อันนี้เป็นกระทู้แรกของเรานะเป็นเรื่องเเม่เลี้ยงที่เราประสบมา...
..
....พ่อผมมีกิจการส่วนตัวเปิดอู่ซ่อมรถยนต์ ให้เมียเก็บเงินจากการทำงานในแต่ล่ะวัน... เขาให้เงินเดือนผม 4000รับ2ช่วง รับวันที่15ของเดือน2000และสิ้นเดือน2000
ผมว่ามันน้อย..ไปบ้านก็ไม่ได้เช่า อะไรฟรีหมดครับ แต่ผมไปของเท่าค่าเเรงขั้นต่ำได้มั้ย อย่างน้อย วันล่ะ300ก็ยังดีไม่ได้อยากเรื่องมากกับพ่อแต่ไม่พอจิงๆแต่ก็ได้คำตอบกลับมา ว่าต้องจ่าย ค่าบ้าน ค่ารถ หนี้สินที่กู้มา บวกกับค่าน้ำค่าไฟและค่ากับข้าวอีก เอาเเค่นี้ไปก่อนเดียวถ้าสถานการณ์ดีกว่านี่จะขึ้นให้ ผมก็อืมม เพื่อพ่อ เพื่อครอบครัว เราก็ทำงานช่วยพ่อปกติ จนงานเนี้ย เยอะนะครัย วันนึงเราเห็นลูกค้ามาจ่าย บางคัน500 ิอีกคัน1500 สรุปวันนั้นนั่งคิดเล่นๆ มี2-3หมืนอัพได้ ขนาดนี้สถานการณ์ยังฝืดอีกหรอเนี้ย จึงเดินไปถามแม่เลี้ยงวันนี้เงินเข้าอู่เท่าไรหรอ แกบอกมาหักลบรายจ่ายแล้วเหลือ 2พัน แต่แกไม่บอกจำนวนเงินที่ได้ และไม่บอกด้วยว่าหักจ่ายอะไร เขาก็ลุกหนีเดินไปหาพ่อ ช่วงนั้นเป็นช่วงธันวาคมครับกลางๆเดือนเเม่เลี้ยงก็ออกเงินวีกให้ผม พร้อมกับบ่นครับว่าช่วงนี้จ่ายหลายทางเงินให้ไปก็ใช้ประหนัดๆนะ พ่อก็เสริมขึ้นมา ยังไม่ค่อยคล่องตัวฝืดยุ ผมก็ได้แต่มองงาน รายรับที่เห็นๆยุไม่น่าต่ำกว่า หลักหมื่นแน่ๆถามหนี้จ่ายอะไรบ้างก็ตอบแบบ ก็ค่าบ้านค่ารถ ค่ากิน ถ้าแค่นั้น วันล่ะ หมื่นยังฝืดอีกหรอ งานผมก็ได้รับเเค่เดือน4000 เอง และก็ไม่ได้จ้างคนงานด้วย 4พันผมว่ามันน้อยไปงานช่างยนต์เหนื่อย และไม่ใช่ว่าผมไม่เปนงานเลยมีเกือบ80%ที่ผมทำเเทนพ่อได้เลยแล้วที่ไม่มีคนงาน เลิกงานเก็บของเก็บเครื่องมือ กวาดอู่ก็ผมอีก ขอขึ้นเดือนล่ะ8-9 พันแกบอกขึ้นขนาดนั้นจะหาที่ใหนมาจ่ายและอีกอย่างหนี้พ่อก็เยอะนะ แม่เลี้ยงบอกผมมา แต่แม่เลี้ยงไม่ได้มีรายได้อะไรนะครับ นั้งเขียนบิล วันทำงานผมก็ลุยปกติครับ แต่บางวันไม่ใหวก็หยุด ก็จะเจอสารพัดคำพูดครับ ไม่ออกมาช่วยพ่อ พ่อก็แก่ งานก็เยอะ จะทำไม่ทัน โห.. ไม่ใช่แค่แม่เลี้ยงนะครับ พ่อผมก็พูดเหมือนกัน ่ค่าเเรงก็แบบเห้อ ตอนทำไม่เห็นมีใครจะมองว่าเราเหนื่อยมั้ยอะไรมั้ย แต่พอหยุดโอ้โหดูเลวขึ้นมาเลยแบบนี้ผมต้องอดทนระดับใหนกัน ครับ
แม่เลี้ยง.. ที่เข้ามา..พ่อให้เขาดูแลเรื่องเงินเกียวกับรายรับรายจ่าย ...
..
....พ่อผมมีกิจการส่วนตัวเปิดอู่ซ่อมรถยนต์ ให้เมียเก็บเงินจากการทำงานในแต่ล่ะวัน... เขาให้เงินเดือนผม 4000รับ2ช่วง รับวันที่15ของเดือน2000และสิ้นเดือน2000
ผมว่ามันน้อย..ไปบ้านก็ไม่ได้เช่า อะไรฟรีหมดครับ แต่ผมไปของเท่าค่าเเรงขั้นต่ำได้มั้ย อย่างน้อย วันล่ะ300ก็ยังดีไม่ได้อยากเรื่องมากกับพ่อแต่ไม่พอจิงๆแต่ก็ได้คำตอบกลับมา ว่าต้องจ่าย ค่าบ้าน ค่ารถ หนี้สินที่กู้มา บวกกับค่าน้ำค่าไฟและค่ากับข้าวอีก เอาเเค่นี้ไปก่อนเดียวถ้าสถานการณ์ดีกว่านี่จะขึ้นให้ ผมก็อืมม เพื่อพ่อ เพื่อครอบครัว เราก็ทำงานช่วยพ่อปกติ จนงานเนี้ย เยอะนะครัย วันนึงเราเห็นลูกค้ามาจ่าย บางคัน500 ิอีกคัน1500 สรุปวันนั้นนั่งคิดเล่นๆ มี2-3หมืนอัพได้ ขนาดนี้สถานการณ์ยังฝืดอีกหรอเนี้ย จึงเดินไปถามแม่เลี้ยงวันนี้เงินเข้าอู่เท่าไรหรอ แกบอกมาหักลบรายจ่ายแล้วเหลือ 2พัน แต่แกไม่บอกจำนวนเงินที่ได้ และไม่บอกด้วยว่าหักจ่ายอะไร เขาก็ลุกหนีเดินไปหาพ่อ ช่วงนั้นเป็นช่วงธันวาคมครับกลางๆเดือนเเม่เลี้ยงก็ออกเงินวีกให้ผม พร้อมกับบ่นครับว่าช่วงนี้จ่ายหลายทางเงินให้ไปก็ใช้ประหนัดๆนะ พ่อก็เสริมขึ้นมา ยังไม่ค่อยคล่องตัวฝืดยุ ผมก็ได้แต่มองงาน รายรับที่เห็นๆยุไม่น่าต่ำกว่า หลักหมื่นแน่ๆถามหนี้จ่ายอะไรบ้างก็ตอบแบบ ก็ค่าบ้านค่ารถ ค่ากิน ถ้าแค่นั้น วันล่ะ หมื่นยังฝืดอีกหรอ งานผมก็ได้รับเเค่เดือน4000 เอง และก็ไม่ได้จ้างคนงานด้วย 4พันผมว่ามันน้อยไปงานช่างยนต์เหนื่อย และไม่ใช่ว่าผมไม่เปนงานเลยมีเกือบ80%ที่ผมทำเเทนพ่อได้เลยแล้วที่ไม่มีคนงาน เลิกงานเก็บของเก็บเครื่องมือ กวาดอู่ก็ผมอีก ขอขึ้นเดือนล่ะ8-9 พันแกบอกขึ้นขนาดนั้นจะหาที่ใหนมาจ่ายและอีกอย่างหนี้พ่อก็เยอะนะ แม่เลี้ยงบอกผมมา แต่แม่เลี้ยงไม่ได้มีรายได้อะไรนะครับ นั้งเขียนบิล วันทำงานผมก็ลุยปกติครับ แต่บางวันไม่ใหวก็หยุด ก็จะเจอสารพัดคำพูดครับ ไม่ออกมาช่วยพ่อ พ่อก็แก่ งานก็เยอะ จะทำไม่ทัน โห.. ไม่ใช่แค่แม่เลี้ยงนะครับ พ่อผมก็พูดเหมือนกัน ่ค่าเเรงก็แบบเห้อ ตอนทำไม่เห็นมีใครจะมองว่าเราเหนื่อยมั้ยอะไรมั้ย แต่พอหยุดโอ้โหดูเลวขึ้นมาเลยแบบนี้ผมต้องอดทนระดับใหนกัน ครับ