สวัสดีค่ะ
พอดีเราเปิดร้านอาหารเล็กๆและมีพนักงานคนนึงที่อยู่กับเรามานาน น้องไม่เคยทำร้านอาหารมาก่อนเราเลยเอามาปั้นเอง
จนน้องทำงานกับเราจะ4ปีแล้วค่ะ นับว่ายาวนานมากๆ เรารักน้อง เพราะน้องเป็นคนที่นิสัยน่ารัก รวมถึงตั้งใจทำงาน เราเลยขึ้นเงินเดือนให้น้องเรื่อยๆ แล้วจนในที่สุดก็เลื่อนตำแหน่งให้น้องเป็นผู้จัดการร้านค่ะ สามปีแรกที่อยู่ด้วยกัน น้องเป็นน้ำไม่เต็มแก้วค่ะ
เมื่อก่อนน้องเป็นคนเปิดกว้างกับหลายอย่าง ทำให้น้องพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ เราก็ส่งน้องเรียนภาษาอังกฤษ ส่งน้องเรียนทำกาแฟ น้องไม่สบายเราก็จ่ายค่ารักษาให้ เรียกว่าเรามองว่าน้องเป็นคนในครอบครัวเราเลย แต่แล้วปีนี้น้องก็เปลี่ยนไป.....
น้องชอบอ่านหนังสือพวก Self-Help และฟังพวกLife Coach ค่ะ บอกชื่อหนังสือพวกนี้มาเรียกว่าน้องอ่านมาแทบจะหมดละค่ะ ตอนแรกเราเห็น
น้องชอบอ่านหนังสือ เราก็supportน้องค่ะ ถือว่าเป็นความรู้จะได้ติดตัวน้อง ซึ่งเราก็เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน แต่ไม่ได้อ่านเยอะเท่าน้องเขา
แล้วนโยบายการทำงานเราก็ไม่ได้เคร่งอะไร ที่ร้านค่อนข้างฟรีสไตล์ ถ้าไม่มีลูกค้าก็ให้เด็กๆที่ร้านอยากทำอะไรก็ทำ จะนั่งอ่านหนังสือหรือเล่นมือถือก็แล้วแต่เขาค่ะ
ซึ่งน้องคนนี้เวลาว่างที่ร้านจะอ่านหนังสือค่ะ ตอนแรกเราก็ยินดีและสนับสนุนค่ะที่น้องชอบหาความรู้ให้ตัวเองเวลาว่างๆ บางครั้งเราก็จะซื้อหนังสือให้น้องด้วย แต่แล้วหลังๆ มานี่น้องเปลี่ยนไปมาก ทุกคนในร้านรู้สึกว่าน้องกลายเป็นคนที๋โลกหมุนรอบตัวน้อง ในเฟสบุ๊คน้องก็จะมีแต่โพสที่น้องพิมเกี่ยวกับตัวเอง เช่น "ขอบคุณตัวเอง" "รักตัวเอง" แล้วก็จะมีพวกเป้าหมายในชีวิตอะไรพวกนี้ แล้วการทำงานของน้องก็เปลี่ยนไป เช่น ถ้าน้องสอนพนักงานคนอื่นเรื่องการทำงานหรือคนอื่นทำพลาด น้องเค้าก็จะพูดประมาณว่า "ทำไมเราทำได้แต่เธอทำไม่ได้" คือใครๆก็มีทำงานพลาดทั้งนั้น แต่น้องเค้าจะชอบเทียบตัวเองกับคนอื่น ประมาณว่าตัวเองเป็นมาตรฐานค่ะ เพราะน้องเค้าก็ชอบมาเล่าให้เราฟังว่าคนนู้นทำงานพลาดแต่ทำไมน้องเค้าทำได้ไม่เคยพลาด
แล้วก็เรื่องอารมณ์ของน้องคือ น้องหงุดหงิดง่ายมากๆค่ะ หลังๆมาก็จะหงุดหงิดใส่ลูกค้า หงุดหงิดใส่พนักงานด้วยกัน ที่หนักสุดคือบังคับให้พนักงานคนอื่นต้องอ่านหนังสือเวลาว่างค่ะ น้องจะพูดกดดันให้คนอื่นไปซื้อหนังสือมาอ่าน พนักงานคนอื่นเค้าอายุน้อยกว่าน้องและเห็นว่าน้องเป็นผู้จัดการเลยรู้สึกกดดันเลยต้องมานั่งอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองตอนว่าง ซึ่งคนเรามันชอบไม่เหมือนกัน พนักงานคนอื่นไม่อยากอ่านหนังสือเลยค่ะแต่ต้องอ่าน ซึ่งก็มีคนนึงลาออกไปเพราะทนน้องไม่ได้
ไม่เพียงแค่หงุดหงิดแค่นั้น น้องจะชอบตำหนิพนักงานคนอื่นด้วยท่อยคำแรงๆ คำพูดคำจาน้องเวลาฟังบางครั้งมันได้ยินมันจะช๊อตฟีลค่ะ แล้วน้องก็ชอบไปถามคนอื่นว่า "เป้าหมายในชีวิตคืออะไร" "มีเงินเก็บเท่าไร" "วางแผนการเงินยังไง" อะไรพวกนี้ที่ life coachเค้าชอบพูดกัน ละคนอื่นเค้าไม่อินอะไรพวกนี้ค่ะ เค้าก็ค่อนข้างอึดอัด ละน้องก็พูดกับพนักงานคนอื่นว่าน้องจะต้องมีเงินเก็บ 30 ล้านก่อนอายุ40
หลังๆมาเวลาร้านยุ่งน้องก็จะเกี่ยงการทำงานค่ะ แทนที่จะช่วยกันทำงาน น้องจะเอาเวลาไปอ่านหนังสือ +ฟัง podcastแทน ละเวลาไปรับออร์เดอร์ลูกค้าก็จะหนีบหนังสือเอาไปด้วย แทนที่จะวางลงก่อน
เรามองน้องเค้าว่าน้องเค้ากลายเป็นโรคหลงตัวเองค่ะ คือทุกอย่างต้องหมุนรอบตัวเค้า และเอาตัวเค้าเป็นมาตรฐานกับทุกสิ่ง และชอบเปรียบเทียบกับคนอื่นว่าเค้าดีกว่าคนอื่น ถ้าใครไม่อ่านหนังสือพวกนี้=คนโง่ น้องเค้าก็จะหมุกมุ่นมากๆกับตัวเอง
ตอนนี้น้องลาออกไปแล้วค่ะ เพราะมีปัญหาเรื่องหยิบย่อย บางทีแกก็จะหงุดหงิดใส่ลูกค้า บางอย่างความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่จบสวยค่ะ เพราะน้องอยากออกไปพัฒนาตัวเอง ไปหางานใหม่อยู่แล้ว น้องบอกว่าอิ่มตัวแล้ว ละพอหลังๆมาน้องไม่ใส่ใจกับเกี่ยงงาน เราเลยคิดว่าเราจ้างน้องเค้าออกดีกว่า น้องก็โอเคค่ะ
Life coach นี่เปลี่ยนนิสัยคนๆนึงได้จริงๆค่ะ .......ในแง่ดีขึ้นหรือเลวลง ก็แล้วแต่คนจะมองค่ะ แต่น้องเค้าเปลี่ยนไปจากคนที่น่ารักกลายเป็นคนที่สังคมทีทำงานต้องกรอกตาใส่ค่ะ..
พนักงานที่ร้านเปลี่ยนไปเพราะฟัง Life Coach และอ่านหนังสือพวก Self-Help
พอดีเราเปิดร้านอาหารเล็กๆและมีพนักงานคนนึงที่อยู่กับเรามานาน น้องไม่เคยทำร้านอาหารมาก่อนเราเลยเอามาปั้นเอง
จนน้องทำงานกับเราจะ4ปีแล้วค่ะ นับว่ายาวนานมากๆ เรารักน้อง เพราะน้องเป็นคนที่นิสัยน่ารัก รวมถึงตั้งใจทำงาน เราเลยขึ้นเงินเดือนให้น้องเรื่อยๆ แล้วจนในที่สุดก็เลื่อนตำแหน่งให้น้องเป็นผู้จัดการร้านค่ะ สามปีแรกที่อยู่ด้วยกัน น้องเป็นน้ำไม่เต็มแก้วค่ะ
เมื่อก่อนน้องเป็นคนเปิดกว้างกับหลายอย่าง ทำให้น้องพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ เราก็ส่งน้องเรียนภาษาอังกฤษ ส่งน้องเรียนทำกาแฟ น้องไม่สบายเราก็จ่ายค่ารักษาให้ เรียกว่าเรามองว่าน้องเป็นคนในครอบครัวเราเลย แต่แล้วปีนี้น้องก็เปลี่ยนไป.....
น้องชอบอ่านหนังสือพวก Self-Help และฟังพวกLife Coach ค่ะ บอกชื่อหนังสือพวกนี้มาเรียกว่าน้องอ่านมาแทบจะหมดละค่ะ ตอนแรกเราเห็น
น้องชอบอ่านหนังสือ เราก็supportน้องค่ะ ถือว่าเป็นความรู้จะได้ติดตัวน้อง ซึ่งเราก็เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน แต่ไม่ได้อ่านเยอะเท่าน้องเขา
แล้วนโยบายการทำงานเราก็ไม่ได้เคร่งอะไร ที่ร้านค่อนข้างฟรีสไตล์ ถ้าไม่มีลูกค้าก็ให้เด็กๆที่ร้านอยากทำอะไรก็ทำ จะนั่งอ่านหนังสือหรือเล่นมือถือก็แล้วแต่เขาค่ะ
ซึ่งน้องคนนี้เวลาว่างที่ร้านจะอ่านหนังสือค่ะ ตอนแรกเราก็ยินดีและสนับสนุนค่ะที่น้องชอบหาความรู้ให้ตัวเองเวลาว่างๆ บางครั้งเราก็จะซื้อหนังสือให้น้องด้วย แต่แล้วหลังๆ มานี่น้องเปลี่ยนไปมาก ทุกคนในร้านรู้สึกว่าน้องกลายเป็นคนที๋โลกหมุนรอบตัวน้อง ในเฟสบุ๊คน้องก็จะมีแต่โพสที่น้องพิมเกี่ยวกับตัวเอง เช่น "ขอบคุณตัวเอง" "รักตัวเอง" แล้วก็จะมีพวกเป้าหมายในชีวิตอะไรพวกนี้ แล้วการทำงานของน้องก็เปลี่ยนไป เช่น ถ้าน้องสอนพนักงานคนอื่นเรื่องการทำงานหรือคนอื่นทำพลาด น้องเค้าก็จะพูดประมาณว่า "ทำไมเราทำได้แต่เธอทำไม่ได้" คือใครๆก็มีทำงานพลาดทั้งนั้น แต่น้องเค้าจะชอบเทียบตัวเองกับคนอื่น ประมาณว่าตัวเองเป็นมาตรฐานค่ะ เพราะน้องเค้าก็ชอบมาเล่าให้เราฟังว่าคนนู้นทำงานพลาดแต่ทำไมน้องเค้าทำได้ไม่เคยพลาด
แล้วก็เรื่องอารมณ์ของน้องคือ น้องหงุดหงิดง่ายมากๆค่ะ หลังๆมาก็จะหงุดหงิดใส่ลูกค้า หงุดหงิดใส่พนักงานด้วยกัน ที่หนักสุดคือบังคับให้พนักงานคนอื่นต้องอ่านหนังสือเวลาว่างค่ะ น้องจะพูดกดดันให้คนอื่นไปซื้อหนังสือมาอ่าน พนักงานคนอื่นเค้าอายุน้อยกว่าน้องและเห็นว่าน้องเป็นผู้จัดการเลยรู้สึกกดดันเลยต้องมานั่งอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองตอนว่าง ซึ่งคนเรามันชอบไม่เหมือนกัน พนักงานคนอื่นไม่อยากอ่านหนังสือเลยค่ะแต่ต้องอ่าน ซึ่งก็มีคนนึงลาออกไปเพราะทนน้องไม่ได้
ไม่เพียงแค่หงุดหงิดแค่นั้น น้องจะชอบตำหนิพนักงานคนอื่นด้วยท่อยคำแรงๆ คำพูดคำจาน้องเวลาฟังบางครั้งมันได้ยินมันจะช๊อตฟีลค่ะ แล้วน้องก็ชอบไปถามคนอื่นว่า "เป้าหมายในชีวิตคืออะไร" "มีเงินเก็บเท่าไร" "วางแผนการเงินยังไง" อะไรพวกนี้ที่ life coachเค้าชอบพูดกัน ละคนอื่นเค้าไม่อินอะไรพวกนี้ค่ะ เค้าก็ค่อนข้างอึดอัด ละน้องก็พูดกับพนักงานคนอื่นว่าน้องจะต้องมีเงินเก็บ 30 ล้านก่อนอายุ40
หลังๆมาเวลาร้านยุ่งน้องก็จะเกี่ยงการทำงานค่ะ แทนที่จะช่วยกันทำงาน น้องจะเอาเวลาไปอ่านหนังสือ +ฟัง podcastแทน ละเวลาไปรับออร์เดอร์ลูกค้าก็จะหนีบหนังสือเอาไปด้วย แทนที่จะวางลงก่อน
เรามองน้องเค้าว่าน้องเค้ากลายเป็นโรคหลงตัวเองค่ะ คือทุกอย่างต้องหมุนรอบตัวเค้า และเอาตัวเค้าเป็นมาตรฐานกับทุกสิ่ง และชอบเปรียบเทียบกับคนอื่นว่าเค้าดีกว่าคนอื่น ถ้าใครไม่อ่านหนังสือพวกนี้=คนโง่ น้องเค้าก็จะหมุกมุ่นมากๆกับตัวเอง
ตอนนี้น้องลาออกไปแล้วค่ะ เพราะมีปัญหาเรื่องหยิบย่อย บางทีแกก็จะหงุดหงิดใส่ลูกค้า บางอย่างความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่จบสวยค่ะ เพราะน้องอยากออกไปพัฒนาตัวเอง ไปหางานใหม่อยู่แล้ว น้องบอกว่าอิ่มตัวแล้ว ละพอหลังๆมาน้องไม่ใส่ใจกับเกี่ยงงาน เราเลยคิดว่าเราจ้างน้องเค้าออกดีกว่า น้องก็โอเคค่ะ
Life coach นี่เปลี่ยนนิสัยคนๆนึงได้จริงๆค่ะ .......ในแง่ดีขึ้นหรือเลวลง ก็แล้วแต่คนจะมองค่ะ แต่น้องเค้าเปลี่ยนไปจากคนที่น่ารักกลายเป็นคนที่สังคมทีทำงานต้องกรอกตาใส่ค่ะ..