เพิ่งจะดู 𝑨𝒍𝒄𝒉𝒆𝒎𝒚 𝒐𝒇 𝑺𝒐𝒖𝒍𝒔 (환혼) & 𝑨𝒍𝒄𝒉𝒆𝒎𝒚 𝒐𝒇 𝑺𝒐𝒖𝒍𝒔 : 𝑳𝒊𝒈𝒉𝒕 𝒂𝒏𝒅 𝑺𝒉𝒂𝒅𝒐𝒘 (환혼 : 빛과 그림자) จบ
ซีรีส์ปี 2022
ทีแรกตั้งใจว่าจะเปิดดูฆ่าเวลา แต่กลายเป็นว่าซีรีส์สนุกมากเฉยเลย
ทั้งเนื้อเรื่อง นักแสดง เพลงประกอบ แต่ที่อยากชมมากๆคือ CG เพราะ CG อลังการทั้งเรื่องจริง ๆ
อาจมีบ้างที่เดินเรื่องย้วยไปหน่อย และบางปมก็ยังมีข้อให้สงสัยอีกเล็กน้อย ที่แม้จะดูจบแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบ
แต่โดยรวมเราก็ถือว่าทำได้ดี เป็นซีรีส์ที่ครบรสเรื่องหนึ่งทีเดียว
ภาค 1 𝑨𝒍𝒄𝒉𝒆𝒎𝒚 𝒐𝒇 𝑺𝒐𝒖𝒍𝒔
เปิดเรื่องมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการต่อสู้ระหว่าง 'นักซู' และ 'ซงริม'
นักซู ที่ไปที่ไหนก็มีศีรษะร่วงหล่นราวกับใบไม้
ก่อนจะเพลี่ยงพล้ำ 'พัคจิน' ทำให้บาดเจ็บจนต้องแปรวิญญาณ
แต่ดันไปอยู่ในร่างสาวตาบอด 'มูด็อก' อย่างไม่ได้ตั้งใจ
นักซูที่อยู่ในร่างมูด็อกนั้นไรพลัง เธอพยายามเรียกพลังเวทย์กลับคืนมา
โดยได้รับการช่วยเหลือจาก 'จางอุก' นายน้อยผู้ถูกปิดกั้นพลังเวทย์ตั้งแต่เกิดจากพ่อตัวเอง
แม้ซีรีส์จะมีปมต่าง ๆ ให้คลาย แต่มู้ดของซีรีส์นั้นมีความอบอุ่น สดใส สนุกสนาน มีอะไรให้ขำเยอะ
ได้เห็นความอบอุ่นและมิตรภาพของตัวละคร รวมถึงเห็นพัฒนาการของ 'จางอุก' และ 'มูด็อก (นักซู)'
ทั้งในแง่ฝีมือการต่อสู้ที่พัฒนาขึ้นของจางอุก และ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่
การที่คนโดดเดี่ยวสองคนได้มาเจอกัน จากที่เพียงแค่แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน
กลับกลายมาเป็นคนที่ให้ใจกัน อยู่เคียงข้างกัน ทุ่มเท
พยายาม/ลำบากไปด้วยกัน เชื่อมั่นในกันและกัน
ยอมเสียสละ ไม่ทอดทิ้งกัน อยู่เคียงข้างกันทั้งยามทุกข์-ยามสุข
ไม่ว่าจางอุกจะเผชิญเรื่องยากลำบากอะไร ก็จะมีมูด็อกคอยอยู่เคียงข้างเสมอ
ช่างเป็นความรักที่ลึกซึ้งกินใจมาก
ไม่แปลกใจที่ทำไมรักครั้งนี้จึงเป็นรักที่จางอุกฝังใจ
และนักซูในร่างมูด็อกก็ทำให้ผู้ชมอย่างเราตกหลุมรักมากจริง ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แอบลุ้นให้ 'จินโฮกยอง' รู้ความจริงสักทีว่า 'มูด็อก' คือ 'จินบูยอน' ลูกสาวตัวจริงอยู่ตรงหน้าคุณแม่นะคะ แม้ว่านักซูจะอาศัยร่างนี้อยู่ก็เถอะ น่าจะลองเอ๊ะตั้งแต่มูด็อกเข้าไปในจินโยวอนได้แล้วนะ ฮื่อออ กว่าจะเซ้นส์ได้ก็สายไปแล้วอะคุณแม่
ป.ล. มูด็อก (นักซู) ทุ่มเทและเหนื่อยกับจางอุกมากจริง ๆ นะ
บางทีก็สงสารนางเอกเหมือนกัน ตัวก็เล็กแค่นี้แต่ยอมทำเพื่อนายน้อยสุดหัวใจ 55555
ลืมไปเลยว่าวิญญาณข้างในนั้น คือ 'นักซู' ที่ผู้คนหวาดกลัว
ซีนสอบเข้าเป็นคนรับใช้ซงริมนี่เป็นซีนที่ขำ สนุก และเอาใจช่วยมูด็อกกันสุด ๆ เลย
ใครจะเส้นใหญ่เท่ามูด็อก ไม่มีอีกแล้ว 55555
ส่วนซีนนี้จากเครียด ๆ อยู่ก็กลายเป็นความวุ่นวาย
ใคร ๆ ก็รักจางอุก ฮาแทบอ้วกนะ ถ้าดูระหว่างกินข้าวนี่...ไม่ไหวจริง ๆ 5555
.
.
.
ภาค 2 𝑨𝒍𝒄𝒉𝒆𝒎𝒚 𝒐𝒇 𝑺𝒐𝒖𝒍𝒔 : 𝑳𝒊𝒈𝒉𝒕 𝒂𝒏𝒅 𝑺𝒉𝒂𝒅𝒐𝒘
ยังมีปมให้คลายต่อจากภาคแรก
ซีรีส์มาเป็นโทนหมองหม่น เย็นยะเยือก มืดมน เหงา อ้างว้าง ไม่สดใส
ซีนกลางคืนมากกว่ากลางวัน ถือว่าคนละมู้ด คนละโทนกับภาคแรกเลย
แต่ในขณะเดียวกัน เรารู้สึกว่าบทของภาค 2
ใส่รายละเอียดที่มีความลึกซึ้งมากกว่าภาคแรก
ทั้งจากการกระทำและคำพูดของตัวละครต่าง ๆ
มีหลายฉากที่ซึ้ง กินใจทีเดียว
ภาคนี้ตัวละคร(หลาย)ตัวล้วนมีสิ่งที่เจ็บปวด สิ่งที่ต้องเสียสละ มีสิ่งที่ขาดหายไป
ต้องยึดถือหน้าที่และรับผิดชอบส่วนรวม มากกว่าส่วนตัว
ต้องแบกรับความผิดและความเสียใจแต่ก็ต้องก้าวต่อไปแบบรวดร้าว
ซึ่งเป็นผลพวงจากเหตุการณ์ในภาคแรก
แต่ที่แน่ ๆ จางอุกกลายเป็น Last Boss ไปแล้ว พลังเวทย์เก่งกาจเกิ๊น >.<
ป.ล. จางอุก ลุคในภาค 2 ดาร์ก ๆ กร้าวใจมาก ชอบลุคนี้มากกว่าภาคแรกอีกจ้า
จางอุกพกดาบของนักซูติดตัวเป็นอาวุธคู่กาย
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน 'มูด็อก (นักซู)' ก็อยู่ในใจ 'จางอุก' เสมอ
นอกจากจะมีปมเก่าแล้ว ยังมีปมใหม่เกิดขึ้นในภาคนี้อีกด้วย
อย่างการกลับมาของ 'จินบูยอน' ที่เข้ามาทำให้จางอุกสับสนและหวั่นไหว
(เธอเป็นใคร ทำไมมีอะไรหลายอย่างเหมือน มูด็อก เหลือเกิน)
และยังมีภารกิจที่ยิ่งใหญ่ให้ต้องสะสางอีกด้วย
แต่ภาค Light and Shadow แม้จะเปิดเรื่องมาให้ความรู้สึกอ้างว้างยังไง
เมื่อดูไป เราก็จะค่อย ๆ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความหวัง
ความรักที่ไม่ว่าจะพลัดพรากกันไปอย่างไร พรหมลิขิตก็พาเรากลับมาพบกัน
อยู่เคียงข้างกัน เติมเต็มหัวใจ เป็นแสงและเงาที่โอบอุ้มกันและกัน
อิ่มเอมไปกับความรักของ 'จางอุก' และ 'นักซู'
ความรักที่จากกันไปนาน สุดท้ายก็ได้กลับมาเคียงคู่กันเสียที
.
.
ตอนรู้ว่าภาค 2 เขาเปลี่ยนนักแสดงเราก็ตกใจนิดหน่อย เพราะ ชอบนักซูในร่าง 'มูด็อก' ไปแล้ว
แต่ถ้าตามเนื้อเรื่อง 'มูด็อก / จินบูยอน' ก็คือร่างที่ 'นักซู' มาอาศัยอยู่เท่านั้นเอง
แก่นแท้จริง ๆ คือ จางอุก & นักซู ต่างหาก
ฉะนั้น การที่เปลี่ยนนักแสดงก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกและน่าติดตามซีรีส์ลดลง
เพราะ มันมีเหตุผลของมันอยู่ อย่าพลาดเลย
(ชีวิตนางเอกปมเยอะเวอร์ ต้องดูเองถึงจะเข้าใจ >.<)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดูภาค 2 แล้ว เราเข้าใจเหตุผลในการเปลี่ยนนักแสดง ถึงจะผูกพันกับ 'มูด็อก' แต่ก็ดีใจที่ 'นักซู' ได้กลับมาใช้ชีวิตด้วยใบหน้าของตัวเอง ในร่างกายของจินบูยอน = มูด็อก เหมือนได้กลับมามีชีวิต/ตัวตนจริงอีกครั้ง แม้การกลับมามีชีวิตใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มีสิ่งที่ต้องหาคำตอบ พิสูจน์และฝ่าฟันมากมาย แต่สุดท้ายก็ถือว่าได้กลับมาใช้ชีวิตที่เป็นของตัวเองจริง ๆ สักที

การพบกันครั้งแรกของจางอุกและนักซู
อ้อมกอดที่คุ้นเคย
ที่ที่ให้คำสัญญาและมาทำตามสัญญา
.
.
ยิ่งใกล้จบภาค 2 เนื้อหายิ่งเข้มข้น
อาจจะมีบ้างที่ดูแล้วบ่นว่า..พวกตัวร้ายมันจะโลภอะไรของมันนักหนา ?
โดยเฉพาะ 'จินมู' เนี่ยยยย...ฉันละหน่ายยยย 5555
หรืออย่าง 'พระมเหสี' นี่ เราเข้าใจปมนางนะ
แต่ถ้าอยู่ใกล้คนแบบนี้จริง ๆ เราหลอนนะจ๊ะ
หล่อนจะเอาร่างฉันไปเมื่อไหร่ กลัวจ้าาา
แต่ถ้าไม่มีความโลภพวกนี้ ก็จะไม่มีปมให้แก้เนอะ 55555
ยิ่งใกล้จบ ยิ่งกลัวเศร้า กลัวใจสลาย
เพราะมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น ให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยเหลือเกิน
ทุกคนล้วนต้องยอมเจ็บปวดและเสียสละเพื่อส่วนรวม
แอบสะใจกับ EP สุดท้าย เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ และจางอุกเด็ดขาดเวอร์
แต่สิ่งที่แฮปปี้อีกอย่างคือ..ตัวละครฝ่ายดีไม่มีใครหักหลังกันให้ต้องปวดหัว
สุดท้าย...
เราดีใจกับความรักของจางอุกและนักซู
ในที่สุดก็ได้อยู่เคียงคู่กันเสียที ไม่ต้องแยกจากกันไปไหนอีก
ยิ่งดูมาตั้งแต่ภาค 1 ก็ยิ่งยินดีไปกับความรักของตัวละครทั้งคู่จริง ๆ
(มองข้ามเปลือกนอก และ ความเคยชินภาพ มูด็อก กันไปให้ได้เน้ออออ)
ถือว่าได้เต็มอิ่มไปกับความสนุกและความรักใน
𝑨𝒍𝒄𝒉𝒆𝒎𝒚 𝒐𝒇 𝑺𝒐𝒖𝒍𝒔
ใครไม่มีอะไรจะดู แนะนำเรื่องนี้ ไม่อยากให้พลาดกันจ้ะ
Happy Ending
.
.
.
ป.ล. 1
แอบเห็นใจ 'ซอยุล' ที่รักนักซูแค่ไหนก็ต้องปล่อยเธอไป
เพราะ ความรัก/ความผูกพันในอดีตนั้นจบไปแล้ว
ต่อแต่นี้ไปในใจนักซูมีแต่จางอุกเท่านั้น
ซอยุลผู้เสียสละเพื่อเพื่อนรักและหญิงที่รัก T_T อยากให้ซอยุลสมหวังบ้าง
ป.ล.2
ขาดคู่ชิปนี้ไปไม่ได้จริง ๆ
'องค์ชายรัชทายาท' & 'จางอุก'
ใครได้ดูซีนนี้ในภาค 1 แล้ว เล่นใหญ่มาก ฮาสุดๆ 5555
ใครดูจบแล้วชอบซีนไหนบ้าง แวะมาคุยเม้าท์มอยกันได้น้า
ดู Alchemy of Souls (ภาค 1) & Alchemy of Souls : Light and Shadow (ภาค 2) จบแล้ว ดีใจกับจางอุกและนักซูได้สมหวังสักที