Sushi Saito (Bangkok, Thailand)
วันนี้เป็นร้านซูชิชื่อดังที่ผมประทับใจมากจนขอลัดมาลงก่อน ใช่แล้วร้านนี้ก็คือSushi Saito Bangkok ร้านซูชิชื่อดังจากโตเกียวที่พึ่งมาเปิดในบ้านเราเมื่อต้นเดือนนี้เอง ตำนานของร้าน Sushi saito คือกิตติศัพท์ความจองยาก จนแม้กะทั่ง Inspector ของ Michelin guide ก็ยังจองไม่ได้จนถูกถอดดาว
สำหรับ Sushi Saito Bangkok นั้นตั้งอยู่ที่ Fourseason เช่นเดียวกับสาขาสาขาฮ่องกง มีคอร์ส 2คอร์สคือกลางวัน 5800++ , และ มื้อเย็น7800 ++ ไม่รวมอูนิทั้งสองคอร์ส โดยตัวมื้อเย็นนั้นจะมีเพิ่มขึ้นประมาณสามจานครับ ในวันนี้ผมได้มากินมื้อกลางวันซึ่งมีราคาคุ้มค่ามากเรียกว่าน่าจะคุ้มค่าที่สุดร้านหนึ่งในบ้านเราเลยครับ อนึ่งถ้าเทียบราคากันแล้ว Sushi Saito ในไทยน่าจะถูกที่สุดในทั้งสามสาขาครับ
สำหรับเชฟของซูชิไซโตะในกรุงเทพนี้คือมารุยาม่าซัง ซึ่งเคยทำงานที่ซูชิไซโต้ในโตเกียวก่อนไปเป็นเชฟพี่ซูชิไซโตะสาขามาเลเซียที่ปิดตัวลงไปแล้วโดยก่อนมาประจำที่ใส่โต้ในไทยนั้น เชฟแวะไปทำงานอยู่ที่ร้านซูชิที่จองยากอีกร้านอย่าง tsubomi ในโตเกียวก่อนจะมาประจำการที่ไทยครับ
แม้จะเป็นคอร์สเล็กสุดในร้านแต่ของที่ได้นั้นจัดเต็มใช้ของคุณภาพดีมากๆ ปลามากุโระจากยามะยูกิ มีปูขน หรือจะเป็นชิโระเอบิและซูมิอิกะชั้นยอด นั้นช่างตราตรึงเอาเสียมากๆ ยิ่งผสมผสานกับฝีมือเชฟชั้นยอดแล้วยิ่งสุดยอดขึ้นไปอีก ลำดับคอร์สนั้นมีความคล้ายกับสาขาฮ่องกงที่ผมเคยไปชิม
ตัวชาริที่ร้านมีเอกลักษณ์และอร่อยมากๆ สไตล์เดียวกับสาขาฮ่องกงที่จำความได้ อุณหภูมิข้าวที่เหมาะสม รสอ่อนๆกลิ่นน้ำส้มบางๆเค็มเปรี้ยวอ่อนๆนั้น ช่วยชูรสของปลาคุณภาพเยี่ยมได้อย่างดี ตลอดทั้งมื้อเเม้จะจะดูเรียบๆแต่แต่ทำออกมาได้ดีและปราณีตมาก มารุยามะซังที่ดูเงียบๆนั้นเก็บรายละเอียดอย่างยอดเยี่ยมลูกค้าคนนี้กินเยอะนะต้องเพิ่มข้าว คนนี้ถนัดซ้ายนะต้องวางให้เค้าหยิบง่าย ซูชิทุกๆคำนั้นเเสดงถึงความสุดยอดของวัตถุดิบและฝีมือเชฟ ผมเชื่อทุกคนบนโต๊ะวันนั้น ไม่มีแม้กระทั่งคำเดียวที่จะบอกไม่อร่อยได้ นับเป็นหนึ่งในมื้อที่น่าประทับใจที่สุดของผมในปีนี้เลยครับ ถ้ารักษามาตราฐานนี้ไว้ได้ผมว่า Sushi Saito มีสิทธิ์ได้ดาวเหมือนกันครับ
การจองทำยังไง คำถามที่ทุกคนถาม ฮ่าา Saito ในไทยยังคงใช้ระบบการรับจองผ่านการ Refer อยู่ในตอนนี้ โดยเราสามารถรีเควสขอที่นั่งไว้ได้เเล้วทางร้านจะโทรศัพท์กลับมาคอนเฟริม์ในภายหลัง ซึ่งเเว่วๆว่าคิวตอนนี้ยาวไปถึงสองหรือสามเดือนแล้วครับ
Otsumami คำแรก คือ Shiro ebi เชฟหั่นมาเป็นเส้นคล้ายอิกะโซเมง เสริฟ์มาพร้อมกับขิงขูดและโชยุ จานนี้ตัวกุ้งคุณภาพดีมากๆ ปกติชิโระเอบิเนื้อจะไม่ค่อยกรอบ แต่ที่นี้เนื้อกรุบๆ หวาน ขิงเบาๆด้านบนนั้นช่วยเพิ่มความเผ็ดร้อนเบาๆขับรสหวานของกุ้งได้อย่างดี ทำออกมาได้ดีมาก
Tako Yawarakani เสริฟ์มาพร้อมกับวาซาบิ ตัวหมึกที่นี้เนื้อจะออกแนวนุบหนับกรุบๆมีเท็กเจอร์ให้เคี้ยวแต่ตรงกลางนุ่มละลาย ซึ่งส่วนตัวผมชอบกว่าเเบบนุ่มทั้งชิ้น ตัวซอสรสหวานนำค่อนข้างเข้มข้นแต่ไม่ทิ้งรสในปาก ตัดรสด้วยวาซาบิที่เผ็ดนิดๆครับ

.
Otsumami คำสุดท้ายเป็นปูขน เสริฟ์มาพร้อมกับซอสที่ทำจากดาชิโชยุเเละน้ำส้มสายชู โดยkeganiนั้นเสริฟ์มาสองสไตล์คลุกไข่ปูด่นล่างเเละเนื้อล้วนด้านบนครับ
จานนี้อร่อยเลยทีเดียวตัวปูเป็นของคุณภาพเยี่ยมเนื้อหวานไม่เละ ตัวซอสรสเบาเปรี้ยวนำแฝงด้วยความอุมามินั้นช่วยขับรสปูได้เป็นอย่างดี อร่อยครับ
ชูชิคำแรกเริ่มด้วย ฮิราเมะ ปลานั้นเอจไว้พอสมควร ตัวเนื้อหนึบเเน่นกรอบ ตัดกับข้าวที่เท็กเจอร์กรุบๆได้อย่างน่าสนใจ
คำต่อมาปลาซาวาระ โดยเชฟนำไปซึเกะก่อน คำนี้มีกลิ่นซีอิ๊วบางๆรสไม่จัดมาก ปลานุ่มดีครับ
โคฮาดะดอง ปลาตัวใหญ่ผิวสวยมาก เป็นของคุณภาพดี เชฟดองมาอ่อนๆรสไม่จัดมาก ตัวปลาคำนี้มีรสเค็มนำเเฝงด้วยรสเปรี้ยวอมหวาน คำนี้เสียงเเตกออกเป็นสองทาง คำนึกว่าอยากได้รสเปรี้ยวกว่านี้ แต่ผมว่าแม้รสเค็มนำแบบนี้จะแปลก แต่น่าจะบาลานซ์และเข้ากับข้าวของทางร้านที่ไม่เปรี้ยวมากได้ดีกว่า
อากามิ คำนี้เชฟซึเกะบางๆ ปลาเนื้อเด้ง เเน่นดี มีความอร่อยของเนื้อเเดงของมากุโระอย่างที่ผมชื่นชอบ แม้จะไม่เข้มข้นนักแต่ก็ถือเป็นของดีที่หาได้ยากขึ้นเรื่อยครับ
ชุโทโร่ คำนี้ก็ดีครับ หลายๆคนชอบคำนี้มากกว่าโอโทโร่ แต่ผมว่าพอเสริฟ์ สามส่วนเเล้วนี้มันดูกลางๆไปนิดเลยประทับใจอากามิหรือโอโทโร่มากกว่า แต่ยังไงมากุโระที่นี้ดีทุกคำครับ
โอโทโร่ วันนี้เชฟเสริฟ์เป็นส่วนชิโมะฟูริ เเม้จะเป็นส่วนที่มันมาก แต่เราไม่รู้สึกเลี่ยนหนัก เชฟสามารถบาลานซ์รสชาติได้ดีมากๆ ปลาเนื้อนุ่ม มันเเทรกละลาย เข้ากับข้าวที่รสเค็มนำได้อย่างดี อร่อยมากครับ
ซูมิอิกะ ตัวใหญ่มาก เชฟเสริฟ์มากับน้ำมะนาวไทยและเกลือ คำนี้เป็นคำที่ดีที่สุดในวันนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ปลาหมึกคุณภาพเยี่ยมชิ้นหนา เนื้อหวานกรอบ แม้จะมีความหนาเเต่เราก็ไม่รู้สึกเหนียว ความหวานของปลาหมึกถูกชุให้เด่นชัดขึ้นด้วยรสมะนาวที่เปรี้ยวโปร่ง ซึ่งหากเป้นร้านอื่นเเล้วมะนาวอาจจะเปรี้ยวเกินไปการใช้ซึดาจิอาจจะเหมาะกว่า เเต่ที่นี้นั้นข้าวไม่ค่อยเปรี้ยวนักจึงเข้ากันได้อย่างลงตัวครับ
คุรุมะเอบิ เสริฟ์มาเเบบสุกwell done ในอุณหภูมิห้อง ตัวกุ้งหวานนำ ตัดกับข้าวรสเค็มครับ ผมยังชอบแบบที่เสริฟือุ่นๆที่เคยกินที่ฮ่องกงมากกว่าเพราะพอเย็นแล้วรสมันแอบดูหวานหนักไปนิดครับ
อนาโกะ คำนี้น่าจะเป็นอนาโกะที่ผมชอบสุดในไทย ตัวปลาคุณภาพเยี่ยม เสริฟืมาอุ่นๆ เนื้อฟูเบาเเต่มีความมัน เท็กเจอร์ของมันตัดกับข้าวกรุบๆได้อย่างสนุกสนานในปาก ซอสที่ปาดมาด้านบนนั้น ปาดมาเล็กน้อยให้รสหวานอ่อนๆ
ซุปเป็นซุปมิโซะ กับสาหร่ายและต้นหอมครับ รสเบาๆอุมามิจากสาหร่าย
ฟุโตะมากิ ใส่เห็ดหอม อนาโกะ แตงกวา กุ้ง ไข่หวาน ผมชอบรสเค็มของข้าวที่ตัดกับความหวานของไข่ เห็ดต้นซีอิ๊วกรุบๆหวานๆ อนาโกะฟูๆเค็มอ่อนๆ เเตงกวากรอบสดชื่น กุ้งเด้ง เป็นคำที่อรอ่ยครับ
ไข่หวาน ที่นี้มีความเป็นขนมหวาน คล้ายคัสตาร์ตกับโยคังมากกว่าทามาโกะยากิ รสหวานครีมมี่ เหมือนจำได้ว่าที่กินที่ฮ่องกงหอมไข่อร่อยกว่าครับ
ปิดท้ายด้วยเซอเบทเเละเยลลี่ รสอ่อนๆไม่จัดจ้านครับ
#Score:
🍾Service : 8.75/10
🍽Food: 8.5/10
🤩WOW factor: 8.25/10
💰Value for money: 8.75/10
Total:8.5/10
Visit : Jan-2023
🗺เเผนที่ :
https://goo.gl/maps/gnC1c3eRtWjHGQDo6
⏰เวลาเปิดปิด: 12 PM, 6 PM , 8 PM ปิด Monday
💵ค่าเสียหาย: ~5800++ baht
⌨️เว็บไซต์ร้าน: na
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (
https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (
https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit:
https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
[CR] บอสพาชิม : Sushi Saito Bangkok
วันนี้เป็นร้านซูชิชื่อดังที่ผมประทับใจมากจนขอลัดมาลงก่อน ใช่แล้วร้านนี้ก็คือSushi Saito Bangkok ร้านซูชิชื่อดังจากโตเกียวที่พึ่งมาเปิดในบ้านเราเมื่อต้นเดือนนี้เอง ตำนานของร้าน Sushi saito คือกิตติศัพท์ความจองยาก จนแม้กะทั่ง Inspector ของ Michelin guide ก็ยังจองไม่ได้จนถูกถอดดาว
สำหรับ Sushi Saito Bangkok นั้นตั้งอยู่ที่ Fourseason เช่นเดียวกับสาขาสาขาฮ่องกง มีคอร์ส 2คอร์สคือกลางวัน 5800++ , และ มื้อเย็น7800 ++ ไม่รวมอูนิทั้งสองคอร์ส โดยตัวมื้อเย็นนั้นจะมีเพิ่มขึ้นประมาณสามจานครับ ในวันนี้ผมได้มากินมื้อกลางวันซึ่งมีราคาคุ้มค่ามากเรียกว่าน่าจะคุ้มค่าที่สุดร้านหนึ่งในบ้านเราเลยครับ อนึ่งถ้าเทียบราคากันแล้ว Sushi Saito ในไทยน่าจะถูกที่สุดในทั้งสามสาขาครับ
สำหรับเชฟของซูชิไซโตะในกรุงเทพนี้คือมารุยาม่าซัง ซึ่งเคยทำงานที่ซูชิไซโต้ในโตเกียวก่อนไปเป็นเชฟพี่ซูชิไซโตะสาขามาเลเซียที่ปิดตัวลงไปแล้วโดยก่อนมาประจำที่ใส่โต้ในไทยนั้น เชฟแวะไปทำงานอยู่ที่ร้านซูชิที่จองยากอีกร้านอย่าง tsubomi ในโตเกียวก่อนจะมาประจำการที่ไทยครับ
แม้จะเป็นคอร์สเล็กสุดในร้านแต่ของที่ได้นั้นจัดเต็มใช้ของคุณภาพดีมากๆ ปลามากุโระจากยามะยูกิ มีปูขน หรือจะเป็นชิโระเอบิและซูมิอิกะชั้นยอด นั้นช่างตราตรึงเอาเสียมากๆ ยิ่งผสมผสานกับฝีมือเชฟชั้นยอดแล้วยิ่งสุดยอดขึ้นไปอีก ลำดับคอร์สนั้นมีความคล้ายกับสาขาฮ่องกงที่ผมเคยไปชิม
ตัวชาริที่ร้านมีเอกลักษณ์และอร่อยมากๆ สไตล์เดียวกับสาขาฮ่องกงที่จำความได้ อุณหภูมิข้าวที่เหมาะสม รสอ่อนๆกลิ่นน้ำส้มบางๆเค็มเปรี้ยวอ่อนๆนั้น ช่วยชูรสของปลาคุณภาพเยี่ยมได้อย่างดี ตลอดทั้งมื้อเเม้จะจะดูเรียบๆแต่แต่ทำออกมาได้ดีและปราณีตมาก มารุยามะซังที่ดูเงียบๆนั้นเก็บรายละเอียดอย่างยอดเยี่ยมลูกค้าคนนี้กินเยอะนะต้องเพิ่มข้าว คนนี้ถนัดซ้ายนะต้องวางให้เค้าหยิบง่าย ซูชิทุกๆคำนั้นเเสดงถึงความสุดยอดของวัตถุดิบและฝีมือเชฟ ผมเชื่อทุกคนบนโต๊ะวันนั้น ไม่มีแม้กระทั่งคำเดียวที่จะบอกไม่อร่อยได้ นับเป็นหนึ่งในมื้อที่น่าประทับใจที่สุดของผมในปีนี้เลยครับ ถ้ารักษามาตราฐานนี้ไว้ได้ผมว่า Sushi Saito มีสิทธิ์ได้ดาวเหมือนกันครับ
การจองทำยังไง คำถามที่ทุกคนถาม ฮ่าา Saito ในไทยยังคงใช้ระบบการรับจองผ่านการ Refer อยู่ในตอนนี้ โดยเราสามารถรีเควสขอที่นั่งไว้ได้เเล้วทางร้านจะโทรศัพท์กลับมาคอนเฟริม์ในภายหลัง ซึ่งเเว่วๆว่าคิวตอนนี้ยาวไปถึงสองหรือสามเดือนแล้วครับ
Otsumami คำแรก คือ Shiro ebi เชฟหั่นมาเป็นเส้นคล้ายอิกะโซเมง เสริฟ์มาพร้อมกับขิงขูดและโชยุ จานนี้ตัวกุ้งคุณภาพดีมากๆ ปกติชิโระเอบิเนื้อจะไม่ค่อยกรอบ แต่ที่นี้เนื้อกรุบๆ หวาน ขิงเบาๆด้านบนนั้นช่วยเพิ่มความเผ็ดร้อนเบาๆขับรสหวานของกุ้งได้อย่างดี ทำออกมาได้ดีมาก
Tako Yawarakani เสริฟ์มาพร้อมกับวาซาบิ ตัวหมึกที่นี้เนื้อจะออกแนวนุบหนับกรุบๆมีเท็กเจอร์ให้เคี้ยวแต่ตรงกลางนุ่มละลาย ซึ่งส่วนตัวผมชอบกว่าเเบบนุ่มทั้งชิ้น ตัวซอสรสหวานนำค่อนข้างเข้มข้นแต่ไม่ทิ้งรสในปาก ตัดรสด้วยวาซาบิที่เผ็ดนิดๆครับ
Otsumami คำสุดท้ายเป็นปูขน เสริฟ์มาพร้อมกับซอสที่ทำจากดาชิโชยุเเละน้ำส้มสายชู โดยkeganiนั้นเสริฟ์มาสองสไตล์คลุกไข่ปูด่นล่างเเละเนื้อล้วนด้านบนครับ
จานนี้อร่อยเลยทีเดียวตัวปูเป็นของคุณภาพเยี่ยมเนื้อหวานไม่เละ ตัวซอสรสเบาเปรี้ยวนำแฝงด้วยความอุมามินั้นช่วยขับรสปูได้เป็นอย่างดี อร่อยครับ
ชูชิคำแรกเริ่มด้วย ฮิราเมะ ปลานั้นเอจไว้พอสมควร ตัวเนื้อหนึบเเน่นกรอบ ตัดกับข้าวที่เท็กเจอร์กรุบๆได้อย่างน่าสนใจ
คำต่อมาปลาซาวาระ โดยเชฟนำไปซึเกะก่อน คำนี้มีกลิ่นซีอิ๊วบางๆรสไม่จัดมาก ปลานุ่มดีครับ
โคฮาดะดอง ปลาตัวใหญ่ผิวสวยมาก เป็นของคุณภาพดี เชฟดองมาอ่อนๆรสไม่จัดมาก ตัวปลาคำนี้มีรสเค็มนำเเฝงด้วยรสเปรี้ยวอมหวาน คำนี้เสียงเเตกออกเป็นสองทาง คำนึกว่าอยากได้รสเปรี้ยวกว่านี้ แต่ผมว่าแม้รสเค็มนำแบบนี้จะแปลก แต่น่าจะบาลานซ์และเข้ากับข้าวของทางร้านที่ไม่เปรี้ยวมากได้ดีกว่า
อากามิ คำนี้เชฟซึเกะบางๆ ปลาเนื้อเด้ง เเน่นดี มีความอร่อยของเนื้อเเดงของมากุโระอย่างที่ผมชื่นชอบ แม้จะไม่เข้มข้นนักแต่ก็ถือเป็นของดีที่หาได้ยากขึ้นเรื่อยครับ
ชุโทโร่ คำนี้ก็ดีครับ หลายๆคนชอบคำนี้มากกว่าโอโทโร่ แต่ผมว่าพอเสริฟ์ สามส่วนเเล้วนี้มันดูกลางๆไปนิดเลยประทับใจอากามิหรือโอโทโร่มากกว่า แต่ยังไงมากุโระที่นี้ดีทุกคำครับ
โอโทโร่ วันนี้เชฟเสริฟ์เป็นส่วนชิโมะฟูริ เเม้จะเป็นส่วนที่มันมาก แต่เราไม่รู้สึกเลี่ยนหนัก เชฟสามารถบาลานซ์รสชาติได้ดีมากๆ ปลาเนื้อนุ่ม มันเเทรกละลาย เข้ากับข้าวที่รสเค็มนำได้อย่างดี อร่อยมากครับ
ซูมิอิกะ ตัวใหญ่มาก เชฟเสริฟ์มากับน้ำมะนาวไทยและเกลือ คำนี้เป็นคำที่ดีที่สุดในวันนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ปลาหมึกคุณภาพเยี่ยมชิ้นหนา เนื้อหวานกรอบ แม้จะมีความหนาเเต่เราก็ไม่รู้สึกเหนียว ความหวานของปลาหมึกถูกชุให้เด่นชัดขึ้นด้วยรสมะนาวที่เปรี้ยวโปร่ง ซึ่งหากเป้นร้านอื่นเเล้วมะนาวอาจจะเปรี้ยวเกินไปการใช้ซึดาจิอาจจะเหมาะกว่า เเต่ที่นี้นั้นข้าวไม่ค่อยเปรี้ยวนักจึงเข้ากันได้อย่างลงตัวครับ
คุรุมะเอบิ เสริฟ์มาเเบบสุกwell done ในอุณหภูมิห้อง ตัวกุ้งหวานนำ ตัดกับข้าวรสเค็มครับ ผมยังชอบแบบที่เสริฟือุ่นๆที่เคยกินที่ฮ่องกงมากกว่าเพราะพอเย็นแล้วรสมันแอบดูหวานหนักไปนิดครับ
อนาโกะ คำนี้น่าจะเป็นอนาโกะที่ผมชอบสุดในไทย ตัวปลาคุณภาพเยี่ยม เสริฟืมาอุ่นๆ เนื้อฟูเบาเเต่มีความมัน เท็กเจอร์ของมันตัดกับข้าวกรุบๆได้อย่างสนุกสนานในปาก ซอสที่ปาดมาด้านบนนั้น ปาดมาเล็กน้อยให้รสหวานอ่อนๆ
ซุปเป็นซุปมิโซะ กับสาหร่ายและต้นหอมครับ รสเบาๆอุมามิจากสาหร่าย
ฟุโตะมากิ ใส่เห็ดหอม อนาโกะ แตงกวา กุ้ง ไข่หวาน ผมชอบรสเค็มของข้าวที่ตัดกับความหวานของไข่ เห็ดต้นซีอิ๊วกรุบๆหวานๆ อนาโกะฟูๆเค็มอ่อนๆ เเตงกวากรอบสดชื่น กุ้งเด้ง เป็นคำที่อรอ่ยครับ
ไข่หวาน ที่นี้มีความเป็นขนมหวาน คล้ายคัสตาร์ตกับโยคังมากกว่าทามาโกะยากิ รสหวานครีมมี่ เหมือนจำได้ว่าที่กินที่ฮ่องกงหอมไข่อร่อยกว่าครับ
ปิดท้ายด้วยเซอเบทเเละเยลลี่ รสอ่อนๆไม่จัดจ้านครับ
#Score:
🍾Service : 8.75/10
🍽Food: 8.5/10
🤩WOW factor: 8.25/10
💰Value for money: 8.75/10
Total:8.5/10
Visit : Jan-2023
🗺เเผนที่ :https://goo.gl/maps/gnC1c3eRtWjHGQDo6
⏰เวลาเปิดปิด: 12 PM, 6 PM , 8 PM ปิด Monday
💵ค่าเสียหาย: ~5800++ baht
⌨️เว็บไซต์ร้าน: na
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit: https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้