เกริ่นก่อนว่า... (ใครไม่อยากอ่านตรงนี้ ข้ามไปอ่านที่ *** ได้เลย)
ครอบครัวผมอยู่กัน 4 คน ที่บ้านคุณแม่ภรรยา โดยมี
ผม ภรรยา ลูกสาว 7 ขวบ และคุณแม่ภรรยา
ลูกสาวเรียนโรงเรียนเอกชนใกล้บ้าน ที่ค่าเทอมไม่แพงมาก มีกำลังส่งเสียไหว
และที่สำคัญ อยู่ใกล้บ้าน เดินทางไม่ถึง 10 นาที
เช้าผมไปส่งลูก และไปส่งภรรยาต่อ (บริษัทผมกับภรรยาอยู่ใกล้กัน)
เย็นก็ให้ลูกกลับรถโรงเรียน โดยมีคุณแม่ภรรยารอรับ
ภรรยาผมเธอทำงานเก่ง เรียนก็สุดยอด 4.00 ตลอด อันดับ 1 คณะ ส่วนผมก็ 2 ปลาย 3 ต้น (เรียนมาด้วยกัน แต่ผมเป็นรุ่นพี่ปีนึง)
ตอนนี้เงินเดือนจึงแซงผมไปไกลมาก (จะครึ่งแสนแล้ว) เงินเหลือเก็บต่อเดือนไม่รู้เท่าไร ผมไม่เคยถาม และนางก็ไม่เคยบอก
และด้วยความที่เงินเดือนสูง หน้าที่รับผิดชอบก็เยอะตาม
กลับมาถึงบ้านก็ยังต้องมาทำงานต่อ เสาร์อาทิตย์บางวันก็อยู่แต่หน้าจอ เดือนนึงจะมีสักครั้งได้ออกไปเที่ยวพักผ่อนกัน
หน้าที่เล่นกับลูก จึงอยู่ที่ผมประมาณ 60% ภรรยากับคุณแม่อีกคนละประมาณ 20%
เพราะงานที่ผมทำ เงินเดือนสูงกว่าเด็กจบใหม่ไม่เท่าไร บอกเลยละกัน ประมาณ 20,000
ผมใช้ส่วนตัวเดือนละ 10,000 ถ้าเหลือคือเก็บไปสมทบกับก้อนค่าเทอมลูก
เพราะอีก 5,000 ผมแยกเก็บต่างหากเป็นค่าเทอมลูกไปเลย
และอีก 5,000 ไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในบ้าน ที่หารครึ่งๆกับภรรยา
แจกแจงค่าใช้จ่ายในบ้าน
ค่าเทอมลูก เป็นของผม (ประมาณ 15,000-20,000 บาทต่อเทอม)
ค่าน้ำค่าไฟ ภรรยาจ่าย
ค่าบ้าน ไม่มี เพราะเป็นบ้านคุณแม่ภรรยา
ค่าประกันสุขภาพ (ของภรรยา ลูกสาว และคุณแม่) ภรรยาจ่าย ส่วนของผมไม่เอา เพราะผมใช้ประกันสังคม
ค่ากินตอนเย็นจันทร์-ศุกร์ รวมถึงเสาร์-อาทิตย์ หารพอๆกัน
ค่าของใช้ในบ้าน เช่น ครีมอาบน้ำ ยาสระผม ผงซักฟอก ของที่ซื้อตามห้างต่าง ก็หารกัน
***เข้าสู่คำถามกันเลยครับ***
ถ้าผมอยู่ในช่วงอยากเปลี่ยนงาน แล้วมี 2 งานนี้มาให้เลือก ผมควรเลือกงานไหนดีครับ (ผมเสนอไป 30,000 บาท)
แล้วเขาเรียกสัมภาษณ์
งานที่ 1
บริษัทเอกชนขนาดกลาง(มั้ง) พนักงานประจำสำนักงานใหญ่ประมาณ 70-80 คน เปิดมานานกว่า 30 ปี
ทำเกี่ยวกับการผลิตพลาสติกพวกซองขนมต่างๆ โดยโรงงานอยู่ต่างจังหวัด(มีพนักงานเกือบร้อยคน)
อาจจะต้องมีไปดูงานบ้าง เดือนละครั้ง
เงินเดือนให้ตามที่ขอ และปรับขึ้นทุกปี มีโบนัสทุกปี แต่ละปีไม่เท่ากัน ตามผลประกอบการ
แต่ที่ทำการสำนักงานใหญ่ไกลนิดนึง เพราะต้องเดินทางต่อจากบริษัทภรรยาอีกประมาณ 20-30 นาที
มีอยู่ดึกบ้าง เลิกทุ่มสองทุ่ม (สัปดาห์ละ 1-2 วัน) แต่ถ้าปกติก็ เข้างาน 08.00-17.00 น.
หยุดเสาร์อาทิตย์ (ยกเว้นบางเสาร์ งานเร่งหรือต้องไปดูโรงงาน ก็ต้องไปทำ)
งานที่ 2
บริษัทเอกชนขนาดเล็ก พนักงาน 30-40 คน เปิดมานานพอๆกัน
เป็นออแกไนซ์
มีเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น สามารถตกลงเรื่องเวลาการทำงานกันเองได้ ไม่ว่าจะช่วงกลางวันหรือกลางคืน
คือสัปดาห์นึงไม่แน่ไม่นอนเลยว่าจะได้หยุดวันไหนบ้าง แล้วแต่จัดตารางกัน แต่ทุกคนได้หยุดเหมือนกันแน่ๆ 2 วัน (อาจจะติดหรือไม่ติดกัน)
และอาจจะได้หยุดมากกว่านั้นด้วย ถ้าช่วงไหนเสร็จจากงานใหญ่ๆ
แต่มีแน่นอนที่ต้องมาทำงานช่วงกลางคืน หรือไปต่างจังหวัดบ้างเสาร์อาทิตย์บ้าง
เงินเดือนรับได้ตามที่ขอ เงินเดือนคงที่ไม่ปรับแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือโบนัส ซึ่งเท่าที่รู้มา ได้ไม่เคยต่ำกว่า 2 เดือน
ช่วงพีคๆ งานชุกๆ ก็ได้กัน 4-6 เดือน
อยู่ใกล้ที่ทำงานภรรยา ขับรถ 5 นาทีถึง
***คิดว่าผมควรเลิอกงานไหนดีครับ ที่ทั้งภรรยาและลูก น่าจะ Happy***
ถ้ามีงาน 2 งานนี้ ให้คุณเลือก คุณจะเลือกงานไหน
ครอบครัวผมอยู่กัน 4 คน ที่บ้านคุณแม่ภรรยา โดยมี
ผม ภรรยา ลูกสาว 7 ขวบ และคุณแม่ภรรยา
ลูกสาวเรียนโรงเรียนเอกชนใกล้บ้าน ที่ค่าเทอมไม่แพงมาก มีกำลังส่งเสียไหว
และที่สำคัญ อยู่ใกล้บ้าน เดินทางไม่ถึง 10 นาที
เช้าผมไปส่งลูก และไปส่งภรรยาต่อ (บริษัทผมกับภรรยาอยู่ใกล้กัน)
เย็นก็ให้ลูกกลับรถโรงเรียน โดยมีคุณแม่ภรรยารอรับ
ภรรยาผมเธอทำงานเก่ง เรียนก็สุดยอด 4.00 ตลอด อันดับ 1 คณะ ส่วนผมก็ 2 ปลาย 3 ต้น (เรียนมาด้วยกัน แต่ผมเป็นรุ่นพี่ปีนึง)
ตอนนี้เงินเดือนจึงแซงผมไปไกลมาก (จะครึ่งแสนแล้ว) เงินเหลือเก็บต่อเดือนไม่รู้เท่าไร ผมไม่เคยถาม และนางก็ไม่เคยบอก
และด้วยความที่เงินเดือนสูง หน้าที่รับผิดชอบก็เยอะตาม
กลับมาถึงบ้านก็ยังต้องมาทำงานต่อ เสาร์อาทิตย์บางวันก็อยู่แต่หน้าจอ เดือนนึงจะมีสักครั้งได้ออกไปเที่ยวพักผ่อนกัน
หน้าที่เล่นกับลูก จึงอยู่ที่ผมประมาณ 60% ภรรยากับคุณแม่อีกคนละประมาณ 20%
เพราะงานที่ผมทำ เงินเดือนสูงกว่าเด็กจบใหม่ไม่เท่าไร บอกเลยละกัน ประมาณ 20,000
ผมใช้ส่วนตัวเดือนละ 10,000 ถ้าเหลือคือเก็บไปสมทบกับก้อนค่าเทอมลูก
เพราะอีก 5,000 ผมแยกเก็บต่างหากเป็นค่าเทอมลูกไปเลย
และอีก 5,000 ไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในบ้าน ที่หารครึ่งๆกับภรรยา
แจกแจงค่าใช้จ่ายในบ้าน
ค่าเทอมลูก เป็นของผม (ประมาณ 15,000-20,000 บาทต่อเทอม)
ค่าน้ำค่าไฟ ภรรยาจ่าย
ค่าบ้าน ไม่มี เพราะเป็นบ้านคุณแม่ภรรยา
ค่าประกันสุขภาพ (ของภรรยา ลูกสาว และคุณแม่) ภรรยาจ่าย ส่วนของผมไม่เอา เพราะผมใช้ประกันสังคม
ค่ากินตอนเย็นจันทร์-ศุกร์ รวมถึงเสาร์-อาทิตย์ หารพอๆกัน
ค่าของใช้ในบ้าน เช่น ครีมอาบน้ำ ยาสระผม ผงซักฟอก ของที่ซื้อตามห้างต่าง ก็หารกัน
***เข้าสู่คำถามกันเลยครับ***
ถ้าผมอยู่ในช่วงอยากเปลี่ยนงาน แล้วมี 2 งานนี้มาให้เลือก ผมควรเลือกงานไหนดีครับ (ผมเสนอไป 30,000 บาท)
แล้วเขาเรียกสัมภาษณ์
งานที่ 1
บริษัทเอกชนขนาดกลาง(มั้ง) พนักงานประจำสำนักงานใหญ่ประมาณ 70-80 คน เปิดมานานกว่า 30 ปี
ทำเกี่ยวกับการผลิตพลาสติกพวกซองขนมต่างๆ โดยโรงงานอยู่ต่างจังหวัด(มีพนักงานเกือบร้อยคน)
อาจจะต้องมีไปดูงานบ้าง เดือนละครั้ง
เงินเดือนให้ตามที่ขอ และปรับขึ้นทุกปี มีโบนัสทุกปี แต่ละปีไม่เท่ากัน ตามผลประกอบการ
แต่ที่ทำการสำนักงานใหญ่ไกลนิดนึง เพราะต้องเดินทางต่อจากบริษัทภรรยาอีกประมาณ 20-30 นาที
มีอยู่ดึกบ้าง เลิกทุ่มสองทุ่ม (สัปดาห์ละ 1-2 วัน) แต่ถ้าปกติก็ เข้างาน 08.00-17.00 น.
หยุดเสาร์อาทิตย์ (ยกเว้นบางเสาร์ งานเร่งหรือต้องไปดูโรงงาน ก็ต้องไปทำ)
งานที่ 2
บริษัทเอกชนขนาดเล็ก พนักงาน 30-40 คน เปิดมานานพอๆกัน
เป็นออแกไนซ์
มีเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น สามารถตกลงเรื่องเวลาการทำงานกันเองได้ ไม่ว่าจะช่วงกลางวันหรือกลางคืน
คือสัปดาห์นึงไม่แน่ไม่นอนเลยว่าจะได้หยุดวันไหนบ้าง แล้วแต่จัดตารางกัน แต่ทุกคนได้หยุดเหมือนกันแน่ๆ 2 วัน (อาจจะติดหรือไม่ติดกัน)
และอาจจะได้หยุดมากกว่านั้นด้วย ถ้าช่วงไหนเสร็จจากงานใหญ่ๆ
แต่มีแน่นอนที่ต้องมาทำงานช่วงกลางคืน หรือไปต่างจังหวัดบ้างเสาร์อาทิตย์บ้าง
เงินเดือนรับได้ตามที่ขอ เงินเดือนคงที่ไม่ปรับแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือโบนัส ซึ่งเท่าที่รู้มา ได้ไม่เคยต่ำกว่า 2 เดือน
ช่วงพีคๆ งานชุกๆ ก็ได้กัน 4-6 เดือน
อยู่ใกล้ที่ทำงานภรรยา ขับรถ 5 นาทีถึง
***คิดว่าผมควรเลิอกงานไหนดีครับ ที่ทั้งภรรยาและลูก น่าจะ Happy***