JJNY : ยังอยู่ครบ! 2ม็อบ│'จาตุรนต์' ชี้ถึงเวลาเปลี่ยนผู้นำ│ฉาวซ้ำ!"ทัวร์ภูเก็ต"│บิ๊กทหารรับจ้างรัสเซีย “ถูกยิงหัว” สาหัส

ยังอยู่ครบ! 2 ม็อบ ทำอาหาร-อาบน้ำ ปักหลักรอเจอ ‘อนุทิน-หมอโอภาส’ ยันไม่ออกจากพื้นที่ จ่อยกระดับ
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3810535

 
ยังอยู่ครบ! 2 ม็อบ ทำอาหาร-อาบน้ำ ปักหลักรอเจอ ‘อนุทิน-หมอโอภาส’ ยันไม่ออกจากพื้นที่ เตรียมเรียกกำลังเพิ่ม หวังยกระดับ
 
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มีการประกาศค้างแรมของ 2 ม็อบที่เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุขคือ 1.กลุ่มสหภาพลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย (สลท.) มาเพื่อขอพบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เพื่อเรียกร้องสวัสดิการพนักงานสาธารณสุข และ 2.กลุ่มนักรบผ้าถุง ชาวบ้าน อ.จะนะ จ.สงขลา ที่เดินทางกว่าพันกิโลเมตร เพื่อมาขอพบกับ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. เพื่อให้ยกเลิกคำสั่งย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (ผอ.รพ.) จะนะ ไปเป็น ผอ.รพ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
  
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามประชาชนทั้ง 2 กลุ่มได้ข้อมูลว่า กลุ่ม สลท.เตรียมพื้นที่บริเวณหน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกลุ่มนักรบผ้าถุงใช้พื้นที่หลังอาคาร เมื่อคืนนอนในเต็นท์ที่เตรียมมา บางส่วนใช้มุ้งกางเพื่อกันยุงแต่ก็ยังโดนยุงกัด ส่วนเรื่องการอาบน้ำก็ใช้ห้องน้ำในส่วนอาคารสำนักงานปลัด บางส่วนอาบน้ำที่สวนหย่อมใกล้เคียง จากนั้นมีการประกอบศาสนกิจในช่วงเช้า ขณะที่แม่ครัวของแต่ละกลุ่มทำอาหารการกินเลี้ยงสมาชิก ซึ่งมีการนำเสบียงอาหารมาเพิ่มเติม ทั้งน้ำเปล่าและเนื้อสัตว์
  
โดยได้รับคำยืนยันว่าหากยังไม่ได้พบกับผู้บริหารตามที่ระบุไปนั้นก็จะไม่ออกจากพื้นที่ และจะมีการยกระดับด้วยการเรียกระดมมวลชนเข้ามาเพิ่ม โดยจากกลุ่ม สลท.จะมีการเรียกสมาชิกของสหภาพ ในสาขาวิชาชีพอื่นๆ เข้ามาสับเปลี่ยนหมุนเวียน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการประชาชนในต้นสังกัด และกลุ่มนักรบผ้าถุงจะเรียกชาวบ้านจาก อ.จะนะ ให้เดินทางมาเพิ่มเติม
 
ทั้งนี้ เวลา 10.00 น. สมาชิกของทั้ง 2 กลุ่มจะมีการขึ้นปราศรัย
 


'จาตุรนต์' ชี้ถึงเวลาเปลี่ยนผู้นำ กู้วิกฤตท่องเที่ยวได้แล้ว เผย ศก.ไทยช้าไปกว่าครึ่งปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3810524
 
‘จาตุรนต์’ ชี้ถึงเวลาเปลี่ยนผู้นำ กู้วิกฤตท่องเที่ยวได้แล้ว เผยที่ผ่านมา ศก.ไทยช้าไปกว่าครึ่งปี
 
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า 

ถึงเวลาเปลี่ยนผู้นำ กู้วิกฤตท่องเที่ยว
 
ข้อคิดเห็นของผมหลังจากพูดคุยกับภาคส่วนต่างๆ ด้านการท่องเที่ยวซึ่งทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจของไทยล่าช้าไปกว่าปีครึ่ง ตัวเลขด้านการท่องเที่ยวมหาศาลสูญเสียไปจากความล่าช้านี้ ยังมีอะไรอีกบ้างที่ต้องเตรียมพร้อม เพื่อให้การท่องเที่ยวสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศได้อีกครั้ง
 
ร่วมแลกเปลี่ยน พูดคุยกันได้ครับ
  

 
ฉาวซ้ำ! "ทัวร์ภูเก็ต" ทำร้าย "นักท่องเที่ยวจีน" ล่าสุดถูกแจ้งข้อหาแล้ว
https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1051765

ภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทยฉาวซ้ำ! "ทัวร์ภูเก็ต" ทำร้าย "นักท่องเที่ยวจีน" ใช้มีดฟันแขนจนเป็นแผล ทำนักท่องเที่ยวหวาดกลัว ล่าสุดมีการแจ้งข้อหาผู้กระทำผิดทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวที่สถานีตำรวจภูธรกะรนแล้ว เตรียมแถลงด่วนพร้อมขอโทษนักท่องเที่ยววันนี้
 
จากกรณีมีการอัดคลิป TikTok แชร์กันถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวมาเที่ยวภูเก็ต ซื้อแพ็กเกจทัวร์แบบวันเดียวเที่ยวเกาะสิมิลัน  ราคา 9,000 บาท จ่ายเงินมัดจำ 5,000 บาท แต่เมื่อถึงวันนัดหมาย บริษัททัวร์อ้างไปผิดโรงแรม พอขอเงินคืน ก็ไม่พอใจ มีการทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวจีน ทั้งถีบ ทั้งใช้มีดฟันแขนนักท่องเที่ยวจนเป็นแผล
 
ล่าสุดนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากกรณีคลิปดังกล่าว ผมกำลังให้ตำรวจท่องเที่ยวติดตามเรื่องอยู่
 
โดยล่าสุดได้มีการดำเนินการเบื้องต้นแล้วดังนี้
 
1. มีการแจ้งข้อหาผู้กระทำผิดทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวจีน ที่ สถานีตำรวจภูธรกะรน โดยมี ผกก. สถานีตำรวจ ผกก. ตำรวจท่องเที่ยว และนายทะเบียนการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตอยู่ที่สถานีตำรวจด้วย
2. ส่วนเรื่องการดำเนินการกับบริษัททัวร์รายนี้ นายทะเบียนท่องเที่ยวภูเก็ตขอดูรายละเอียดข้อกฎหมายอีกครั้งเพื่อความรอบคอบแล้วจะกลับมาแจ้งความร้องทุกข์อีกครั้ง
3. วันนี้ (7 ก.พ. 66) เวลา 10.00 น. ผู้การตำรวจท่องเที่ยวภาค 3 สมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต นายทะเบียนท่องเที่ยวภูเก็ต รวมทั้งอาจมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องนัดท่านกงสุลจีนมาหารือ แจ้งรายละเอียดให้ทราบและจะถือโอกาสนี้ขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 
ไทม์ไลน์นักท่องเที่ยวจีนทำร้าย จากการสอบสวนของตำรวจท่องเที่ยว
 
นอกจากนี้ ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 (ภูเก็ต,พังงา) ได้รายงานเหตุนักท่องเที่ยวจีนถูกทำร้ายร่างกาย ร่วมทำการตรวจสอบ ปรากฎข้อมูล ดังนี้
 
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.66 นักท่องเที่ยวจีน ชื่อ Mr.Fang Liqiao อายุ 36 ปี ได้เดินทางมาซื้อทัวร์กับบริษัททัวร์  Blue Ocean Travel เลขที่ใบอนุญาต 33/10054 ใบอนุญาตถูกต้อง ตั้งอยู่ที่ 168 ถนนปฏัก ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต  เพื่อไปท่องเที่ยวทางทะเลที่หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา จำนวน 4 คน ในราคา 9,000 บาท  ซึ่งนักท่องเที่ยวได้จ่ายเงินมัดจำไปจำนวน 5,000 บาทเเล้ว โดยบริษัททัวร์จะนัดรับนักท่องเที่ยวที่โรงเเรมประมุขโก้ (Pamookkoo Hotel) ซึ่งอยูใกล้กับบริษัททัวร์ที่นักท่องเที่ยวซื้อทัวร์ ในวันที่ 31 ม.ค.66 เวลา 06.00 น.
 
ต่อมาคืนวันที่ 30 ม.ค.66 น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์ พนักงานของบริษัททัวร์โทรสอบถามมายัง Mr.Fang Liqiao ให้มาชำระส่วนที่เหลืออีก 4,000 บาท นักท่องเที่ยวแจ้งว่าขอชำระส่วนที่เหลือกับคนขับรถที่มารับในเช้าวันถัดมา (31 ม.ค.66) และนักท่องเที่ยวได้แจ้งว่าได้ย้ายโรงแรมมาพักที่ โรงเเรมชนาลัย ฟลอร่า น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์ จึงได้แจ้งให้คนขับรถไปรับที่โรงแรมชนาลัย ฟลอร่า
 
แต่ต่อมาเมื่อเวลาเช้าของวันที่ 31 ม.ค.66 เวลาประมาณ 06.00 น. นักท่องเที่ยวโทรมาหา น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์ แจ้งว่านั่งรออยู่ที่ลอบบี้โรงแรม น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์ จึงเข้าใจว่า นักท่องเที่ยวรออยู่ที่ โรงแรมชนาลัย ฟลอร่า น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์ จึงได้แจ้งให้คนขับรถที่จะไปรับนักท่องเที่ยวทราบเพื่อไปไปรับนักท่องเที่ยวที่โรงแรมชนาลัย ฟลอร่า แต่เมื่อคนขับรถไปรับที่ โรงแรมชนาลัย ฟลอร่า ก็ไม่พบนักท่องเที่ยว ซึ่งเกิดจากการผิดพลาดด้านการสื่อสาร ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวดังกล่าว
 
ต่อมาบ่ายของวันที่ 31 ม.ค.66  นักท่องเที่ยวได้ติดต่อเพื่อขอรับเงินคืนที่บริษัททัวร์และประสานมายังตำรวจท่องเที่ยวเข้าช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยที่ สภ.กะรน ผลการพูดคุยไม่สามารถตกลงกันได้ โดยนักท่องเที่ยวขอรับเงินคืนเต็มจำนวน 5,000 บาท แต่ทางบริษัททัวร์ไม่สามารถคืนได้เต็มจำนวนเนื่องจากได้ชำระค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานสิมิลันล่วงหน้าแล้วเป็นเงิน 1,600 บาท จึงเสนอชดใช้เงินคืนจำนวน 3,400 บาท แต่นักท่องเที่ยวไม่ยินยอมรับ พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งให้ทั้งสองฝ่ายมาตกลงกันอีกครั้ง
 
ต่อมาวันที่ 1 ม.ค.66เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่ น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์ อยู่ในสำนักงานบริษัททัวร์ Mr.Fang Liqiao ได้มาทวงถามขอคืนเงินทั้งหมดจำนวน 5,000 บาท โดยได้ใช้อารมณ์รุนแรง น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์ ก็ยืนยันว่าสามารถชำระให้คืนได้เพียง 3,400 บาท นักท่องเที่ยวได้แสดงอาการไม่พอใจใช้มือทุบกระจกสำนักงานและเข้ามาชกต่อย น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์ จำนวน 2 ครั้ง บริเวณใบหน้าและลำตัว น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์ จึงได้เดินออกมาด้านนอกสำนักงาน
 
นักท่องเที่ยวได้เดินตามออกมาโวยวายต่อว่าและได้ใช้โทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพซึ่งปรากฏภาพ น.ส.วิริย์ เเสวงวิทย์ ได้ใช้มีดฟันทำร้าย Mr.Fang Liqiao บริเวณเเขน 1 ครั้ง จากนั้น คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้พากันมาที่ สภ.กะรน โดย Mr.Fang Liqiao ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับ น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์
 
โดยพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบสวน Mr.Fang Liqiao เเละส่งผู้บาดเจ็บไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลฉลอง เเละได้เเจ้งข้อกล่าวหาเเก่ น.ส.วิริย์ แสวงวิทย์ อายุ 44 ปี ที่อยู่ 67/5 ม.3 ต.ป่าคลอง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า "ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและพกพาอาวุธ(มีด)" โดย น.ส.วิริย์ เเสวงวิทย์ ให้การรับสารภาพโดยอ้างเหตุในการป้องกันตัว
 
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวได้เดินทางกลับประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 65
การดำเนินการของ ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3
     1. ร่วมไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ให้กับนักท่องเที่ยวเเละบริษัททัวร์
     2. ตรวจสอบบริษัททัวร์ Blue Ocean ถูกต้องตามกฎหมาย
     3. ร่วมติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี
 
สำหรับคลิปนักท่องเที่ยวจีนทำร้าย ทางรายการเช้านี้ที่หมอชิต ทางช่อง 7 ได้รายงานว่า เกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยขึ้นอีกแล้ว เมื่อนักท่องเที่ยวจีน โพสต์ใน TikTok ว่า มาเที่ยวภูเก็ต ซื้อแพ็กเกจแบบวันเดียวเที่ยวเกาะสิมิลัน ราคา 9,000 บาท จ่ายเงินมัดจำ 5,000 บาท แต่เมื่อถึงวันนัดหมาย บริษัททัวร์อ้างไปผิดโรงแรม พอขอเงินคืน ก็ไม่พอใจ ทั้งถีบ ทั้งใช้มีดฟันแขนนักท่องเที่ยวจนเป็นแผล
 
นี่เป็นส่วนหนึ่งของคลิปวีดีโอที่ถูกนำไปเผยแพร่ใน TikTok ของจีน แสดงให้เห็นเหตุการณ์ที่ผู้หญิงคนหนึ่ง พูดภาษาไทย เดินมาใช้เท้าขวาถีบคนที่ถ่ายคลิป พร้อมสบถคำด่าเป็นภาษาไทย แล้วใช้มีดขนาดเล็กฟันแขนคนที่ถ่ายคลิปจนเป็นแผลยาวตามแนวขวางของแขน ในคลิปฉบับเต็มที่ถูกทำไว้ค่อนข้างละเอียด อธิบายที่มาที่ไปของเหตุการณ์นี้ว่า
 
เริ่มต้นจากมีครอบครัวชาวจีนครอบครัวหนึ่ง ติดใจประเทศไทยและเคยเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยหลายรอบ แต่การมาไทยครั้งล่าสุดนี้ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและผิดหวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากเด็ก ๆ ในครอบครัวอยากดูเต่าทะเล ทางผู้ใหญ่ก็เลยวางแผนเที่ยว โดยเดินทางมาจากเมืองหางโจว ประเทศจีน เพื่อมาเที่ยวเกาะภูเก็ต
 
เมื่อวันที่ 29 มกราคมได้ไปซื้อแพคเกจทัวร์เที่ยวเกาะสิมิลันแบบ 1 วัน (One day tour) ราคา 9,000 บาท กับบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่ง (Blue Ocean Travel) ซึ่งอยู่ใกล้โรงแรมที่พัก โดยจะออกเดินทางในวัน 31 มกราคม และได้ชำระเงินมัดจำไป 5,000 บาท
 
บริษัทนำเที่ยวดังกล่าว นัดนักท่องเที่ยวจะไปรับที่ล็อบบี้โรงแรมเวลา 05.50 น. ของวันที่ 31 มกราคม แต่พอถึงเวลานัดหมาย นักท่องเที่ยวจีนครอบครัวนี้ รอบริษัททัวร์มารับอยู่นาน ก็ไม่เห็นมา ระหว่างนั้นพยายามโทรศัพท์หาบริษัททัวร์หลายรอบ ตั้งแต่เวลา 06.03 น. จนถึงเวลา 07.03 น. รวมโทรทั้งหมด 7 ครั้ง แต่ก็ไม่มีใครรับสาย
 
ภายหลังบริษัททัวร์อ้างว่า พวกเขาไปรับผิดโรงแรมเลยไม่เจอนักท่องเที่ยว ทางนักท่องเที่ยวเองก็รู้สึกว่าพวกเขาอาจถูกพวกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวง เพราะวันก่อนเดินทาง คือวันที่ 30 มกราคม เวลาประมาณ 20.30 น. นักท่องเที่ยวได้ส่งข้อความถามว่าจะมารับกี่โมง และยังมีการส่งนามบัตรของโรงแรมให้ทางบริษัททัวร์อีกด้วย นักท่องเที่ยวเลยไปแจ้งความกับตำรวจและได้ไปที่บริษัททัวร์แห่งนี้กับตำรวจ เพื่อเจรจาขอคืนเงินมัดจำ 5,000 บาท
หลังจากเจรจากันหลายครั้ง บริษัททัวร์ยอมคืนเงินให้เพียง 3,000 บาทเท่านั้น ทางนักท่องเที่ยวรู้สึกว่าพวกเขาเองไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องมาหักเงิน 2,000 บาทอย่างไม่ยุติธรรม ดังนั้นบริษัททัวร์ควรคืนเงินเต็มจำนวน 5,000 บาท ทั้งสองฝ่ายเกิดมีปากเสียงกัน ทางคนของบริษัททัวร์มีการข่มขู่และได้ทำร้ายร่างกายโดยการถีบและใช้มีดฟันที่นักท่องเที่ยวจนได้รับบาดเจ็บ
 
หลังจากบาดเจ็บได้ไปแจ้งตำรวจอีกครั้งและไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ แต่นักท่องเที่ยวบอกว่าผิดหวังกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ไปขอความช่วยเหลือ เขาบอกว่าได้เงิน 5,000 บาท แต่มันควรจะถูกต้อง ที่สำคัญเขาบอกว่าเขารัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่