรายจนเริ่มที่จะต้องทำอะไรให้จริงจังกว่านี้ สิ่งที่ผมได้เริ่มทำคือ สมัครเรียนครับ ผมสมัครเรียนที่ มสธ เพื่อเวลาได้คุยกับ Recruiter ก็ได้แจ้งว่าเรากำลังเรียนอยู่ เป็นการลดกระแสแง่ลบเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาลงเวลาได้คุยกับบริษัท

ซึ่งโชคดีครับ มันได้ผล มีบริษัทหนึ่งผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ เป็นบริษัทญี่ปุ่น มีสัมภาษณ์ กับผู้บริหารใหญ่ ตอนนั้นผร้อนใจมาก ในการตอบคำถามผม ผมเตรียมทุกอย่างทั้งซ้อมสัมภาษณ์ร่วม 2 อาทิตย์ ดูยูทูปการตอบคำถาม หาข้อมูลบริษัท ดูงบการเงิน ดูไลฟ์สไตล์ผู้บริหาร ดูวิธีการแนะนำตัวแบบญี่ปุ่น การทักทาย วิธีการเข้าห้องสัมภาษณ์ รวมไปถึงการซื้อเสื้อสูทใหม่เพื่อใช้ในการสัมภาษณ์

ทำผมผมต้องทำขนาดนี้ มันคือการเดิมพันครับ ผมเคยฟัง Podcast ตอนนึงว่า ถ้าคุณเดิมพันตีกอล์ฟ ระหว่างหลุมละ 20 บาท กับ หลุมละ 20,000 คุณจะเตรียมตัวต่างกันไหม??

การสัมภาษณ์รอบนี้มันการเดิมพันชีวิตผมที่มีมูลค่าระดับ 200,000 เลย สำหรับผม... ผมเลยต้องทุ่มทุกอย่างเตรียมทุกอย่างให้พร้อม เพื่อให้ผมได้งานจริงๆ

ณ ตอนสัมภาษณ์ผมบอกชัดเจน ผมไม่มีวุฒิการศึกษานะ ถ้าคุณให้โอกาส และมองข้ามเรื่องวุฒิ ให้มองที่ประสบการณ์ของผม ผมมั่นใจและสัญญาว่าผมจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เกิดผลประโยชน์มากที่สุดกับบริษัท และ ลูกค้าของคุณแน่นอน

หลังสัมภาษณ์กับรอบผุ้บริหาร 1 อาทิตย์ ผลตอบกลับมาจาก Recruiter ว่าทางลูกค้ายินดีรับผมเข้าทำงาน ด้วยเงินเดือนที่เสนอไปคือ 9X,000 บาท!!!

ผมโล่งใจมาก และไม่คิดว่าสิ่งที่ผมละเลยมาตลอดชีวิตการทำงานของผมเรื่องวุฒิการศึกษา จะมีผลกระทบกับชีวิตการทำงานของผมได้หนักหน่วงขนาดนี้

ผมยอมรับว่าผมโชคดีมากที่ยังมีบริษัทที่มองความสามารถของผมมากกว่าวุฒิการศึกษา และให้โอกาสได้ร่วมทำงานพร้อมเงินเดือนสูงขนาดนี้

สุดท้ายนี้ผมไม่ได้เขียนกระทู้เพื่อต้องการจะโอ้อวดความเก่งตัวเอง เพราะตัวผมเองไม่ได้เก่ง ผมขวนขวาย เรียนรู้และพยายามพัฒนาตัวเองให้มากที่สุด

แต่สิ่งที่ต้องการสื่อคือ

"ถ้าคุณอยากเติบโตในการทำงานแบบพนักงานบริษัท ไม่ใช่เจ้าของกิจการ และ ไม่มีวุฒิ ต่อให้คุณเก่งขนาดนั้น  มันจะมีข้อจำกัดของการจ้างคุณเข้าทำงานเสมอ โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ ที่มี ISO ครอบไว้ 1 ในเกณฑ์ที่ HR กำหนดคนเข้าทำงานนั้นคือ วุฒิการศึกษา ถ้าคุณไม่มีเค้าก็รับคุณเข้าทำงานไม่ได้ เพราะมันผิด Audit

หรือถ้ารับเข้าทำงานได้ คุณก็มีโอกาสน้อยมากที่จะก้าวไปสู่ตำแหน่งสายงานบริหาร ซึ่งในชีวิตจริงอาจจะมี แต่ผมเชื่อว่า <0.5% ที่จะได้โอกาสแบบนั้น นอกจากคุณเป็นเทพสุดในสายงานนั้นๆ หรือคุณที่ Connectionที่แข็งแกร่งมาก ที่สามารถดันคุณขึ้นไปได้

แต่ถ้าคุณเป็นคนธรรมดาแบบผม "วุฒิการศึกษา" มันคือใบสำคัญที่จะทำให้โตขึ้นไปในระดับการทำงานสายบริหาร และ เงินเดือนที่เติบโตขึ้นได้ในอนาคต ได้อย่างแน่นอน"

ปล1:คงจะมีคนสงสัยว่าผมเงินเดือนเยอะขนาดนี้ทำไมถึงเลือกที่จะเรียน มสธ เหตุผลก็คือผมมีหนี้ครับ หนี้ผมเยอะ ผมไม่สามารถส่งตัวเองเรียนเอกชนได้ เลยต้องเลือกเรียมหาลัยที่สามารถจ่ายค่าเทอมไหวครับ

ปล2:เพื่อเพิ่มนำหนักของเรื่องที่ผมแชร์ ขออนุญาตแสดงหลักฐานครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ปล:3 ทุกท่านแนะนำผมหน่อย สิ่งที่ผมต้องเตรียมตัวสำหรับการเรียน มสธ ให้จบโดยเร็วที่สุด ผมต้องทำยังไงได้บ้างครับ?
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่