เสื้อแดงอีสานมองข้ามความขัดแย้ง ‘จตุพร-ทักษิณ’ ย้ำชัดไม่มีเจ้าของ พร้อมสู้เพื่อ ปชต.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3803158
เสื้อแดงอีสานมองข้ามความขัดแย้ง ‘จตุพร-ทักษิณ’ ย้ำชัดไม่มีใครเป็นเจ้าของ พร้อมสู้เพื่อ ปชต.
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 1 โรงแรมอำนวยสุข จ.ขอนแก่น นาง
พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายบทบาทสตรีเสื้อแดงภาคอีสาน ประชุมร่วมกับคณะทำงานและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง 20 จังหวัดภาคอีสาน เพื่อกำหนดท่าทีและความเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังเริ่มมีสัญญาณการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งการชูป้ายและส่งข้อความรูปหัวใจไปถึง นาย
ทักษิณ ชินวัตร, น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เนื่องในเทศกาลแห่งความรักวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึง
ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้อง และการร่วมกันส่งพลังใจด้วยท่ามินิฮาร์ตถึงแกนนำพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในต่างประเทศ รวมทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทยในระดับพื้นที่ที่เตรียมการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยมีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจาก 20 จังหวัดภาคอีสานเข้าร่วมประชุม และกำหนดท่าทีและแผนการดำเนินงานในระดับพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
นาง
พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายบทบาทสตรีเสื้อแดงภาคอีสาน กล่าวว่า วันนี้มีมติร่วมกันในการออกแถลงการณ์คนเสื้อแดงที่ทุกฝ่ายจะก้าวข้ามความขัดแย้งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะวาทกรรมขัดแย้งระหว่างนาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ นาย
จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่มีการพาดพิงคนเสื้อแดงในด้านต่างๆ จนมีกระแสของความแตกแยกที่เกิดขึ้น ทำให้ในวันนี้แกนนำคนเสื้อแดงในภาคอีสานได้พร้อมใจแสดงจุดยืน และแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันและมีมติร่วมกัน 7 ข้อ
ประกอบด้วยคนเสื้อแดงเป็นผู้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่ชอบเผด็จการ และบางครั้งมีกิจกรรมต่อต้านเผด็จการอย่างจริงจัง คนเสื้อแดงเป็นผู้ที่มีความคิดอิสระดั่งเช่นเสรีชนทั่วไปที่มีความเป็นธรรม โดยเฉพาะในสังคมที่มีความอยุติธรรม คนเสื้อแดงไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่ใช่เป็นสมบัติที่จะยึดถือเพื่อประโยชน์ของส่วนบุคคลคนใดคนหนึ่ง และถึงเวลาที่คนเสื้อแดงจะลุกขึ้นมาเพื่อต้องการประชาธิปไตยอีกครั้ง
“
วันนี้คนเสื้อแดงได้ออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศมีประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ เสมอภาค เยี่ยงอารยประเทศ รวมทั้งคนเสื้อแดงกับแกนนำ นปช.เป็นแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ที่มีความศรัทธาแกนนำที่ต่อสู้อย่างจริงจัง แต่คนเสื้อแดงไม่ใช่สมบัติ หรือลูกน้องของแกนนำ และที่สำคัญคือคนเสื้อแดงศรัทธาในอดีตนายกทักษิณที่เป็นรัฐบาลที่ชอบธรรม แต่ฝ่ายเผด็จการรังแกทำรัฐประหารจนอยู่ประเทศไทยไม่ได้ และสุดท้ายคือคนเสื้อแดงทุกคนแยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวกับส่วนรวม หากเป็นเรื่องส่วนตัว จากเหตุการณ์คุณจตุพร แล้วมีปัญหาเกิดขึ้น คนเสื้อแดงทุกคนจะก้าวข้ามเรื่องเหล่านี้ไป และเดินหน้าสู่การเป็นส่วนรวมตามอุดมการณ์ประชาธิปไตย เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 บัตรเลือกตั้ง”
นาง
พรรณวดีกล่าวต่ออีกว่า ขอฝากถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่ขณะนี้มีมติครบทุกเขตเลือกตั้งและมีการเปิดตัวไปแล้ว ซึ่งทุกคนต้องลงพื้นที่หาเสียง เดินพบปะประชาชนและทำงานร่วมกันกับฝ่ายประชาธิปไตย เพราะทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ต้องช่วยเหลือกันและทำงานด้วยกันเป็นทีม เพื่อให้พรรคเพื่อไทยนั้นกลับมาเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล และชนะอย่างแลนด์สไลด์ให้ได้อย่างถล่มทลาย คือมากกว่า 375 เสียงจึงจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้ ขณะที่อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ไม่ได้รับการคัดเลือกและมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นใจ แต่เมื่อมติพรรคออกมาเช่นนี้ทุกคนต้องรับฟังและน้อมรับ
อย่างไรก็ตาม ในวันแห่งความรักวันวาเลนไทน์ปีนี้ คนเสื้อแดงภาคอีสานต้องการความรักจากผู้นำประเทศด้วยการลาออกจากนายกรัฐมนตรี หรือยุบสภาให้เร็วที่สุด เพื่อกลับมาสู่ขั้นตอนการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยที่คนไทยทั้งประเทศพร้อมที่จะสั่งสอนรัฐบาลเผด็จการให้ตาสว่างมากยิ่งขึ้น
กมธ.การเมืองฯแจง ผู้แทนกลาโหมเพิ่งรู้ ปมทุจริตซื้อบ้านพัก ทบ. จ่อเชิญ กกต.แจงทำประชามติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3803411
‘กมธ.การเมืองฯ’ แจงผลประชุม เผยผู้แทนกลาโหมเพิ่งทราบ ปมทุจริตซื้อบ้านพักสวัสดิการทหารบก พร้อมเตรียมเชิญ ‘กกต.’ เข้าชี้แจงประเด็นจัดทำประชามติ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา น.ส.
สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมของคณะ กมธ. ว่าในการประชุมวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา มีการประชุมเพื่อพิจารณา 2 เรื่องคือ
1.เพื่อพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. เรื่องการแบ่งเขตทั่วประเทศ และความพร้อมในการเลือกตั้งปี 2566 โดยมี นาย
สำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) เข้าร่วมการประชุม โดย ผอ.ได้แจ้งว่ามีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. คำนวณจากจำนวนราษฎรเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยในส่วนของกรุงเทพฯมีการเพิ่มเขตจาก 30 เป็น 33 เขต และสำนักงาน กกต.ของ กทม.เตรียมความพร้อมเบื้องต้นในการจัดทำรูปแบบการแบ่งเขตการเลือกตั้ง จำนวน 5 รูปแบบ ซึ่งจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และปิดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตทั้งหมด เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ในการประชุม กมธ.ได้เสนอและมอบข้อมูลรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 1 รูปแบบ เพื่อเสนอต่อ ผอ.กกต.กทม.เพื่อพิจารณาด้วย
น.ส.
สุทธวรรณกล่าวว่า เรื่องที่ 2 เป็นการประชุมเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการทุจริต การซื้อบ้านพักสวัสดิการทหารบก โดยมีผู้แทนกระทรวงกลาโหม และเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก เข้าร่วมการประชุม โดย กมธ.ได้พิจารณาเพื่อติดตามข้อมูลและเอกสารตามที่ได้ขอไว้ เกี่ยวกับผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งสรุปได้ว่าการกระทำของนายทหารที่เกี่ยวข้องมีมูลความผิดวินัยร้ายแรง และได้รับการชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เนื่องจากมีผู้มาร้องเรียนเพิ่ม และมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก
น.ส.สุทธวรรณกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ผู้ร้องเรียนได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับที่ประชุม กรณีการเรียกรับเงินจากโครงการบ้านพักสวัสดิการ เรื่องดังกล่าวผู้แทนกระทรวงกลาโหมชี้แจงกับที่ประชุมว่า เพิ่งทราบ และจะดำเนินการตามกระบวนการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ กมธ.มีความเห็นว่าให้ส่งบันทึกการประชุม และรายงานการประชุม พร้อมทั้งชวเลข และความเห็นของ กมธ.ให้แก่นายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และ กมธ.จะส่งเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส
“
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กมธ.ได้พิจารณาติดตามความคืบหน้ากรณี การให้นิสิตพ้นจากการดำรงตำแหน่งนายกสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเชิญผู้อำนวยการศูนย์กฎหมายและนิติการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมประชุม แต่ผู้อำนวยการไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมได้ เนื่องจากติดภารกิจ แต่ได้ส่งคำชี้แจงกรณีความคืบหน้าการอุทธรณ์ของกรณีดังกล่าวมาเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาของ กมธ. ซึ่งที่ประชุม กมธ.เห็นควรให้ยุติการพิจารณากรณีดังกล่าว เนื่องจากมีผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ หรืออุทธรณ์ของนิสิตจุฬาฯเรียบร้อยแล้ว และผลเป็นที่ยอมรับของผู้ยื่นอุทธรณ์” น.ส.
สุทธวรรณระบุ
น.ส.
สุทธวรรณกล่าวต่อว่า กมธ.ได้พิจารณาศึกษาการออกเสียงประชามติเกี่ยวกับความเห็นของประชาชนต่อการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมี นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าร่วมประชุม เรื่องดังกล่าวได้มีความคืบหน้าในการดำเนินการคือ
1. มีการจัดตั้ง กมธ.สามัญ พิจารณาญัตติขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุผลสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ วุฒิสภาได้มีการพิจารณาญัตติครบถ้วนตามประเด็นที่ได้กำหนดไว้เป็นกรอบการดำเนินการแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำรายงานผลการพิจารณา
น.ส.
สุทธวรรณกล่าวว่า 2. กกต.ได้มีการออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เพื่อรองรับการดำเนินการของภาคประชาชน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 มาตรา 9 (5) ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าควรมีหนังสือไปยัง กมธ.สามัญพิจารณาญัตติ ขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุผลสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ วุฒิสภา เพื่อขอทราบกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการจัดส่งรายงานเพื่อเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณา ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป และขอให้มีการเชิญ กกต.เพื่อมาชี้แจงประเด็นการจัดทำประชามติ กรณีที่ กมธ.สามัญพิจารณาญัตติขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุผลสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ วุฒิสภา สามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ กมธ.การเลือกตั้งจะสามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ปี 2566 ควบคู่ไปพร้อมกับการจัดทำประชามติได้หรือไม่
สภาล่มอีกแล้ว ซัดกันเดือด “ศุภชัย”นั่งประธาน บอกเบื่อ”บิ๊กตู่”รีบยุบ “ครูมานิตย์”อัดตลาดวัว-ควาย
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3803376
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 2 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุสภาล่มอีกแล้วเป็นครั้งที่ 6 ในรอบปี 2566
ศุภชัย โพธิ์สุ ประธานการประชุม เบื่อหน่ายเรียกร้อง พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯรีบยุบสภา ขณะที่
ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.เพื่อไทย เปรียบสภาเป็นตลาดวัวตลาดควาย ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
JJNY : 5in1 เสื้อแดงมองข้าม│กมธ.การเมืองฯแจงผู้แทนกลาโหมเพิ่งรู้│สภาล่มอีกแล้ว│วีระแฉ! คนสนิทตู่│มะกันหาทางสกัดรัสเซีย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3803158
เสื้อแดงอีสานมองข้ามความขัดแย้ง ‘จตุพร-ทักษิณ’ ย้ำชัดไม่มีใครเป็นเจ้าของ พร้อมสู้เพื่อ ปชต.
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 1 โรงแรมอำนวยสุข จ.ขอนแก่น นางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายบทบาทสตรีเสื้อแดงภาคอีสาน ประชุมร่วมกับคณะทำงานและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง 20 จังหวัดภาคอีสาน เพื่อกำหนดท่าทีและความเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังเริ่มมีสัญญาณการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งการชูป้ายและส่งข้อความรูปหัวใจไปถึง นายทักษิณ ชินวัตร, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เนื่องในเทศกาลแห่งความรักวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึง
ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้อง และการร่วมกันส่งพลังใจด้วยท่ามินิฮาร์ตถึงแกนนำพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในต่างประเทศ รวมทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทยในระดับพื้นที่ที่เตรียมการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยมีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจาก 20 จังหวัดภาคอีสานเข้าร่วมประชุม และกำหนดท่าทีและแผนการดำเนินงานในระดับพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
นางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายบทบาทสตรีเสื้อแดงภาคอีสาน กล่าวว่า วันนี้มีมติร่วมกันในการออกแถลงการณ์คนเสื้อแดงที่ทุกฝ่ายจะก้าวข้ามความขัดแย้งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะวาทกรรมขัดแย้งระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่มีการพาดพิงคนเสื้อแดงในด้านต่างๆ จนมีกระแสของความแตกแยกที่เกิดขึ้น ทำให้ในวันนี้แกนนำคนเสื้อแดงในภาคอีสานได้พร้อมใจแสดงจุดยืน และแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันและมีมติร่วมกัน 7 ข้อ
ประกอบด้วยคนเสื้อแดงเป็นผู้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่ชอบเผด็จการ และบางครั้งมีกิจกรรมต่อต้านเผด็จการอย่างจริงจัง คนเสื้อแดงเป็นผู้ที่มีความคิดอิสระดั่งเช่นเสรีชนทั่วไปที่มีความเป็นธรรม โดยเฉพาะในสังคมที่มีความอยุติธรรม คนเสื้อแดงไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่ใช่เป็นสมบัติที่จะยึดถือเพื่อประโยชน์ของส่วนบุคคลคนใดคนหนึ่ง และถึงเวลาที่คนเสื้อแดงจะลุกขึ้นมาเพื่อต้องการประชาธิปไตยอีกครั้ง
“วันนี้คนเสื้อแดงได้ออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศมีประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ เสมอภาค เยี่ยงอารยประเทศ รวมทั้งคนเสื้อแดงกับแกนนำ นปช.เป็นแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ที่มีความศรัทธาแกนนำที่ต่อสู้อย่างจริงจัง แต่คนเสื้อแดงไม่ใช่สมบัติ หรือลูกน้องของแกนนำ และที่สำคัญคือคนเสื้อแดงศรัทธาในอดีตนายกทักษิณที่เป็นรัฐบาลที่ชอบธรรม แต่ฝ่ายเผด็จการรังแกทำรัฐประหารจนอยู่ประเทศไทยไม่ได้ และสุดท้ายคือคนเสื้อแดงทุกคนแยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวกับส่วนรวม หากเป็นเรื่องส่วนตัว จากเหตุการณ์คุณจตุพร แล้วมีปัญหาเกิดขึ้น คนเสื้อแดงทุกคนจะก้าวข้ามเรื่องเหล่านี้ไป และเดินหน้าสู่การเป็นส่วนรวมตามอุดมการณ์ประชาธิปไตย เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 บัตรเลือกตั้ง”
นางพรรณวดีกล่าวต่ออีกว่า ขอฝากถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่ขณะนี้มีมติครบทุกเขตเลือกตั้งและมีการเปิดตัวไปแล้ว ซึ่งทุกคนต้องลงพื้นที่หาเสียง เดินพบปะประชาชนและทำงานร่วมกันกับฝ่ายประชาธิปไตย เพราะทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ต้องช่วยเหลือกันและทำงานด้วยกันเป็นทีม เพื่อให้พรรคเพื่อไทยนั้นกลับมาเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล และชนะอย่างแลนด์สไลด์ให้ได้อย่างถล่มทลาย คือมากกว่า 375 เสียงจึงจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้ ขณะที่อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ไม่ได้รับการคัดเลือกและมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นใจ แต่เมื่อมติพรรคออกมาเช่นนี้ทุกคนต้องรับฟังและน้อมรับ
อย่างไรก็ตาม ในวันแห่งความรักวันวาเลนไทน์ปีนี้ คนเสื้อแดงภาคอีสานต้องการความรักจากผู้นำประเทศด้วยการลาออกจากนายกรัฐมนตรี หรือยุบสภาให้เร็วที่สุด เพื่อกลับมาสู่ขั้นตอนการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยที่คนไทยทั้งประเทศพร้อมที่จะสั่งสอนรัฐบาลเผด็จการให้ตาสว่างมากยิ่งขึ้น
กมธ.การเมืองฯแจง ผู้แทนกลาโหมเพิ่งรู้ ปมทุจริตซื้อบ้านพัก ทบ. จ่อเชิญ กกต.แจงทำประชามติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3803411
‘กมธ.การเมืองฯ’ แจงผลประชุม เผยผู้แทนกลาโหมเพิ่งทราบ ปมทุจริตซื้อบ้านพักสวัสดิการทหารบก พร้อมเตรียมเชิญ ‘กกต.’ เข้าชี้แจงประเด็นจัดทำประชามติ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมของคณะ กมธ. ว่าในการประชุมวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา มีการประชุมเพื่อพิจารณา 2 เรื่องคือ
1.เพื่อพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. เรื่องการแบ่งเขตทั่วประเทศ และความพร้อมในการเลือกตั้งปี 2566 โดยมี นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) เข้าร่วมการประชุม โดย ผอ.ได้แจ้งว่ามีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. คำนวณจากจำนวนราษฎรเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยในส่วนของกรุงเทพฯมีการเพิ่มเขตจาก 30 เป็น 33 เขต และสำนักงาน กกต.ของ กทม.เตรียมความพร้อมเบื้องต้นในการจัดทำรูปแบบการแบ่งเขตการเลือกตั้ง จำนวน 5 รูปแบบ ซึ่งจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และปิดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตทั้งหมด เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ในการประชุม กมธ.ได้เสนอและมอบข้อมูลรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 1 รูปแบบ เพื่อเสนอต่อ ผอ.กกต.กทม.เพื่อพิจารณาด้วย
น.ส.สุทธวรรณกล่าวว่า เรื่องที่ 2 เป็นการประชุมเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการทุจริต การซื้อบ้านพักสวัสดิการทหารบก โดยมีผู้แทนกระทรวงกลาโหม และเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก เข้าร่วมการประชุม โดย กมธ.ได้พิจารณาเพื่อติดตามข้อมูลและเอกสารตามที่ได้ขอไว้ เกี่ยวกับผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งสรุปได้ว่าการกระทำของนายทหารที่เกี่ยวข้องมีมูลความผิดวินัยร้ายแรง และได้รับการชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เนื่องจากมีผู้มาร้องเรียนเพิ่ม และมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก
น.ส.สุทธวรรณกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ผู้ร้องเรียนได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับที่ประชุม กรณีการเรียกรับเงินจากโครงการบ้านพักสวัสดิการ เรื่องดังกล่าวผู้แทนกระทรวงกลาโหมชี้แจงกับที่ประชุมว่า เพิ่งทราบ และจะดำเนินการตามกระบวนการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ กมธ.มีความเห็นว่าให้ส่งบันทึกการประชุม และรายงานการประชุม พร้อมทั้งชวเลข และความเห็นของ กมธ.ให้แก่นายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และ กมธ.จะส่งเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส
“วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กมธ.ได้พิจารณาติดตามความคืบหน้ากรณี การให้นิสิตพ้นจากการดำรงตำแหน่งนายกสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเชิญผู้อำนวยการศูนย์กฎหมายและนิติการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมประชุม แต่ผู้อำนวยการไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมได้ เนื่องจากติดภารกิจ แต่ได้ส่งคำชี้แจงกรณีความคืบหน้าการอุทธรณ์ของกรณีดังกล่าวมาเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาของ กมธ. ซึ่งที่ประชุม กมธ.เห็นควรให้ยุติการพิจารณากรณีดังกล่าว เนื่องจากมีผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ หรืออุทธรณ์ของนิสิตจุฬาฯเรียบร้อยแล้ว และผลเป็นที่ยอมรับของผู้ยื่นอุทธรณ์” น.ส.สุทธวรรณระบุ
น.ส.สุทธวรรณกล่าวต่อว่า กมธ.ได้พิจารณาศึกษาการออกเสียงประชามติเกี่ยวกับความเห็นของประชาชนต่อการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าร่วมประชุม เรื่องดังกล่าวได้มีความคืบหน้าในการดำเนินการคือ
1. มีการจัดตั้ง กมธ.สามัญ พิจารณาญัตติขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุผลสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ วุฒิสภาได้มีการพิจารณาญัตติครบถ้วนตามประเด็นที่ได้กำหนดไว้เป็นกรอบการดำเนินการแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำรายงานผลการพิจารณา
น.ส.สุทธวรรณกล่าวว่า 2. กกต.ได้มีการออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เพื่อรองรับการดำเนินการของภาคประชาชน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 มาตรา 9 (5) ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าควรมีหนังสือไปยัง กมธ.สามัญพิจารณาญัตติ ขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุผลสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ วุฒิสภา เพื่อขอทราบกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการจัดส่งรายงานเพื่อเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณา ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป และขอให้มีการเชิญ กกต.เพื่อมาชี้แจงประเด็นการจัดทำประชามติ กรณีที่ กมธ.สามัญพิจารณาญัตติขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุผลสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ วุฒิสภา สามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ กมธ.การเลือกตั้งจะสามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ปี 2566 ควบคู่ไปพร้อมกับการจัดทำประชามติได้หรือไม่
สภาล่มอีกแล้ว ซัดกันเดือด “ศุภชัย”นั่งประธาน บอกเบื่อ”บิ๊กตู่”รีบยุบ “ครูมานิตย์”อัดตลาดวัว-ควาย
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3803376
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 2 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุสภาล่มอีกแล้วเป็นครั้งที่ 6 ในรอบปี 2566 ศุภชัย โพธิ์สุ ประธานการประชุม เบื่อหน่ายเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯรีบยุบสภา ขณะที่ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.เพื่อไทย เปรียบสภาเป็นตลาดวัวตลาดควาย ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้