สวัสดีค่ะ มีเรื่องไม่สบายใจอยากถามความเห็นเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ให้มาช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
คือเราท้อง 8 เดือน ก่อนหน้าตั้งแต่เริ่มท้องก็ดูแลแม่มาตลอด ตอนนั้นยังเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล
พาไปทำคีโมต่างๆ อยู่ในช่วงแรก จนคุณหมอที่รพ.ในจังหวัดบอกว่าไม่ตอบสนองต่อยาแล้ว
เลยปลี่ยนมารักษาแบบประคับประคองแทนค่ะ (แม่เป็นมะเร็งรังไข่ ตรวจพบตอนระยะ 3C แล้ว)
มีการผ่าตัดมดลูกก่อนจะเริ่มทำคีโม) ปกติแม่จะไม่ได้อยู่กับเรา เพราะพ่อแม่แยกกันอยู่นานแล้วค่ะ
เราอยู่กับครอบครัวทางพ่อ พอแม่เริ่มป่วยถึงเริ่มพาแม่มาดูแล (เป็นลูกคนเดียว)
ก่อนจะเริ่มจ้างคนดูแล เราก็นอนเฝ้าอยู่รพ. 24 ชม. เลยค่ะ ทั้งเปลี่ยนแพมเพิสเช็ดตัวต่างๆ
คุณหมอก็ทักมาตลอดว่าควรจะจ้างคนดูแลมาช่วยได้แล้วเพราะท้องโตมากแล้ว (ตอนนั้น 7 เดือน)
จนเดือนที่แล้วเริ่มจ้างคนดูแล แต่เราก็ยังไปสลับกันคนดูแลอยู่ตลอดค่ะ ช่วงที่เขาขอหยุดไปพัก
จนล่าสุดมีวันนึงที่เราเริ่มคิดว่าไม่ไหว เพราะแม่อาเจียนมาก อาหารก็ทานไม่ได้เลยจนเกลือแร่ตก
เกิดอาการหลอนกลางดึก ปีนตกจากเตียงแล้วล้มไปเลย ด้วยความตกใจเราเลยวิ่งไปอุ้ม (ความจริงไม่ควรทำ)
แล้วกดออดเรียกพยาบาล คืนนั้นทั้งคืนต้องนั่งเฝ้าจนเช้าเลยค่ะ เพราะแม่ยังพยายามจะปีนอีกหลายครั้ง
หลังจากเหตุการณ์นี้เราเริ่มนอนไม่หลับและผวาทุกคืน จนเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเราก็ไม่ไหวเหมือนกัน
พอได้กลับบ้าน (ในตัวเมือง) มาตรวจคุณหมอสูติฯ ที่ฝากท้องอยู่ก็เป็นห่วงว่าเราจะพักผ่อนไม่เพียงพอ
และเป็นห่วงเรื่องคลอดก่อนกำหนดเพราะเดินเยอะ ลุกๆ นั่งๆ ก้มๆ อยู่ตลอด หมอก็บอกว่าความจริงไม่ควรไปเฝ้าแล้ว
ต้องตัดใจให้คนดูแลรับหน้าทื่แทนไปเลย เพราะอีก 2 เดือนก๊จะคลอดแล้ว ยังต้องเทียวไปเทียวมาเดินทางอีก
เราก็เลยตัดสินใจบอกคนในครอบครัวฝั่งแม่ไปแบบนั้น ว่าเราจ้างคนดูแลแทน แต่ทุกคนก็เหมือนยังอยากให้เราไปเฝ้าด้วย
เพราะคิดว่าเป็นระยะสุดท้ายแล้ว ไม่รู้ว่าคุณแม่จะอยู่ได้ถึงวันไหน แต่ตรงนี้ทางหมอสูติฯ ก็เตือนเราว่าไม่อยากให้ไปแล้ว
เพราะทุกอารมณ์ ทุกความกระทบกระเทือนจิตใจ มันส่งผลถึงลูกในท้องด้วยนะ เราก็พยายามอธิบายให้ครอบครัวฝั่งแม่ฟัง
ว่ามีไครพอจะเสียสละมาเฝ้าแทนได้มั้ย คำตอบก็คืออ้างว่าไกล ไม่สะดวก และมีปัญหาสุขภาพของตัวเอง
เราก็รู้สึกจนใจจริงๆ ค่ะ ถามว่าสงสารแม่มั้ยก็สงสาร แต่ทางครอบครัวสามีเราก็อยากให้เราเป็นห่วงลูกในท้องด้วย
ส่วนนึงอาจจะเพราะแต่แรกเราไม่แพ้ท้อง ช่วงแรกก็ยังดูแลแม่ได้ตลอด เหมือนคนไม่ได้ท้อง จนพอมันถึงจุดที่ต้องพักบ้าง
แต่ทุกคนก็ยังคิดว่าเราน่าจะไหวนะ ตรงนี้มันไม่รู้จะพูดยังไงเลยค่ะ เหมือนอธิบายไปก็เหมือนจะเข้าใจ เห็นใจ
แต่ก็อยากให้เราดูแลต่อจนวาระสุดท้าย บางทีก๊อ้างเรื่องความกตัญญูแบบบ้านอื่นที่เขายอมลาออกมาดูแลพ่อแม่
เราควรจะปฏิเสธอย่างไรดีคะ คือถ้าไม่ติดว่าท้องเราก็อาจจะทำตามที่ทุกคนอยากให้ทำ
แต่ตอนนี้มันมีเรื่องที่ตัวเราเองก็ไม่พร้อมเหมือนกัน ลำบากใจมากๆ เลยค่ะ ช่วยแนะนำเราทีค่ะ
แม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่คุณท้อง 8 เดือน หมอแนะนำให้คนดูแลมาเฝ้าแทน แต่คนในครอบครัวยังอยากให้คุณเฝ้าควรทำอย่างไร
คือเราท้อง 8 เดือน ก่อนหน้าตั้งแต่เริ่มท้องก็ดูแลแม่มาตลอด ตอนนั้นยังเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล
พาไปทำคีโมต่างๆ อยู่ในช่วงแรก จนคุณหมอที่รพ.ในจังหวัดบอกว่าไม่ตอบสนองต่อยาแล้ว
เลยปลี่ยนมารักษาแบบประคับประคองแทนค่ะ (แม่เป็นมะเร็งรังไข่ ตรวจพบตอนระยะ 3C แล้ว)
มีการผ่าตัดมดลูกก่อนจะเริ่มทำคีโม) ปกติแม่จะไม่ได้อยู่กับเรา เพราะพ่อแม่แยกกันอยู่นานแล้วค่ะ
เราอยู่กับครอบครัวทางพ่อ พอแม่เริ่มป่วยถึงเริ่มพาแม่มาดูแล (เป็นลูกคนเดียว)
ก่อนจะเริ่มจ้างคนดูแล เราก็นอนเฝ้าอยู่รพ. 24 ชม. เลยค่ะ ทั้งเปลี่ยนแพมเพิสเช็ดตัวต่างๆ
คุณหมอก็ทักมาตลอดว่าควรจะจ้างคนดูแลมาช่วยได้แล้วเพราะท้องโตมากแล้ว (ตอนนั้น 7 เดือน)
จนเดือนที่แล้วเริ่มจ้างคนดูแล แต่เราก็ยังไปสลับกันคนดูแลอยู่ตลอดค่ะ ช่วงที่เขาขอหยุดไปพัก
จนล่าสุดมีวันนึงที่เราเริ่มคิดว่าไม่ไหว เพราะแม่อาเจียนมาก อาหารก็ทานไม่ได้เลยจนเกลือแร่ตก
เกิดอาการหลอนกลางดึก ปีนตกจากเตียงแล้วล้มไปเลย ด้วยความตกใจเราเลยวิ่งไปอุ้ม (ความจริงไม่ควรทำ)
แล้วกดออดเรียกพยาบาล คืนนั้นทั้งคืนต้องนั่งเฝ้าจนเช้าเลยค่ะ เพราะแม่ยังพยายามจะปีนอีกหลายครั้ง
หลังจากเหตุการณ์นี้เราเริ่มนอนไม่หลับและผวาทุกคืน จนเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเราก็ไม่ไหวเหมือนกัน
พอได้กลับบ้าน (ในตัวเมือง) มาตรวจคุณหมอสูติฯ ที่ฝากท้องอยู่ก็เป็นห่วงว่าเราจะพักผ่อนไม่เพียงพอ
และเป็นห่วงเรื่องคลอดก่อนกำหนดเพราะเดินเยอะ ลุกๆ นั่งๆ ก้มๆ อยู่ตลอด หมอก็บอกว่าความจริงไม่ควรไปเฝ้าแล้ว
ต้องตัดใจให้คนดูแลรับหน้าทื่แทนไปเลย เพราะอีก 2 เดือนก๊จะคลอดแล้ว ยังต้องเทียวไปเทียวมาเดินทางอีก
เราก็เลยตัดสินใจบอกคนในครอบครัวฝั่งแม่ไปแบบนั้น ว่าเราจ้างคนดูแลแทน แต่ทุกคนก็เหมือนยังอยากให้เราไปเฝ้าด้วย
เพราะคิดว่าเป็นระยะสุดท้ายแล้ว ไม่รู้ว่าคุณแม่จะอยู่ได้ถึงวันไหน แต่ตรงนี้ทางหมอสูติฯ ก็เตือนเราว่าไม่อยากให้ไปแล้ว
เพราะทุกอารมณ์ ทุกความกระทบกระเทือนจิตใจ มันส่งผลถึงลูกในท้องด้วยนะ เราก็พยายามอธิบายให้ครอบครัวฝั่งแม่ฟัง
ว่ามีไครพอจะเสียสละมาเฝ้าแทนได้มั้ย คำตอบก็คืออ้างว่าไกล ไม่สะดวก และมีปัญหาสุขภาพของตัวเอง
เราก็รู้สึกจนใจจริงๆ ค่ะ ถามว่าสงสารแม่มั้ยก็สงสาร แต่ทางครอบครัวสามีเราก็อยากให้เราเป็นห่วงลูกในท้องด้วย
ส่วนนึงอาจจะเพราะแต่แรกเราไม่แพ้ท้อง ช่วงแรกก็ยังดูแลแม่ได้ตลอด เหมือนคนไม่ได้ท้อง จนพอมันถึงจุดที่ต้องพักบ้าง
แต่ทุกคนก็ยังคิดว่าเราน่าจะไหวนะ ตรงนี้มันไม่รู้จะพูดยังไงเลยค่ะ เหมือนอธิบายไปก็เหมือนจะเข้าใจ เห็นใจ
แต่ก็อยากให้เราดูแลต่อจนวาระสุดท้าย บางทีก๊อ้างเรื่องความกตัญญูแบบบ้านอื่นที่เขายอมลาออกมาดูแลพ่อแม่
เราควรจะปฏิเสธอย่างไรดีคะ คือถ้าไม่ติดว่าท้องเราก็อาจจะทำตามที่ทุกคนอยากให้ทำ
แต่ตอนนี้มันมีเรื่องที่ตัวเราเองก็ไม่พร้อมเหมือนกัน ลำบากใจมากๆ เลยค่ะ ช่วยแนะนำเราทีค่ะ