พอดีเรากำลังกังวลเรื่องนี้อยู่ค่อนข้างมาก ก่อนหน้านี้ไม่ได้สนใจ แต่หลังๆเริ่มมากขึ้น แล้วที่บ้านมีแค่แม่กับพี่สาวอยู่ 2 คน ซึ่งเป็นคนค่อนข้างกลัวคน ไม่สู้คนมากๆ พ่ออยู่อีกบ้านก็ไม่ค่อยอยากมีเรื่องกับใครเหมือนกัน เราเลยเป็นห่วงคนที่บ้านมากๆ
คือบ้านนี้เราเช่าอยู่ค่ะ อีกไม่กี่เดือนก็จะย้ายออก เลยไม่อยากมีปัญหาอะไรก่อนออก เราเช่าเป็นทาวน์โฮม3หลังเรียงกัน เราเป็นหลังแรก ฝั่งตรงข้ามก็มีทาวน์โฮมเหมือนกัน หันข้างให้ มีถนนกั้น รถ2คนสวนกันได้แบบหลบๆ เพื่อไปข้างหลังซึ่งเป็นลานจอดรถ
บ้านที่มีประเด็นคือบ้านหลังกลาง เขาเป็นร้านขายของ ปกติบ้านทุกหลังจะมีที่จอดรถหน้าบ้านได้ 2 คัน ไม่มีรั้วกั้น แต่จะมีเนินทางลาดและผนังโรงจอดรถบอกขอบเขตอยู่ แต่บ้านนี้เขาต่อเติมหน้าบ้านเพื่อขายของ ทำให้ไม่มีที่จอดรถหน้าบ้าน เขาก็จะไปจอดรถที่ลานจอด แต่มีบางครั้งที่เขาจะจอดแนบผนังทาวน์โฮมฝั่งตรงข้าม โดยจะตรงล็อคบ้านเขาพอดี แล้วก็ปูหญ้าเทียมหน้าบ้าน เลยออกมาถนนส่วนรวมและเลยผนังบ้านเรามานิดนึง ทำให้เวลาเราถอยรถเข้าบ้าน บางครั้งเราเผลอไปเหยียบแผ่นหญ้าเขา เพราะเราขับเข้ามาหน้ารถหันเข้าลาดจอดรถ พื้นที่มันแคบจนตีวงกว้างมากไม่ได้ มันติดรถเขา ถ้าจะไปกลับรถในลานจอด ให้หัวหันออกจากถนน บางทีลานจอดเต็มก็กลับรถไม่ได้
ทีนี้เขาก็เลยพูดลอยๆ ให้แม่เราได้ยินว่าถอยรถมาเหยียบแผ่นหญ้าเขา และมีครั้งนึงที่พ่อเรามาบ้านมาเอาของแค่แปปเดียว แล้วจอดรถฝั่งตรงข้ามบ้านเรา แต่หน้ารถเลยไปเขตบ้านเขานิดนึง เขาเอากระดาษเขียนข้อความมาเหน็บไว้ที่รถ (ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะพ่อเราทำไม่ถูก) แต่พอพ่อกำลังจะออกไป เขาก็เดินออกมาโวยใส่ว่า ลุงจอดรถแบบนี้แล้วคนอื่นเขาจะจอดยังไง ซึ่งมันเป็นเวลากลางวัน ลานจอดรถว่าง หรือเขาจะจอดถัดจากรถพ่อเราไปนิดก็ได้ ก็ยังอยู่หน้าบ้านเขาอยู่ดี เราว่าเขาพูดใส่อารมเกินเหตุไปหน่อย แต่ก่อนเราก็ซื้อของร้านเขาประจำ ไม่เห็นได้โกรธอะไรกัน แต่พอตอนหลังเลิกซื้อเพราะไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
แล้วเราก็มองว่าเรื่องมันไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น มันไม่ได้ทำให้รถเข้าออกไม่ได้ แล้วเราก็ไม่ได้ทำของเขาเสียหายขนาดนั้น ตัวเขาเองก็วางของล้ำมาพื้นที่คนอื่น เราก็ไม่ได้ว่าอะไร บางครั้งเขาเสียงดังยามวิกาล เพราะเตรียมของจะขาย หรือบ้านฝั่งตรงข้ามเสียงดังตี2จนเช้า เราก็ไม่ได้ไปต่อว่าอะไร เพราะเข้าใจงานของเขาว่าต้องเตรียมของขายตอนเช้า อยู่ไปสักพักจนชิน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร หลายครั้งที่เขาเอารถเข็น หรือมอไซมาจอดตรงกับหน้าบ้านเรา ทำให้ลำบากเวลาขับรถออก เราก็แค่ถอยรถหลายรอบหน่อย ไม่ได้มองเป็นเรื่องใหญ่ขนาดที่ต้องไปพูดไม่ดีใส่ แต่ก่อนเขาพาสุนัขออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน น้องมาฉี่ใส่ล้อรถบ้านเรา กำแพงบ้านเราประจำ แต่เราเอ็นดูเราก็เฉยๆไป ล่าสุดเรากำลังถอยรถเข้าบ้าน เขาขับรถเข้ามาพอดี จังหวะเรากำลังถอยหลังตรงเข้าบ้าน เขาก็เร่งรถมาใส่ แบบเฉียดฉิวมาก ทำให้เราบพ่อตกใจมากว่าถ้าเราถอยรถช้ากว่านี้ หรือเผลอหยุดรถ คงจะชนไปแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำทำไม
ทุกคนช่วยแนะนำหน่อยค่ะ เราควรจะทำยังไงดี ตอนนี้เราก็นิ่งๆไม่ตอบโต้ ไม่สนใจไป หวังว่าย้ายออกเร็วๆจะได้ไม่ต้องเจอกันอีก แต่ถ้ามันรุนแรงหรือเขาพูดอะไรแรงๆใส่พ่อแม่เรามากกว่านี้เราควรจะทำไงดีคะ มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง แล้วแต่ละคนแก้ไขปัญหากันยังไงคะ
ปรึกษาปัญหาเพื่อนบ้านค่ะ ใครมีประสบการณ์เรื่องนี้มาแชร์หน่อยค่ะ
คือบ้านนี้เราเช่าอยู่ค่ะ อีกไม่กี่เดือนก็จะย้ายออก เลยไม่อยากมีปัญหาอะไรก่อนออก เราเช่าเป็นทาวน์โฮม3หลังเรียงกัน เราเป็นหลังแรก ฝั่งตรงข้ามก็มีทาวน์โฮมเหมือนกัน หันข้างให้ มีถนนกั้น รถ2คนสวนกันได้แบบหลบๆ เพื่อไปข้างหลังซึ่งเป็นลานจอดรถ
บ้านที่มีประเด็นคือบ้านหลังกลาง เขาเป็นร้านขายของ ปกติบ้านทุกหลังจะมีที่จอดรถหน้าบ้านได้ 2 คัน ไม่มีรั้วกั้น แต่จะมีเนินทางลาดและผนังโรงจอดรถบอกขอบเขตอยู่ แต่บ้านนี้เขาต่อเติมหน้าบ้านเพื่อขายของ ทำให้ไม่มีที่จอดรถหน้าบ้าน เขาก็จะไปจอดรถที่ลานจอด แต่มีบางครั้งที่เขาจะจอดแนบผนังทาวน์โฮมฝั่งตรงข้าม โดยจะตรงล็อคบ้านเขาพอดี แล้วก็ปูหญ้าเทียมหน้าบ้าน เลยออกมาถนนส่วนรวมและเลยผนังบ้านเรามานิดนึง ทำให้เวลาเราถอยรถเข้าบ้าน บางครั้งเราเผลอไปเหยียบแผ่นหญ้าเขา เพราะเราขับเข้ามาหน้ารถหันเข้าลาดจอดรถ พื้นที่มันแคบจนตีวงกว้างมากไม่ได้ มันติดรถเขา ถ้าจะไปกลับรถในลานจอด ให้หัวหันออกจากถนน บางทีลานจอดเต็มก็กลับรถไม่ได้
ทีนี้เขาก็เลยพูดลอยๆ ให้แม่เราได้ยินว่าถอยรถมาเหยียบแผ่นหญ้าเขา และมีครั้งนึงที่พ่อเรามาบ้านมาเอาของแค่แปปเดียว แล้วจอดรถฝั่งตรงข้ามบ้านเรา แต่หน้ารถเลยไปเขตบ้านเขานิดนึง เขาเอากระดาษเขียนข้อความมาเหน็บไว้ที่รถ (ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะพ่อเราทำไม่ถูก) แต่พอพ่อกำลังจะออกไป เขาก็เดินออกมาโวยใส่ว่า ลุงจอดรถแบบนี้แล้วคนอื่นเขาจะจอดยังไง ซึ่งมันเป็นเวลากลางวัน ลานจอดรถว่าง หรือเขาจะจอดถัดจากรถพ่อเราไปนิดก็ได้ ก็ยังอยู่หน้าบ้านเขาอยู่ดี เราว่าเขาพูดใส่อารมเกินเหตุไปหน่อย แต่ก่อนเราก็ซื้อของร้านเขาประจำ ไม่เห็นได้โกรธอะไรกัน แต่พอตอนหลังเลิกซื้อเพราะไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
แล้วเราก็มองว่าเรื่องมันไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น มันไม่ได้ทำให้รถเข้าออกไม่ได้ แล้วเราก็ไม่ได้ทำของเขาเสียหายขนาดนั้น ตัวเขาเองก็วางของล้ำมาพื้นที่คนอื่น เราก็ไม่ได้ว่าอะไร บางครั้งเขาเสียงดังยามวิกาล เพราะเตรียมของจะขาย หรือบ้านฝั่งตรงข้ามเสียงดังตี2จนเช้า เราก็ไม่ได้ไปต่อว่าอะไร เพราะเข้าใจงานของเขาว่าต้องเตรียมของขายตอนเช้า อยู่ไปสักพักจนชิน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร หลายครั้งที่เขาเอารถเข็น หรือมอไซมาจอดตรงกับหน้าบ้านเรา ทำให้ลำบากเวลาขับรถออก เราก็แค่ถอยรถหลายรอบหน่อย ไม่ได้มองเป็นเรื่องใหญ่ขนาดที่ต้องไปพูดไม่ดีใส่ แต่ก่อนเขาพาสุนัขออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน น้องมาฉี่ใส่ล้อรถบ้านเรา กำแพงบ้านเราประจำ แต่เราเอ็นดูเราก็เฉยๆไป ล่าสุดเรากำลังถอยรถเข้าบ้าน เขาขับรถเข้ามาพอดี จังหวะเรากำลังถอยหลังตรงเข้าบ้าน เขาก็เร่งรถมาใส่ แบบเฉียดฉิวมาก ทำให้เราบพ่อตกใจมากว่าถ้าเราถอยรถช้ากว่านี้ หรือเผลอหยุดรถ คงจะชนไปแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำทำไม
ทุกคนช่วยแนะนำหน่อยค่ะ เราควรจะทำยังไงดี ตอนนี้เราก็นิ่งๆไม่ตอบโต้ ไม่สนใจไป หวังว่าย้ายออกเร็วๆจะได้ไม่ต้องเจอกันอีก แต่ถ้ามันรุนแรงหรือเขาพูดอะไรแรงๆใส่พ่อแม่เรามากกว่านี้เราควรจะทำไงดีคะ มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง แล้วแต่ละคนแก้ไขปัญหากันยังไงคะ