คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
คนเราแต่ละคนมีโลก ประสบการณ์ ความรักความชอบ การให้ค่า นิสัย การกระทำ การแสดงออกแตกต่างกัน และในคนคนเดียวกันนั้นเอง ก็มีโลกอีกนับไม่ถ้วนในแต่ละวัน นี้เองเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีใครเหมือนกันสักคนบนโลกนี้ ความแตกต่างอาจทำให้เกิดความหงุดหงิดได้ และในเวลาเดียวกัน หากพอจะเปิดใจให้กว้าง ก็ทำให้เห็นความสวยงามได้ จากที่ จขกท เล่ามา ปัญหาที่เกิดเป็นเรื่องเล็ก ที่ดูเหมือนจะแก้ไขได้ โดย จขกท เอง เพราะเป็นไปได้ยากที่จะให้แม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ หาก จขกท เองเปลี่ยน และสถานการณ์ดีขึ้น ก็ต้องพอใจตัวเอง แต่ก็ต้องไม่ไม่ชอบแม่ (ความเคยชินของท่าน)
- เราตากผ้าไว้ แต่ผ้าเรายังไม่แห้ง แม่ก็เก็บของเรามาตากข้างใน ทำให้เสื้อเราเหมือนอับ
เรารู้สึกไม่ดีเลย เพราะแม่มีเวลาซักผ้าของตัวเองตั้งแต่ จันทร์ถึงศุกร์ แต่มาแย่งเราซักตอนเสาร์ อาทิตย์
แล้วผ้าเรายังไม่แห้ง ก็มาเก็บของเรา เพราะจะใช้ราวอีก ---> มีทางออกหลายทาง ซื้อราวเพิ่ม หรือหากคิดว่ามากไป กินพื้นที่ อาจซื้อเครื่องอบผ้า
- แม่ชอบเอาเสื้อของเราไปย้อมสี ทั้งที่เราก็ซื้อมาแพง (แล้วไม่ได้ซื้อบ่อยๆ อุตส่าตั้งใจซื้อ) ---> กำหนดเขตความเป้นส่วนตัวให้ท่านได้เรียนรู้ แม้อาจยังทำไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้ แต่ท่านต้องเรียนรู้ที่จะไม่ยุ่งในสิ่งของของ จขกท ผู้ใหย่โดยมากคิดว่าลูกเป็นของตนเอง แล้วพาให้คิดว่าของของลูกก็คือของของตนจะทำอะไรก็ได้ ให้การเรียนรู้ อาจโดยผ่าน วิธีต่าง ๆ หากไม่ได้ล็อกห้อง ก็อาจหาตู้ที่มีแล้วล็อกมัน และหรืออาจซื้อใหม่
- เวลาเราซื้อแชมพูมา แม่ชอบเทผสมกัน เราเซ็งมาก เพราะบางอันเราตั้งใจซื้อมาเพราะอยากลองใช้ ---> พฤติกรรมนี้แปลก เคยคุยไหมคะว่าคิดอย่างไร มีประสบการณ์อย่างไรมาถึงทำเช่นนั้น ส่วนทางแก้ อาจคือการที่ จขกท จัดชุดอาบน้ำของตนเองใส่ตะกร้าไว้ ไม่วางของของตนไว้ในห้องน้ำ อาจได้ฟีลไม่เหมือน @home เหมือนโรงเรียนประจำ แต่ก็อาจดีกว่ามาหงุดหงิด
- เราเคยสะสมคูปอง (ตั้งใจสะสมไว้แลกของชิ้นใหญ่) เก็บเป็นปีๆ (ยอดเงินค่อนข้างเยอะ แล้วเราใช้เวลาและความพยายามกว่าจะหาเงินมาได้)
แต่แม่หยิบไปแลกของที่ตัวเองอยากได้เองเลย ไม่ขอสักคำ ถ้าบอกกันก่อน แล้วเราเสียสละให้แม่เอง เราจะรู้สึกดีกว่านี้ ---> แม่มีทัศนคติในเรื่องการเป็นแม่ของลูกที่บิดเบี้ยว อย่างที่กล่าวข้างต้น เราเปลี่ยนคนอื่นได้ยากหรือแทบไม่ได้เลย ขอแนะนำให้ จขกท พูดตรงไปตรงมากับแม่ ด้วยประโยคบอกเล่า สุภาพ ไม่ใช้อารมณ์ ว่าคูปองนั้น ตั้งใจเก็บเพื่ออะไร และรู้สึกไม่ชอบใจที่แม่เอาไปใช้โดยไม่บอกก่อน ครั้งหน้า หากมีเรื่องทำนองนี้อีก ขอรบกวนให้แม่ช่วยสื่อสารบอกกล่าวให้รู้ด้วย
- เวลาไปกินเข้าด้วยกัน แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ แม่ก็จะลองเอามาผสมันดู แบบอุตส่าสั่งเมนูซิกเนเจอร์มา นานๆ ได้กินที แต่โดนเอามาผสมกันต่อหน้าต่อตา โคตรเซ็ง จะห้ามก็คือเทน้ำซุปมาในชามเราเรียบร้อยทั้งที่เป็นคนละเมนูกัน ---> พฤติกรรมทำนองนี้ น่าจะมีที่มา หากพอพูดได้ บอกท่านก่อนสั่งอาหารเลยค่ะ ว่าไม่ยุ่งกับจานของ จขกท นะคะ
พฤติกรรมของแม่ของ จขกท ไม่ร้ายแรงนะคะ เมื่อเทียบกับแม่ของอีกหลายบ้าน ความลำบากในอดีตก็มีส่วนทำให้ท่านมีการแสดงออกแปลก ๆ ไปจากที่ จขกท นึกคิด และเห็นชอบ อะไรแก้ไขได้ แก้ไขจากตนเองค่ะ อะไรที่แก้ไขไม่ได้ก็ทำใจด้วยความเข้าใจ ยอมรับและปล่อยวาง ที่สุดแล้ว การได้มาเป็นแม่ลูกกันนั้น เป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ชาติหน้าอาจมาก่อนพรุ่งนี้ ไม่มีเหตุอะไรใหญ่โตที่จะให้อภัยกันไม่ได้ นี้คือความเห็นส่วนตัวค่ะ
- เราตากผ้าไว้ แต่ผ้าเรายังไม่แห้ง แม่ก็เก็บของเรามาตากข้างใน ทำให้เสื้อเราเหมือนอับ
เรารู้สึกไม่ดีเลย เพราะแม่มีเวลาซักผ้าของตัวเองตั้งแต่ จันทร์ถึงศุกร์ แต่มาแย่งเราซักตอนเสาร์ อาทิตย์
แล้วผ้าเรายังไม่แห้ง ก็มาเก็บของเรา เพราะจะใช้ราวอีก ---> มีทางออกหลายทาง ซื้อราวเพิ่ม หรือหากคิดว่ามากไป กินพื้นที่ อาจซื้อเครื่องอบผ้า
- แม่ชอบเอาเสื้อของเราไปย้อมสี ทั้งที่เราก็ซื้อมาแพง (แล้วไม่ได้ซื้อบ่อยๆ อุตส่าตั้งใจซื้อ) ---> กำหนดเขตความเป้นส่วนตัวให้ท่านได้เรียนรู้ แม้อาจยังทำไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้ แต่ท่านต้องเรียนรู้ที่จะไม่ยุ่งในสิ่งของของ จขกท ผู้ใหย่โดยมากคิดว่าลูกเป็นของตนเอง แล้วพาให้คิดว่าของของลูกก็คือของของตนจะทำอะไรก็ได้ ให้การเรียนรู้ อาจโดยผ่าน วิธีต่าง ๆ หากไม่ได้ล็อกห้อง ก็อาจหาตู้ที่มีแล้วล็อกมัน และหรืออาจซื้อใหม่
- เวลาเราซื้อแชมพูมา แม่ชอบเทผสมกัน เราเซ็งมาก เพราะบางอันเราตั้งใจซื้อมาเพราะอยากลองใช้ ---> พฤติกรรมนี้แปลก เคยคุยไหมคะว่าคิดอย่างไร มีประสบการณ์อย่างไรมาถึงทำเช่นนั้น ส่วนทางแก้ อาจคือการที่ จขกท จัดชุดอาบน้ำของตนเองใส่ตะกร้าไว้ ไม่วางของของตนไว้ในห้องน้ำ อาจได้ฟีลไม่เหมือน @home เหมือนโรงเรียนประจำ แต่ก็อาจดีกว่ามาหงุดหงิด
- เราเคยสะสมคูปอง (ตั้งใจสะสมไว้แลกของชิ้นใหญ่) เก็บเป็นปีๆ (ยอดเงินค่อนข้างเยอะ แล้วเราใช้เวลาและความพยายามกว่าจะหาเงินมาได้)
แต่แม่หยิบไปแลกของที่ตัวเองอยากได้เองเลย ไม่ขอสักคำ ถ้าบอกกันก่อน แล้วเราเสียสละให้แม่เอง เราจะรู้สึกดีกว่านี้ ---> แม่มีทัศนคติในเรื่องการเป็นแม่ของลูกที่บิดเบี้ยว อย่างที่กล่าวข้างต้น เราเปลี่ยนคนอื่นได้ยากหรือแทบไม่ได้เลย ขอแนะนำให้ จขกท พูดตรงไปตรงมากับแม่ ด้วยประโยคบอกเล่า สุภาพ ไม่ใช้อารมณ์ ว่าคูปองนั้น ตั้งใจเก็บเพื่ออะไร และรู้สึกไม่ชอบใจที่แม่เอาไปใช้โดยไม่บอกก่อน ครั้งหน้า หากมีเรื่องทำนองนี้อีก ขอรบกวนให้แม่ช่วยสื่อสารบอกกล่าวให้รู้ด้วย
- เวลาไปกินเข้าด้วยกัน แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ แม่ก็จะลองเอามาผสมันดู แบบอุตส่าสั่งเมนูซิกเนเจอร์มา นานๆ ได้กินที แต่โดนเอามาผสมกันต่อหน้าต่อตา โคตรเซ็ง จะห้ามก็คือเทน้ำซุปมาในชามเราเรียบร้อยทั้งที่เป็นคนละเมนูกัน ---> พฤติกรรมทำนองนี้ น่าจะมีที่มา หากพอพูดได้ บอกท่านก่อนสั่งอาหารเลยค่ะ ว่าไม่ยุ่งกับจานของ จขกท นะคะ
พฤติกรรมของแม่ของ จขกท ไม่ร้ายแรงนะคะ เมื่อเทียบกับแม่ของอีกหลายบ้าน ความลำบากในอดีตก็มีส่วนทำให้ท่านมีการแสดงออกแปลก ๆ ไปจากที่ จขกท นึกคิด และเห็นชอบ อะไรแก้ไขได้ แก้ไขจากตนเองค่ะ อะไรที่แก้ไขไม่ได้ก็ทำใจด้วยความเข้าใจ ยอมรับและปล่อยวาง ที่สุดแล้ว การได้มาเป็นแม่ลูกกันนั้น เป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ชาติหน้าอาจมาก่อนพรุ่งนี้ ไม่มีเหตุอะไรใหญ่โตที่จะให้อภัยกันไม่ได้ นี้คือความเห็นส่วนตัวค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เออเหมือนพ่อเรา แต่พ่อเราแรงมาก อิพวกทำตัวเป็นนักเคมี ชอบเอาโซดาไฟผสมลงไปในของเหลวทุกอย่างที่ใช้สำหรับซักล้าง (หมาเกือบตายส่วนมือเราเกือบพัง)
*พี่เราแก้โดยซื้อทุกอย่างมาใช้แล้วเก็บในห้องนอน ไม่วางมั่วซั่วในบ้าน ถ้าลืมทิ้งไว้ให้อนุมานว่าใช้ไม่ได้แล้ว (ส่วนเราใช้ของพี่)
พ่อชอบประดิษฐคิดค้น และใช้อะไรประหลาดๆ มีครั้งนึงเอาใบจานไปตัดหญ้า ลูกๆเตือนจนเลิกเตือน ใบตัดโดนนิ้วเกือบขาด เลือดสาดเต็มสนามบ้าน(พี่บอกดี...ต้องโดนซะบ้างจะได้เข็ด) แต่ถามว่าหยุดพ่อได้ไหม ไม่ได้จ้า ฮีก็ยังคิดค้นต่อไป
ที่บ้านลงความเห็นว่า ปล่อยเค้าไปเถอะ อายุขนาดนี้แล้ว จะไปห้ามก็เสียสุขภาพจิตทั้งคนห้ามทั้งคนโดนห้าม ไม่ต้องใส่ใจ เค้าอยากทำไรปล่อยเบลอ
เค้าเป็นคนแบบนี้!!
เอาช่างมาทำประตูบ้านใหม่ พ่อเราไปสั่งช่างทุกอย่าง จากช่าง5000เหลือช่าง50(จะจ้างแพงทำไมถ้าสุดท้ายคนกำกับเป็นช่างยูทูป) ทำประตูบ้านเสร็จ....ปวดหัวทุกวัน ปิดยาก ปิดลำบาก ต้องรอพ่อมาปิดเอง
อย่าไปเถียงกับเค้า (เห็นช่างก็สงสารช่าง)
*พี่เราแก้โดยซื้อทุกอย่างมาใช้แล้วเก็บในห้องนอน ไม่วางมั่วซั่วในบ้าน ถ้าลืมทิ้งไว้ให้อนุมานว่าใช้ไม่ได้แล้ว (ส่วนเราใช้ของพี่)
พ่อชอบประดิษฐคิดค้น และใช้อะไรประหลาดๆ มีครั้งนึงเอาใบจานไปตัดหญ้า ลูกๆเตือนจนเลิกเตือน ใบตัดโดนนิ้วเกือบขาด เลือดสาดเต็มสนามบ้าน(พี่บอกดี...ต้องโดนซะบ้างจะได้เข็ด) แต่ถามว่าหยุดพ่อได้ไหม ไม่ได้จ้า ฮีก็ยังคิดค้นต่อไป
ที่บ้านลงความเห็นว่า ปล่อยเค้าไปเถอะ อายุขนาดนี้แล้ว จะไปห้ามก็เสียสุขภาพจิตทั้งคนห้ามทั้งคนโดนห้าม ไม่ต้องใส่ใจ เค้าอยากทำไรปล่อยเบลอ
เค้าเป็นคนแบบนี้!!
เอาช่างมาทำประตูบ้านใหม่ พ่อเราไปสั่งช่างทุกอย่าง จากช่าง5000เหลือช่าง50(จะจ้างแพงทำไมถ้าสุดท้ายคนกำกับเป็นช่างยูทูป) ทำประตูบ้านเสร็จ....ปวดหัวทุกวัน ปิดยาก ปิดลำบาก ต้องรอพ่อมาปิดเอง
อย่าไปเถียงกับเค้า (เห็นช่างก็สงสารช่าง)
แสดงความคิดเห็น
ปรึกษาปัญหาครอบครัว ผู้สูงอายุที่บ้านชอบทดลองอะไรแปลกๆ
แม่เราอยู่บ้าน เราเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้าน และให้เงินส่วนตัวกับท่านเดือนหนึ่งหมื่นบาท แม่ก็รดน้ำ ปลูกต้นไม้ ทำกับข้าว ดู Netflix ทักเสื้อ ทำงานศิลปะเพลินๆ วันไหนไม่ทำกับข้าว เราก็สั่งแกร้บเข้ามาให้
ส่วนงานบ้านก็แยกกันดูแลในส่วนของตัวเองค่ะ ห้องของเรา เสื้อผ้าของเรา เราก็ดูแลเอง ส่วนน้ำดื่มที่ต้องซื้อเข้าบ้าน เราเป็นคนซื้อให้
เราอายุเลขสองปลายๆ เป็นคนเครียดง่าย เครียดจากงานอยู่แล้วด้วย เราทำงานตำแหน่งเดียวกับคนอื่นที่อายุมากกว่าหลาย 4-8 ปี รู้สึกว่าไม่ใช่ comfort zone แต่ก็กัดฟันสู้ทุกวัน เพราะรายได้มากพอที่จะดูแลตัวเองและแม่ได้ และก็ทำมาได้หลายปีแล้ว
แต่มีเรื่องผิดใจกัน
- เราตากผ้าไว้ แต่ผ้าเรายังไม่แห้ง แม่ก็เก็บของเรามาตากข้างใน ทำให้เสื้อเราเหมือนอับ
เรารู้สึกไม่ดีเลย เพราะแม่มีเวลาซักผ้าของตัวเองตั้งแต่ จันทร์ถึงศุกร์ แต่มาแย่งเราซักตอนเสาร์ อาทิตย์
แล้วผ้าเรายังไม่แห้ง ก็มาเก็บของเรา เพราะจะใช้ราวอีก
- แม่ชอบเอาเสื้อของเราไปย้อมสี ทั้งที่เราก็ซื้อมาแพง (แล้วไม่ได้ซื้อบ่อยๆ อุตส่าตั้งใจซื้อ)
- เวลาเราซื้อแชมพูมา แม่ชอบเทผสมกัน เราเซ็งมาก เพราะบางอันเราตั้งใจซื้อมาเพราะอยากลองใช้
- เราเคยสะสมคูปอง (ตั้งใจสะสมไว้แลกของชิ้นใหญ่) เก็บเป็นปีๆ (ยอดเงินค่อนข้างเยอะ แล้วเราใช้เวลาและความพยายามกว่าจะหาเงินมาได้)
แต่แม่หยิบไปแลกของที่ตัวเองอยากได้เองเลย ไม่ขอสักคำ ถ้าบอกกันก่อน แล้วเราเสียสละให้แม่เอง เราจะรู้สึกดีกว่านี้
- เวลาไปกินเข้าด้วยกัน แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ แม่ก็จะลองเอามาผสมันดู แบบอุตส่าสั่งเมนูซิกเนเจอร์มา นานๆ ได้กินที แต่โดนเอามาผสมกันต่อหน้าต่อตา โคตรเซ็ง จะห้ามก็คือเทน้ำซุปมาในชามเราเรียบร้อยทั้งที่เป็นคนละเมนูกัน
บางทีเราก็รู้สึกว่าแม่ทำอะไรตลกดี แต่พอโดนทำลายความตั้งใจหลายๆ เรื่องเข้า เราก็เครียด
รู้สึกเหมือนจะเป็นซึมเศร้า เพราะเครียดจากงาน แล้วยังต้องมาเครียดเรื่องที่บ้านด้วย เราคุยกับแม่ไปหลายรอบมาก แต่ก็ยังมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นมาอีก แล้วเหมือนแม่จะไม่ได้เครียดแบบเราเลย มีใครพอมีวิธีทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นจากเรื่องแบบนี้มั้ยคะ
ปล. แม่เรารักอิสระมาก ตอนมีเรา แม่ก็ยังมีวิถีทางของตัวเอง และไปทำงานอาสาที่นั่นที่นี่ + ผจญภัยนั่งรถเมย์ รถไฟเที่ยวไปที่ต่างๆ
คุณยายเลยเป็นคนส่งเราเรียนหนังสือ ส่วนตอนนี้ เราเลยถูกคาดหวังให้ดูแลแม่แทนยายแล้ว (ปล. ฐานะทางบ้านตอนเด็กๆ เราลำบากมาก เพราะต้องอาศัยความเมตตาจากญาติๆ เราเพิ่งจะมารู้สึกว่า พอมีกินบ้างก็ตอนเรียนจบทำงาน แต่ก็เครียดกับเรื่องแบบนี้) อยากได้วิธีคิดที่ช่วยสร้างกำลังใจ