คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4

ไทยพบสายพันธุ์ XBB.1.5 ลูกผสมของโอมิครอนสายพันธุ์ BJ.1 และ BM.1.1.1 2 ราย ไทย 1 ต่างชาติ 1
ไม่พบข้อมูลความรุนแรงกว่าสายพันธุ์ย่อยอื่น
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 ในประเทศไทย ขณะนี้ตรวจพบสายพันธุ์ XBB.1.5 จำนวน 2 ราย เป็นชาวไทย 1 ราย และต่างชาติ 1 ราย ปัจจุบันหายดีแล้ว และยังไม่พบผู้ใกล้ชิดติดเชื้อ ซึ่งกรมได้ส่งข้อมูลเผยแพร่ไปยังฐานข้อมูล GISAID แล้ว
จากลักษณะทางพันธุกรรมและอัตราการเติบโตของ XBB.1.5 พบว่ามีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง F486P โดยกรดอะมิโนตำแหน่ง 486 เปลี่ยนจากฟีนิลอะลานีน (phenylalanine) เป็นโปรลีน (proline) ซึ่งเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะกับเซลล์ ส่งผลให้มีความได้เปรียบในการแพร่กระจาย และสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีเช่นเดียวกับสายพันธุ์ XBB.1 แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อบ่งชี้ความรุนแรงและความเสี่ยงด้านสาธารณสุขเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์หลักที่พบในประเทศไทยขณะนี้ยังคงเป็นสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BN.1.* ซึ่งเป็นลูกหลานของ BA.2.75
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0XLocoWfAoYJVWADpBNFSXwnXSq7YmSD4TJnymytGmsdjTtEeU9Bc6vSwfWEAbNxkl


เตรียมรับเทศกาลสงกรานต์ สคร. 12 สงขลา เชิญชวน ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) เพิ่มความปลอดภัย ลดป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด 19
ลูกหลานกลับบ้านเยี่ยมครอบครัว รวมตัวเทศกาลสงกรานต์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนปกป้องกลุ่มอายุ 60 ปี ขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ดังต่อไปนี้ 1.กลุ่มโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง 2.โรคหัวใจและหลอดเลือด 3.โรคไตเรื้อรังขั้นที่ 3 ขึ้นไป 4.โรคหลอดเลือดสมอง 5.โรคมะเร็งที่ให้เคมีบำบัด/รังสีบำบัด 6.โรคเบาหวาน และ 7.โรคอ้วนที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัมหรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ด้วยการพาไปฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดอาการป่วยหนักและการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19
https://www.facebook.com/dpc12/posts/pfbid0257j1dXp13EtP3RG4sRVB4GgLU1v4KuDTy2cNPzAjzthV9oGdkaGG2Cc472XpWkXxl

ไทยพบสายพันธุ์ XBB.1.5 ลูกผสมของโอมิครอนสายพันธุ์ BJ.1 และ BM.1.1.1 2 ราย ไทย 1 ต่างชาติ 1
ไม่พบข้อมูลความรุนแรงกว่าสายพันธุ์ย่อยอื่น
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 ในประเทศไทย ขณะนี้ตรวจพบสายพันธุ์ XBB.1.5 จำนวน 2 ราย เป็นชาวไทย 1 ราย และต่างชาติ 1 ราย ปัจจุบันหายดีแล้ว และยังไม่พบผู้ใกล้ชิดติดเชื้อ ซึ่งกรมได้ส่งข้อมูลเผยแพร่ไปยังฐานข้อมูล GISAID แล้ว
จากลักษณะทางพันธุกรรมและอัตราการเติบโตของ XBB.1.5 พบว่ามีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง F486P โดยกรดอะมิโนตำแหน่ง 486 เปลี่ยนจากฟีนิลอะลานีน (phenylalanine) เป็นโปรลีน (proline) ซึ่งเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะกับเซลล์ ส่งผลให้มีความได้เปรียบในการแพร่กระจาย และสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีเช่นเดียวกับสายพันธุ์ XBB.1 แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อบ่งชี้ความรุนแรงและความเสี่ยงด้านสาธารณสุขเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์หลักที่พบในประเทศไทยขณะนี้ยังคงเป็นสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BN.1.* ซึ่งเป็นลูกหลานของ BA.2.75
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0XLocoWfAoYJVWADpBNFSXwnXSq7YmSD4TJnymytGmsdjTtEeU9Bc6vSwfWEAbNxkl


เตรียมรับเทศกาลสงกรานต์ สคร. 12 สงขลา เชิญชวน ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) เพิ่มความปลอดภัย ลดป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิด 19
ลูกหลานกลับบ้านเยี่ยมครอบครัว รวมตัวเทศกาลสงกรานต์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนปกป้องกลุ่มอายุ 60 ปี ขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ดังต่อไปนี้ 1.กลุ่มโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง 2.โรคหัวใจและหลอดเลือด 3.โรคไตเรื้อรังขั้นที่ 3 ขึ้นไป 4.โรคหลอดเลือดสมอง 5.โรคมะเร็งที่ให้เคมีบำบัด/รังสีบำบัด 6.โรคเบาหวาน และ 7.โรคอ้วนที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัมหรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ด้วยการพาไปฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดอาการป่วยหนักและการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19
https://www.facebook.com/dpc12/posts/pfbid0257j1dXp13EtP3RG4sRVB4GgLU1v4KuDTy2cNPzAjzthV9oGdkaGG2Cc472XpWkXxl
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭🛟มาลาริน🛟🇹🇭หมอ ยง” เผยเหตุที่โควิดสงบลง เพราะส่วนใหญ่ติดโควิดหลังฉีดวัคซีน ภูมิจะอยู่นานกว่าฉีดวัคซีนอย่างเดียว
ยง” เผยเหตุที่โควิดสงบลง เพราะส่วนใหญ่ติดโควิดหลังฉีดวัคซีน ภูมิจะอยู่นานกว่าฉีดวัคซีนอย่างเดียว
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ โพสต์ข้อความหากติดเชื้อโควิดหลังได้รับวัคซีน ภูมิต้านทานจะอยู่ยาวนานกว่าภูมิที่ได้รับวัคซีนอย่างเดียว จึงส่งผลให้โรคระบาดนี้สงบลง
วันนี้ (16 ก.พ.) เฟซบุ๊ก "Yong Poovorawan" หรือ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาเผยหากติดเชื้อโควิดหลังได้รับวัคซีนภูมิต้านทานจะอยู่ยาวนานกว่าภูมิที่ได้รับวัคซีนอย่างเดียว จึงส่งผลให้โรคระบาดนี้เบาลง
โดยหมอ ยงระบุข้อความว่า "ประชากรไทยติดเชื้อไปแล้ว 70-80% และส่วนใหญ่ก็ได้รับวัคซีนไปแล้ว มีข้อมูลค่อนข้างชัดเจนมากว่าภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อหลังได้รับวัคซีนภูมิจะอยู่ในระดับสูงมาก และอยู่นานกว่าภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียว และน่าจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้ดีกว่าเช่นเดียวกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ประชากรไทยส่วนใหญ่จึงมีภูมิต้านทานแบบลูกผสมในระดับสูงและอยู่นาน จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้โรคนี้มีแนวโน้มลดน้อยลงในช่วงที่ผ่านมา (เพราะส่วนใหญ่ติดเชื้อไปแล้ว) การติดเชื้อในเด็กมีจำนวนมากที่เป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ร่างกายกระตุ้นสร้างภูมิต้านทานขึ้นเห็นได้จากการตรวจเลือดในการศึกษาของเรา
ในทำนองเดียวกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทั่วโลก เพราะมีการติดเชื้อไปมากแล้วมากกว่าตัวเลขขององค์การอนามัยโลกรายงานมากมาย จึงเป็นเหตุให้แนวโน้มของโรคลดลงในเกือบทุกประเทศ แม้กระทั่งในประเทศจีนที่มีการระบาดหลังสุด ก็เชื่อว่าประชากรส่วนใหญ่ติดเชื้อไปแล้ว ถึงจะมีการระบาดในอนาคตในประชากรที่มีภูมิต้านทานแล้ว ความรุนแรงของโรคก็จะไม่รุนแรงเท่าในปีแรกที่ประชากรเกือบทั้งหมดไม่มีภูมิต้านทานเลย โรคก็จะเข้าสู่โรคประจำฤดูกาลเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ต่อไป"
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000015408
ติดตามข่าวโควิดกันต่อนะคะ....