เชื่อหรือไม่คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้

พอดีผมไปเจอโพสของน้องคนหนึ่งในเฟสบุ๊ค โดยน้องเขาบอกว่า เขากำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย และเขาต้องขอเงินแม่สัปดาห์ละ 700 บาท ทุกครั้งที่ขอเงินแม่เขามักจะถูกแม่ด่ากลับมาเสมอ น้องเขาเลยไปคุยกับแม่ว่า

"ผมไม่ได้ขอมาเกิดพ่อแม่ทำขึ้นมาเองต้องดูแลผมให้สุดความสามารถไม่ใช่ทำไรก็ว่า แล้วอีกเรื่องหนึ่ง ทำไม่ต้องทวงบุญคุณที่ให้ผมเกิดมาต้องตอบแทนทุกบาทที่ส่งเรียน ทั้งๆที่ผมไม่ได้ขอมาเกิด เลือกได้ผมไม่อยากเกิดด้วย เบื่อหน่ายมากๆ"

ผมเห็นดังนี้ถึงกับสดุ้ง ประเด็นคือว่าน้องคนนี้ค่าใช้จ่ายเขามันก็ไม่พอจริงๆนั่นละ แต่น้องเขาไม่รู้วิธีสื่อสารกับพ่อแม่ยังไงให้ท่านเข้าใจมากกว่า ซึ่งผมเองก็เคยจุดๆนั้นมาแล้ว เพราะเคยเป็นเด็กหอ เรียนมหาวิทยาลัยเหมือนกัน ต้องขอเงินพ่อแม่มาจ่ายค่าหอ และค่าอาหารต่างๆในชีวิตประจำวันเหมือนกัน แต่อยากจะบอกว่าจริงๆแล้วพ่อแม่ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น เพราะเราต้องเข้าใจด้วยว่ากว่าท่านจะหาเงินมาได้แต่ละบาท แต่ละสตางค์มายากเย็นซะเหลือเกิน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำน้องเจ้าของโพส รวมถึงเพื่อนในพันทิปทุกคนในฐานะที่เคยเรียนวิชาจิตวิทยามา คือ ปัญหานี้แก้ง่ายนิดเดียว ด้วยการสื่อสารอย่างเข้าใจกันและกัน อย่างกรณีของน้องเขา อยากจะบอกน้องเข้าไปว่า น้องควรพูดกับแม่แบบนี้ "แม่ครับ ค่าใช้จ่ายผมมันไม่พอจริงๆ แค่ค่ากับข้าวมื้อหนึ่งก็ 40-50 บาทแล้ว ตกวันหนึ่งก็ร้อยกว่าบาทแล้ว สัปดาห์หนึ่งก็พันกว่าบาทแล้ว ดีแค่ไหนที่ผมสามารถใช้เงิน 700 ได้ในหนึ่งสัปดาห์ ผมเข้าใจนะว่าแม่เหนื่อยและลำบากมาก แต่ผมพยามประหยัดแล้ว แต่ค่าใช้จ่ายมันก็ยังไม่พออยู่ดี ผมขอแม่ก่อนได้ไหม" ซึ่งถ้าน้องเขาพูดจาดีๆและน้ำเสียงที่ไพเราะ และน่ารักผมมั่นใจได้เลยว่าเขาจะไม่โดนแม่ด่ากลับมาแน่นอน เพราะผมเองก็เคยผ่านเหตุการแบบนี้มากและผมเองก็ใช้วิธีนี้มาแล้ว ผลปรากฎว่าแม่เข้าใจผมเกินคาด บางครั้งโทรมาถามผมเองด้วยซ้ำว่าเงินพอใช้ไหม ผมจึงอยากจะบอกทุกคนว่าบางทีเราอาจจะต้องค่อยๆพูด ค่อยๆจากัน คุยกันด้วยเหตุด้วยผล และที่สำคัญคุยกันด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ บางทีมันอาจตะเปลี่ยนร้ายเป็นดีก็ได้ และผมหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมไม่มากก็น้อยนะครับ ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่