ความหลงไหลในเมืองใหญ่

กระทู้คำถาม
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวเองแบบคร่าวๆก่อนเลยนะค่ะ เราเป็นคนหนึ่งที่ต้องเพิ่งพาตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ทำงานส่งตัวเองเรียน จะมีขอจากญาติผู้ใหญ่บ้างเมื่อจำเป็นจริงๆ (พ่อแม่เราหย่ากันและขายบ้าน) เราต้องออกมาอยู่ห้องเช่า หารายได้ด้วยตัวเองทำงานร้านอาหารเป็นเด็กเสิร์ฟ, เราส่งตัวเองเรียนจบเกือบจะจบมหาวิทยาลัย แต่ปีสุดท้ายเราก็เรียนไม่จบเพราะค่าใช้จ่ายและปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง เราโชคดีอยู่อย่างเดียวคือรู้ภาษาอังกฤษ เราจะได้รับงานพิเศษจากพี่ที่เขาช่วยเหลืออยู่บ่อยๆ (เราเรียนครูภาษาอังกฤษ) เมื่อเวลาที่ครูสอนประจำเขาลาพี่ที่เป็นเจ้าของสโมสรสอนพิเศษเขาจะให้เราไปสอนแทนและให้ค่าจ้างเล็กๆน้อยๆ เราจะใช้เวลาให้กับการทำงานมากกว่าการเรียนเพราะเราต้องใช้เงิน การเรียนก็ต้องใช้เงิน จึงทำให้เราไม่ได้ใช้เวลาเรียนอย่างเต็มที่, การใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านนั่นเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ มันไม่มีอะไรเีขึ้นเลย, เราคิดว่าชีวิตของเราช่างไม่มีความโชคดีเข้ามาหาเลยและยังจะผิดหวังกับเรื่องความรักเสมอ, เมื่อเป็นแบบนั้นแล้วในเวลาที่เราลาออกจากมหาวิทยาลัยในปีสุดท้ายเราจึงตัดสินใจออกจากบ้านไปทำงานที่เมืองใหญ่อ (เพราะเราคิดว่าการใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดมันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ชีวิตของเราไม่มีอะไรเป็นหลักแหล่ง ไม่มีอะไรหมั่นคงเลย เราจึงตัดสินใจออกจากบ้าน) เรารู้จักที่ทำงานที่นี่จากพี่คนหนึ่ง เขาแนะนำให้มาที่นี, การมาที่นี่มันมีหลายๆอย่างที่อันตรายเพราะมันเป็นเมืองเถื่อน มีแต่ชาวจีนมากมาย เหมือนจะกายเป็นประเทศจีนเลยด้วยช้ำ เจ้านายเจ้าของบริษัทก็เป็นคนจีน เราเริ่มทำงานที่นี่ เป้าหมายของเราคือเก็บเงินสักก้อนแล้วกับบ้านไปชื้อบ้านหลังเล็กๆสักหลังและมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เงินเดือนอยู่ที่นี่ถ้าเทียบใส่กับที่บ้านแล้วมันมากกว่าถึง 6-7เท่า, เราเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน เรียนรู้ได้เร็ว และมีผลงานที่ดีให้กับบริษัทตลอด จนหัวหน้าไม่อยากให้ออกจากงานเลย แต่พอทำงานมาจนครบสัญญาและเราก็มีความรู้สึกคิดถึงบ้านเพราะเราก็จากมาเกือบจะครึ่งปีแล้ว เราจึงตัดสินใจขอลาออก แต่เจ้านายเขาก็ไม่ยอมให้ออกเพราะเขาบอกว่าเราจะประสบผลสำเร็จกับงานในวันข้างหน้า เขาจรึงให้เราลากับบ้านได้ เราจึงกับบ้านไปประมาณ1อาทิต การทำงานที่บริษัทนี้เราไม่เคยมีความรู้สึกว่าอยากมีความรักเลย เพราะแต่ละวันเราจะใช้เวลาอยู่กับน้องสาวคนหนึ่ง เธอก็เป็นคนจากบ้านมาไกลเหมือนกัน เราจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่สองคน แต่พอเรากับมาถึงบ้านเกิดเราก็ได้รู้จักกับผู้ชายจีนคนหนึ่ง เขาทำงานอยู่ที่ ที่เราไปทำงาน เขาทำให้เรารู้สึกว่าเราสำคัญและพิเศษกับเขามากเราจึงตัดสินใจไปทำงานกับเขาและไม่กลับไปที่บริษัทเดิม, เราเข้ามาที่บริษัทของเขาช่วงแรกเขาก็ดีกับเราทุกอย่างและเราก็ไม่ได้ทำงาน เขาให้เราอยู่เฉยๆและจะให้เงินค่ากินข้าวชื้อเสื้อผ้าหรือชื้อของที่อยากได้ (เรารู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงของเขาเลยแหละ) จนวันหนึ่งเราได้ขอเข้าไปทำงานที่บริษัทเพราะเราเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่เฉยๆ และ เป้าหมายชีวิตของเรายังไม่สำเร็จ เขาจึงบอกกับเราว่าถ้าเข้าไปทำงานแล้วห้ามบอกเรื่องของเรากับเขาว่าเป็นอะไรกัน เขาให้เหตุผลว่ามันเป็นกฎของบริษัทที่ห้ามคบกับพนักงานเราจึงยอมรับและไม่บอกใคร แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ เขามีอีกคนในบริษัทนั่น ฉันอยู่มาสองสามวันฉันถึงจะรู้ ฉันรู้สึกโกรธและเสียใจมาก เขาเป็นคนแรกที่ทำให้ฉันอยากมีควาามรักที่นี่ เพราะที่ผ่านมาฉันไม่เคยคิดจะมีความรักเลย เพราะหลายคนต่างก็บอกว่าที่นี่มันคือเมืองแห่งความหลอกลวง และ วันนี้ฉันก็ได้รู้ว่ามันมีแต่ความหลอกลวงจริงๆ ฉันจึงตัดสินใจลาออกจากเขา และ ย้ายไปทำงานที่บริษัทใหม่ ฉันเป็นคนแปลภาษาอังกฤษให้กับบริษัท ฉันรู้จักที่ทำงานใหม่ที่นี่จากเพื่อนคนหนึ่ง , วันแรกที่ฉันเข้ามาทำงานในบริษัทนี้จะมีพี่ชายคนจีนหนึ่งคน เขาจะเป็นคนเข้ามาแนะนำและพูดคุยกับฉัน จึงทำให้ฉันไม่รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว (ตอนแรกเราไม่รู้ภาษาจีนเลยแต่เรามาทำงานที่นี่เราก็ค่อยๆเรียนรู้เอา) พี่ชายคนนี้เขาก็เหมือนเป็นคนที่ทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจที่เข้ามาทำงานที่บริษัทนี้เลยแหละ , และอยู่ทำงานไปตามปกติเราก็ได้เริ่มคุยกับผู้ชายคนจีนหนึ่งคน เราอายุเท่าๆกัน และ เขาก็ยังพักห้องเดียวกับพี่ชายคนนั้นด้วย เรากับผู้ชายคนนี้ได้คุยกันมาพักหนึ่ง คุยจีบกันตามภาษาวัยรุ่นอะนะ จนเรารู้สึกชอบเขา เพราะเขาให้ความสำคัญกับเราคอยช่วยเหลือเราในการทำงาน คอยพูดคุยกับเรา จึงทำให้เรารู้สึกว่ามีเขาอยู่ด้วยแล้วดีจังเลย เพราะที่บริษัทนี้ไม่มีผู้หญิงเลย และ ทุกคนเป็นคนจีน , เราได้คุยกันและทำความรู้จักกันสักพักฉันจึงรู้ใจตัวเองว่าฉันรักเขา ฉันจึงย้ายเข้าไปนอนห้องพักเดียวกับเขา (มันจะเป็นห้องพักของบริษัทที่จัดให้พนักงาน) เราก็ใช้เวลาทำงานแล้วก็ใช้ชีวิตประจำวันปกติ จนอยู่มาวันหนึ่งแฟนเก่าเราเขาก็ขอมาคืนดี และ เขาก็บอกว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนแปงตัวเองและทำตัวให้ดีขึ้นเพื่อฉัน , ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดที่จะกลับไป แต่เขาก็พิสูจน์ให้ฉันเห็นเรื่อยๆ เขาพาฉันเข้าไปที่บริษัทของเขาและบอกเพื่อนของเขาว่าฉันเป็นแฟน เขาให้ของขวัญเป็นเงินสด เพราะนั่นมันเป็นช่วงปีใหม่พอดี เขาทำดีกับฉันทุกอย่าง ตอนที่รู้จักกันตอนแรกว่าเขาดีแล้ว ตอนนี้เขายิ่งดีขึ้นไปอีก จนเราลืมสิ่งที่เขาทำผิดกับเราไป เรายิมรับเลยว่าที่เรากลับไปคบกับแฟนเก่าครั้งนี้เพราะเราแพ้ความใส่ใจ และ การที่เขาปรับปรุงตัวเพื่อฉัน และที่สำคัญที่สุดคือฉันชอบเงินของเขานั่นแหละ เขาจะให้ของขวัญราคาแพงกับฉันเสมอ , ให้เงินฉันส่งกลับไปที่บ้าน แต่ในเวลาที่ฉันดีกับแฟนเก่า คนที่ทำงานที่บริษัทเดียวกันเราก็ยังอยู่ด้วยกันทุกวันและฉันตัดสินใจบอกเขาว่าฉันมีแฟนแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย, ทุกอย่างก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมเรานอนห้องเดียวกัน นอนกอดกันทุกคืน ฉันคิดว่าเขาก็ชอบฉัน หรือฉันคิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันใช้ชีวิตอยู่แบบนี้มาเรื่อยๆ นานๆฉันจะออกไปหาแฟนของฉันที่บริษัทของเขา อาทิตย์ละครั้ง หรือบางทีสองอาทิตย์ถึงจะเจอกัน เพราะการทำงานนั่นมันไม่ได้มีเวลามากพอที่จะออกไปข้างนอก, แต่คนที่ทำงานที่บริษัทเดียวกันเราอยู่ด้วยกันทุกวัน เห็นหน้ากันเกือบจะทั้งวัน ความรักครั้งนี้ฉันเข้าใจตัวเองได้อย่างแจ่มแจ้งว่าฉันรักคนที่อยู่บริษัทเดียวกันมากกว่า ฉันถึงจั้นรักเขามากเลยแหละ อาจจะเป็นเพราะความใกล้ชิดด้วยมั้ง แต่ว่านิสัยของเขานั่นช่างเป็นคนที่ทำให้ฉันสับสนเหลือเกิน บางทีก็เหมือนรักบางทีก็เหมือนคนไม่รู้จัก , เวลาที่เขาออกไปเล่นข้างนอกเขาก็ไม่ชวนฉันออกไปเลย ใช้เวลาไปไหนกับเพื่อนเขาก็ไม่เคยให้ฉันไป เราจะใช้เวลาด้วยกันแค่ในห้องนอนเท่านั้น มันเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนมาวันหนึ่งทำให้ฉันรู้สึกท้อมาก และ ฉันจึงได้ถามเขาไปตรงๆว่าเขารักฉันบ้างไหม คำตอบของเขาทำให้น้ำตาฉันตกข่างในทันที เขาบอกว่าไม่ได้รักฉันเลย, ถ้าฉันจะอยู่เขาก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าฉันจะไปเขาก็จะไม่รู้สึกเหมือนกัน เขาพูดแบบนี้มันทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออก, เขาบอกกับฉันว่าเขาไม่ได้ที่จะอยู่ที่นี่ตลอดไป สักวันเขาก็ต้องกลับประเทศของเขา เขาไม่อยากที่จะรักใคร แล้วที่ผ่านมาคืออะไร เขาเก่งมาก เหมือนคนที่ไม่มีหัวใจเลยด้วยช้ำ เขาทำให้ฉันร้องไห้นับครั้งไม่ถ้วนด้วยคำพูดของเขา แต่การกระทำของเขาก็เหมือนสนใจฉัน มันจึงทำให้ฉันทน ฉันไม่เข้าใจเขาเลยว่าเขาเป็นคนยังไง ปากบอกไม่รักแต่การกระทำทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาสนใจฉัน ฉันรักเขาจนลืมไปเลยว่าแฟนของฉันเขาทำเพื่อฉันมากขนาดไหน, จนมาถึงเหตุการณ์ล่าสุด มันเป็นวันหยุด เขาได้ออกไปเล่นข้างนอก และ ฉันก็ได้ถามเขาว่ามีผู้หญิงหรือเปล่า ไปกับใคร ไปที่ไหน ฉันไม่รู้เลยว่าการถามแค่นี้จะทำให้เขารู้สึกเหนื่อยขนาดนั้น เขาบอกฉันบอกไม่ต้องถามมันทำให้เขารู้สึกอึดอัด และ เขารู้สึกเหนื่อยมากที่ฉันทำแบบนี้ เขาบอกกับฉันว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน อย่าทำให้เขารู้สึกเหนื่อย และ ไม่ให้ฉันรักเขา คำพูดเหล่านี้มันทำให้ฉันเสียใจมาก แต่ฉันก็ยังหน้าด้านอยู่เพราะฉันรักเขา จนมาคำพูดที่เขาบอกกับฉันว่าไม่ให้ฉันเข้าไปนอนที่ห้องเขาอีก ถ้าวันไหนฉันไม่รักเขาแล้วค่อยขึ้นไป ฉันจึงคิดในใจว่า ถ้าวันนั้นที่ฉันไม่รักแล้วฉันจะไปเพื่ออะไร และ เขาก็พูดย้ำๆช้ำๆว่าไม่รักฉัน แต่ฉันก็ยังทนอยู่เพราะฉันรักเขามาก, ฉันหวังแค่ว่าการได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันของเราจะให้เขาเห็นใจฉันบ้าง แต่ก็ไม่เลย ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทุกอย่างที่ฉันทำนั้นไร้ประโยชน์ เขาก็แค่ผู้ชายที่ไม่มีหัวใจคนหนึ่ง เขาทำดีด้วยก็แค่อยากนอนกับฉัน ความรักครั้งนี้สอนให้ฉันรู้อะไรหลายๆอย่าง ไมสิ มันไม่ใช่ความรัก มันเป็นความใคล่ มากกว่า เราแค่หลงมัวเมากับความสุขชั่วคราว แต่ฉันเองที่คิดไปไกล มันทำให้ฉันรู้สึกผิดต่อแฟนฉันมาก ฉันจึงตัดสินใจบอกเลิกกับเขา และ ฉันก็ได้เล่าความจริงทุกอย่างให้เขาฟัง เขาก็โกรธฉันมากและลบฉัน ตัดการติดต่อกับฉัน ผ่านไปสองสามวันเขาก็ได้ส่งข้อความหาฉันอีกครั้ง เขาบอกฉันว่าเราต่างก็เคยทำผิดพลาด เขาขอโทษฉันที่ลบฉันไป และ เขาก็บอกว่าการทำผิดพลาดของฉันกับเขานั้นจะทำให้ฉันกับเขาเข้าใจกันมากขึ้น จนตอนนี้ทำให้ฉันรู้ว่าที่ผ่านมาฉันโง่ขนาดไหน และ เหตุผลแต่ละอย่างที่ผู้ชายคนนั้นให้ฉันมานะหรอ มันก็แค่เป็นคำหลอกลวง ตอนนี้ฉันเห็นเขาอยู่ที่ทำงานทุกวัน เขาก็เป็นเหมือนกับอากาศที่ฉันจะไม่รู้สึกอะไรด้วยเลย นี่สินะที่เราบอกว่ารักมากก็เกลียดมาก ที่ผ่านมาฉันคงรักเขามากจริงๆจนยอมหูหนวกตาบอด เขาเอาจุดอ่อนของฉันมาพูดให้ความหวังและทำร้ายมันอย่างคนไม่มีหัวใจ, ที่ผ่านมาฉันรักเขาจนลืมไปว่าฉันมาที่นี่เพื่ออะไร เพื่อความรักหรอ? ไม่ใช่เลย ฉันมาที่นี่เพื่อเงิน และ ความสบายให้กับครอบครัวของฉัน แต่ฉันก็คอบขอบคุณเขานะที่ทำให้ฉันคิดอะไรหลายๆได้ขนาดนี้ และ ทำให้ฉันได้อยู่ว่าใครที่อยู่ข้างฉันในวันที่ฉันแย่ที่สุด …. ตอนนี้ฉันได้เข้าใจแล้วว่าที่นี่ ที่ที่ฉันเข้ามาทำงาน มันเป็นเมืองที่มีแต่เล่เหลี่ยม น้อยมากที่จะเจอคนจริงใจกับเรา ทางที่ดีก็แค่ตั้งใจหาเงิน กลับไปใช้ชีวิตที่บ้าน รักคนที่หวังดีกับเราจริงๆ เราต้องรักตัวเองก่อนที่จะไปรักใคร …  ใครอ่านจบ ก็หวังว่าจะคิดอะไรได้หลายๆนะค่ะ เรื่องของเราคงทำให้เห็นว่าผู้ชายมันจะหาคำพูดที่สวยหรูและการกระทำที่แสนดีมอบให้เราแค่ตอนที่มันอยากได้เรามาเท่านั้น 😌
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่