JJNY : 5in1 พท.ปราศรัยหนองคาย│‘โรม’มั่นใจคนไม่เอาแล้ว 3ป.│ก้าวไกลโวยรบ.│รับมือสินค้าขึ้นราคา│โสมเหนือยืนหยัดข้างรัสเซีย

เพื่อไทย ปราศรัยหนองคาย "ชลน่าน-สุทิน" ขายนโยบาย ลดรายจ่ายให้ประชาชน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2614706

พรรคเพื่อไทย เปิดปราศรัย "หนองคาย" โดย "ชลน่าน-สุทิน" ลุยขายนโยบาย ลดรายจ่ายให้ประชาชน-ปี 2570 ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ขณะ "อดิศร" ปลุกคนอีสาน ไม่เอา "ประยุทธ์"
 
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 28 ม.ค. 66 ที่วัดสาวสุวรรณาราม ต.เวียงคุก อ.เมือง จ.หนองคาย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ ส.ส.ในพื้นที่เลย ทั้ง นายเอกธนัช อินทร์รอด, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ และ น.ส.ชนก จันทาทอง รวมถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพื้นที่ใกล้เคียง แวะซื้ออาหารเช้าในพื้นที่ เช่น ข้าวจี่ หมูปิ้ง ไก่ย่าง พร้อมพูดคุยกับแม่ค้า โดย น.ส.แพทองธาร ได้ทดลองกินข้าวจี่ พร้อมระบุว่า ข้าวจี่อร่อยมาก และได้ป้อนข้าวจี่ให้ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีด้วย จากนั้น น.ส.แพทองธาร ได้ร่วมถ่ายรูปกับบรรดาแม่ค้าอย่างเป็นกันเอง โดยช่วงหนึ่งแม่ค้าที่ขายของพูดกับ น.ส.แพทองธาร ว่า โดนลูกน้องหักเหลี่ยมโหดมาหรือ น.ส.แพทองธาร หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ไม่เป็นไร ปล่อยเขาไป
 
จากนั้นเวลา 09.15 น. น.ส.แพทองธาร และคณะ เดินทางไปถึงเวทีปราศรัยที่ ลานเทศบาลท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ โดยมีประชาชนรอรับฟังคำปราศรัยจำนวนมากจนเต็มพื้นที่ ทันทีที่ น.ส.แพทองธาร เดินทางมาถึง ประชาชนต่างลุกขึ้นโบกมือให้ และพร้อมใจกันมอบดอกไม้ให้อย่างอบอุ่น
   
โดย นายเอกธนัช ปราศรัยย้ำประชาชนว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ ให้เราได้เข้าไปทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน ด้านนายกฤษฎา กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลต่อเนื่อง รถไฟความเร็วสูงคงเสร็จและได้ต่อกับรถไฟที่มาจากจีนและประเทศลาวแล้ว และในอนาคตหากเราได้เป็นรัฐบาล มั่นใจว่าจะสามารถทำให้สินค้าการเกษตรดีขึ้นแน่นอน
    
เวลา 09.45 น. นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ปราศรัยว่า 8 ปีของรัฐบาลประยุทธ์ ทำให้พี่น้องประชาชนเป็นหนี้ สินค้าราคาเกษตรตกทุกตัว ค่าไฟ แก๊ส ปุ๋ยแพง แต่ราคาข้าวกลับถูกลง ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะไม่ใช่แค่พักหนี้ พักเงินต้น พักดอก แต่จะเดินหน้าล้างหนี้ให้ เรามาจะลดรายจ่ายให้ประชาชน อันไหนรัฐช่วยได้เช่น น้ำ ไฟ แก๊ส จะช่วย พอลดลงแล้วสินค้าตัวอื่นจะเริ่มลดราคาลง ตอนนี้ประชาชนลำบาก เราจะลดรายจ่ายลงทุกตัว ภายในปี 2570 ค่าแรง 600 บาทต่อวันแน่นอน เปลี่ยนเบี้ยยังชีพผู้อายุ 60 ปีขึ้นไป ให้เป็นบำนาญเดือนละ 3,000 บาท นอกจากนี้เพื่อไทยจะขอปราบยาเสพติดให้สิ้นซาก เราจะขอลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เติมบำนาญ เพิ่มสวัสดิการ ทั้งหมดจะทำได้ต้องช่วยกันเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์อย่างเดียว
   
นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกพรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ไม่มีนายกฯ คนใด ที่คนเกลียดเท่า "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ประเทศหยุดอยู่เมื่อมีรัฐประหาร วันนี้ไม่ได้มาปลุกระดม แต่มายุยงให้ชนะ คนจะมาเป็นนายกฯ ได้คืออิ๊งค์ นอกจากได้นายกฯ แล้วยังแถมลูกในท้องด้วย ตอนนี้ยาบ้าก็เต็มบ้านเมือง ยังจะเอากัญชามาอีกหรือ หมดเวลาทหาร เป็นเวลาของประชาธิปไตย
   
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า พี่น้องหนองคายแลนด์สไลด์ ต้องยกจังหวัด กาบัตรสองใบเพื่อไทยเท่านั้น หนองคายมีต้นทุนของพื้นที่ ต้นทุนผู้คนที่ดีที่สุด หนองคายควรเป็นจังหวัดปกครองตนเอง กทม.เลือกตั้งผู้ว่าฯได้ หนองคายก็ต้องทำได้ มีศักยภาพพร้อม ถ้าเราไม่แลนด์สไลด์ นโยบายดีๆ สิ่งดีๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น เพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ได้ ส.ส.ทั้งสามเขตเท่านั้น ส.ส.ของเราทุกคนมีความรู้ความสามารถ ถ้าไม่แลนด์สไลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาเป็นรัฐบาล ถ้าแลนด์สไลด์จะไม่มีใครแย่งเราจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลของประชาชน แคนดิเดตนายกฯ พรรคไม่ประกาศ เพราะคนประกาศคือประชาชน เราจะไม่จับมือกับพรรคใด ไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคที่มาจากเผด็จการ จะจับมือกับประชาชนอย่างเดียว.



‘โรม’ มั่นใจคนไม่เอาแล้ว 3 ป. ชี้สร้างอนาคตไทยดีลกลับ พปชร. สวนทางประชาชน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3794310

‘โรม’ เตือน ‘สอท.’ เกี่ยวดองหนองยุ่ง ‘3 ป.’ ดีลย้ายซบ ‘พปชร.’ สวนทางความต้องการ ปชช.
 
เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแข่งขันทางการเมืองหลัง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ปิดดีล ย้ายกลับเข้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เรียบร้อยแล้ว ว่าตนยังไม่รู้ว่าใครดีลกับใครบ้าง แต่สิ่งที่ตนยืนยันมาโดยตลอดคือ พรรคการเมืองอย่างพรรค พปชร.ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ดี หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ดี ทั้งสองคนนี้มีต้นธารมาจากการยึดอำนาจ พวกเขาสร้างพรรคการเมืองเพื่อสืบทอดอำนาจ และเป็นพรรคของทหารอย่างชัดเจน ดังนั้น ใครก็ตามที่เข้าไปเกี่ยวดองหนองยุ่งจะต้องระมัดระวังให้ดี เพราะในท้ายที่สุด ประชาชนจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นคืออนาคตใหม่ของประเทศไทยที่ไม่อยู่ภายใต้ร่วมเงาของแก๊ง 3 ป.อีกต่อไป
 

 
ก้าวไกลโวย รบ. ให้เวลาซักฟอกน้อย เย้ยหวั่นเจอขยี้ ปม ‘หลานบิ๊กตู่’ เอี่ยวคดีจีนเทา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3794291

เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ซึ่งคาดว่าจะอภิปรายวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ ว่าน่าเสียดายมากที่ระยะเวลาการอภิปรายค่อนข้างสั้น ทั้งที่เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย และมีความสำคัญกับประชาชน เพื่อให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ความจริงการอภิปรายไม่ได้ส่งผลดีให้กับฝ่ายค้านเท่านั้น แต่ฝ่ายรัฐบาลควรจะมองว่าการอภิปรายจะเป็นพื้นที่ให้รัฐบาลได้ชี้แจงเหตุผลให้ประชาชนได้รับทราบ ถ้าทำได้ดีก็จะเป็นผลดีต่อรัฐบาล
 
เมื่อถามว่าการที่รัฐบาลให้เวลาอภิปรายน้อยเป็นเพราะอาจมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหลานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า เป็นไปได้ แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่พรรค ก.ก.เตรียมจะใช้อภิปราย ตนคิดว่ารัฐบาลเป็นกังวลแน่นอน จับสัญญาณผ่านการตั้งกระทู้ถามต่างๆ ที่ชัดเจนว่าหนีสภา เมื่อเห็นเรื่องที่เราจะถามก็ยิ่งไปกันใหญ่ ไม่มีใครมาตอบเลย โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 26 มกราคม ไม่มีรัฐมนตรีคนใดมาตอบกระทู้ เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งที่นายกฯและรัฐมนตรีไม่ยอมมาตอบกระทู้ เพราะคิดว่าคงตอบคำถามไม่ได้ จึงใช้วิธีการที่ขาดวุฒิภาวะ และไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา
 
เมื่อถามว่าประเด็นทุนจีนสีเทาที่เกี่ยวข้องกับหลาน พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ในการอภิปรายด้วยใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ลองติดตามดูดีกว่าว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง
  


เช็กเงินในกระเป๋า! รับมือสินค้าขึ้นราคา ของแพง!อีกระลอก
https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1050287

เปิดต้นปี 2566 ปัญหา “สินค้าราคาแพง” ยังไม่คลี่คลาย ซ้ำร้ายส่อเค้าจะเห็นการปรับ “ขึ้นราคา” ระลอกใหม่ด้วย กรุงเทพธุรกิจ สอบถามผู้บริหารหลากหมวดสินค้า ยอมรับ “ต้นทุนพุ่ง” เป็นปัจจัยเปราะบาง กระทบธุรกิจในปีนี้ เพราะเป็น “ตัวแปร” ต่อการตัดสินใจปรับขึ้นราคาสินค้าอย่างมาก
 
ข้าวของเตรียมราคาแพงต่อไม่รอแล้ว หลังผู้ผลิตบ่นต้นทุนพุ่งเป็นภาระหนักอึ้ง บางหมวดขึ้นแรงเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นผู้บริโภคต้องสำรวจเงินในกระเป๋า ว่าพร้อมรับแรงกระแทกสินค้าแพงระลอกใหม่มากน้อยแค่ไหน
 
สำหรับหมวดสินค้าที่ต้องจับตาเรื่องปรับราคา มีดังนี้ “เครื่องดื่มชูกำลัง” ในปี 2565 มีบิ๊กแบรนด์อย่าง “เอ็ม-150” ขึ้นราคาสินค้า แต่มีผลต่อส่วนแบ่งตลาดจนต้องส่งสินค้าใหม่ราคาเดิมมาตอบโจทย์ผู้บริโภค ปี 2566 แบรนด์ใหญ่อีกรายอย่าง “กระทิงแดง” มีกระแสข่าวจะขึ้นราคา แต่ที่กำลังพิจาณาอยู่คือ “คาราบาวแดง”
 
เครื่องดื่มชูกำลังต้นทุนพุ่งแรงรอบ 20 ปี
 
เสถียร เสถียรธรรมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ต้นทุนการผลิตเครื่องดื่มชูกำลังปรับขึ้นยกแผง โดยเฉพาะ “น้ำตาล” ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญของการผลิตสินค้า การจะลดปริมาณ ปรับสูตรมากไม่ได้ เพราะจะมีผลต่อ “รสชาติ” และการบริโภคได้
นอกจากนี้ การขนส่งยังสูงขึ้นเป็นลำดับสอง รวมถึงบรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว กระป๋อง ขยับขึ้นไม่แพ้กัน อย่างขวดแก้วโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ ซึ่งต้องใช้พลังงานสูงมาก และที่ผ่านมา ราคาพลังงานพุ่งขึ้นต่อเนื่อง จึงเลี่ยงผลกระทบยาก เป็นต้น
 
ต้นทุนเครื่องดื่มชูกำลังพุ่งขึ้น 15% สูงเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่ทำคาราบาวแดงมากว่า 20 ปี โดยวัตถุดิบน้ำตาลขึ้นหนักสุด

การขยับขึ้นราคาสินค้าเมื่อใด บริษัทยังไม่มีแผนชัดๆ แต่ยังต้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนภาพรวมเครื่องดื่มชูกำลัง “หมื่นล้าน” ปี 2566 คาดการณ์จะไม่เติบโตด้วย เพราะวิกฤติโควิด-19 ระบาดที่ผ่านมา ทำให้ประชาชน “ฐานราก” ลำบากยากจนลง จากคนมีทอง ต้องนำไปขายหาเงินยังชีพ มีรถจักรยานยนต์ นำไปจำนอง ซ้ำร้ายยังมี “หนี้นอกระบบ” มหาศาล
  
มันฝรั่งขึ้นราคา "โก๋แก่" พร้อมปรับตาม 

ตลาดขนมขบเคี้ยวหรือสแน็คเป็นอีกหมวดที่ต้นทุนพุ่ง หนึ่งในนั้นคือสแน็คถั่ว โดย จุมภฏ รวยเจริญทรัพย์ กรรมการผู้จัดการบริหาร โรงงานโก๋แก่ บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด กล่าวว่า วัตถุดิในการผลิตสแน็คถั่วอบกรอบต่างๆ ปรับเพิ่มขึ้นทั้งถั่ว บรรจุภัณฑ์กระป๋อง กล่องฯ ส่งผลต่อความสามารถในการทำ “กำไร” จากอดีตเคยอยู่อัตรา 2 หลัก แต่หลังจากโควิด-19 ระบาด ต้นทุนแพงทำให้กำไรลดเหลือเพียง 1 หลักเท่านั้น ทำให้บริษัทต้องหาทางบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงานมากขึ้น เป็นต้น
 
ส่วนการ “ขึ้นราคา” ของโก๋แก่ เบื้องต้น บริษัทยังรอให้เจ้าตลาดสแน็ค โดยเฉพาะกลุ่มมันฝรั่ง ปรับขึ้นราคาก่อน ตามด้วยขนมขึ้นรูป จากนั้นจะเป็นคิวของ “ถั่ว” ขยับราคาตาม
 
ราคาสินค้ากำลังดูเทรนด์ว่าสแน็คหมวดอื่นๆทำอย่างไร หากปรับราคารีเทล เราก็น่าจะปรับตาม เพราะตอนนี้ต้นทุนขยับ 23-24% เช่น จากกระป๋องขึ้นราคาจากเหล็กพุ่ง 20% ถั่วแพงขึ้น ซึ่งบริษัทใช้ถั่วลิสงดิบวันละ 20 ตัน เป็นต้น
 
ที่ผ่านมา ต้นทุนพุ่ง แต่ โก๋แก่ ไม่ได้ปรับราคาสินค้าขึ้น กลับกันบริษัท “ลดปริมาณ” สินค้าลงก่อนช่วงโควิด-19 ระบาด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่