กรณีของผมเนื่องด้วยผมได้ลื่นล้มข้างบ้าน สาเหตุ เกิดมาจากตะใคร้น้ำ หลังจากผมล้ม ตัวผมเองได้ยินเสียงดัง กร๊อฟ มันเกมือนกับเราหักก้านมะละกอ หลังจากนั้นผมรีบลุกขึ้นยืน แต่ตัวผมก็ล้มลงอีกรอบ ตอนนั้นทั้งเหงื่อท่วม ทั้งหน้ามืด ทั้งปวดบริเวณข้อเท้า แต่ผมก็พอที่จะทนการปวดได้อยู่ ผมล้มประมาณเวลา 2.30 ทุ่ม น่าจะได้ แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะมาปลุก พ่อ/แม่ ผมรอจะสว่าง ( ตอนกลางคืนรุ้สึกว่ามันจะยาวนานมากๆ) ขาผมตอนนั้นไม่สามารถตั้งได้รอจนสว่าง พอบอก พ่อ/แม่ เสร็จ ท่านได้ให้ผมไปบีบกับหมอบ้าน 1-2 วันแรกไม่สามรถถูกบริเวณข้อขาได้เลย บอกเลยว่าปวดมาก ผมพยายามถามหมอบ้านอยู่ว่าไม่หักใช่มั๊ย เขาก็ตอบมาว่า ไม่หักหรอก ถ้าหักผมคงทนไม่ได้ ผมให้เขาบีบอยู่ประมาณ 20 วัน หลังจากนั้นผมเลยลองตั้งขาแตะพื้นดูแล้วกดน้ำหนักลง สรุปว่า มันยังปวดมากๆ ( อ่อ 20 วันที่ผมไปบีบกับหมอบ้านผมใช้ วอคเกอร์ในการช่วยเดินนะครับ แบบใช้แต่ขาข้างที่ไม่หักข้างเดียว ) หลังจากนั้นทั้ง พ่อ/แม่ ของผมทั้งแฟน ทั้งแม่ยาย เขารู้สึกว่า อาการผมยังไม่ดีขึ้น เลยให้ผมไปเอ็กซเรย์ดู ปรากฏว่า ทั้งหัก ทั้งแตกดังรูปครับ
รพ.ได้ทำการถามถึงการรักษาว่าผมจะรักษากับ รพ. หรือไม่ ผมจึงตัดสินใจเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดดามเหล็ก เมื่อวันที่ 15/11/65 นอน รพ.อยู่ 4 วันหลังจากนั้นหมอก็ให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านและนัดกลับมาเอ็กซเรย์อีกรอบ ในวันที่ 23/01/66 สรุปว่า กระดูกผสานกันเร็วมาก (ผมไม่มีรูปให้ดูหลังผ่านะครับ เนื่องจากหมอขอใว้ หมอบอกใว้ว่าเดินได้วันไหนหมอจะให้ถ่ายรูปทั้งหมดครับ เพื่อความสบายใจของหมอผมเลยไม่เซ้าซี้ครับ) ภายใน 2 เดือน กระดูกผมผสานกันไปแล้ว 70%+ ตอนนี้หมอให้ผมเดินลงน้ำหนักได้แล้ว 50%
ผมจึงมาโพสต์นี้ใว้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังรักษาตัวอยู่ ณ ตอนนี้ ครับ ผมก็เช่นกันกับทุกๆคน ตอนแรกๆผมกังวลมาก กลัวไปต่างๆนาๆ จิตตกมากๆๆครับ ยิ่งเข้ามาอ่านในโลกอินเตอร์เน็ต บางทีเจอแบบบางข้อความนี่ถึงขั้นกับน้ำตาตกใน แต่เมื่อตัวผมใด้ผ่านจุดนี้มาทำให้รู้ว่า พยามทำใจมห้สบายที่สุด พยายามดูแลตัวเองดีๆ ทำตามที่หมอสั่ง ผมเขื่อครับว่าทุกคนต้องหายแน่นอน การเจ็บเกี่ยวกับกระดูกนี่ มันต้องใช้เวลา และสภาพจิตใจ ครับ
สุดท้ายนี้อยากจะขอให้ทุกๆ หายใวๆนะครับ สู้ๆๆเข้าใว้ครับ
ตอนแรกกรณึผมหมอบอกว่าน่าจะได้ลงน้ำหนักช่วง 6 เดือน แต่เมื่อเรา สภาพจิตใจดี ทำตามหมอสั่ง ปล่อยให้ ร่างกายเยียวยาตัวเอง สรุปว่า 2 เดือนของผมสามารถลงน้ำหนักได้แล้ว หมอยังบอกว่าสมานเร็วเกินคาดครับ
อ้อลืมบอก ตอนนี้ผมอายุ 33 ครับ และหมอนัดอีกที 24/04/66 เลยทีเดียว แต่หมอก็ใด้ให้กำลังใจมาด้วย ว่านัดรอบหน้า หมอจะขอไม้เท้าคืนนะ ไม่จำเป็นต้องใช้อีกแล้ว แต่ระหว่างนี้ ก็ระมัดระวังนะ ห้ามรีบลงน้ำหรักเต็ม 100 เชื่อหมอ ...
เดี๋ยว หลังจากไปหา หมอ เมษานี้ ผมจะเอารูปมาลงย้อนหลังใว้ให้ดูนะครับ
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกๆหายใวๆนะครับ อย่าลืม ทำใจดีๆ คอยให้กำลังใจตัวเอง และที่สำคัญ ทำตามคำแนะนำของหมอ ปล่อยให้ร่างกายใด้เยียวยาตัวเองแบบ เต็มที่ ถือซะว่า ร่างกายต้องการพักผ่อนครับ ขอให้โชคดีครับ
กระดูกขาท่อนใหญ่หักช่วงล่างบริเวณใกล้ๆข้อเท้า
รพ.ได้ทำการถามถึงการรักษาว่าผมจะรักษากับ รพ. หรือไม่ ผมจึงตัดสินใจเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดดามเหล็ก เมื่อวันที่ 15/11/65 นอน รพ.อยู่ 4 วันหลังจากนั้นหมอก็ให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านและนัดกลับมาเอ็กซเรย์อีกรอบ ในวันที่ 23/01/66 สรุปว่า กระดูกผสานกันเร็วมาก (ผมไม่มีรูปให้ดูหลังผ่านะครับ เนื่องจากหมอขอใว้ หมอบอกใว้ว่าเดินได้วันไหนหมอจะให้ถ่ายรูปทั้งหมดครับ เพื่อความสบายใจของหมอผมเลยไม่เซ้าซี้ครับ) ภายใน 2 เดือน กระดูกผมผสานกันไปแล้ว 70%+ ตอนนี้หมอให้ผมเดินลงน้ำหนักได้แล้ว 50%
ผมจึงมาโพสต์นี้ใว้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังรักษาตัวอยู่ ณ ตอนนี้ ครับ ผมก็เช่นกันกับทุกๆคน ตอนแรกๆผมกังวลมาก กลัวไปต่างๆนาๆ จิตตกมากๆๆครับ ยิ่งเข้ามาอ่านในโลกอินเตอร์เน็ต บางทีเจอแบบบางข้อความนี่ถึงขั้นกับน้ำตาตกใน แต่เมื่อตัวผมใด้ผ่านจุดนี้มาทำให้รู้ว่า พยามทำใจมห้สบายที่สุด พยายามดูแลตัวเองดีๆ ทำตามที่หมอสั่ง ผมเขื่อครับว่าทุกคนต้องหายแน่นอน การเจ็บเกี่ยวกับกระดูกนี่ มันต้องใช้เวลา และสภาพจิตใจ ครับ
สุดท้ายนี้อยากจะขอให้ทุกๆ หายใวๆนะครับ สู้ๆๆเข้าใว้ครับ
ตอนแรกกรณึผมหมอบอกว่าน่าจะได้ลงน้ำหนักช่วง 6 เดือน แต่เมื่อเรา สภาพจิตใจดี ทำตามหมอสั่ง ปล่อยให้ ร่างกายเยียวยาตัวเอง สรุปว่า 2 เดือนของผมสามารถลงน้ำหนักได้แล้ว หมอยังบอกว่าสมานเร็วเกินคาดครับ
อ้อลืมบอก ตอนนี้ผมอายุ 33 ครับ และหมอนัดอีกที 24/04/66 เลยทีเดียว แต่หมอก็ใด้ให้กำลังใจมาด้วย ว่านัดรอบหน้า หมอจะขอไม้เท้าคืนนะ ไม่จำเป็นต้องใช้อีกแล้ว แต่ระหว่างนี้ ก็ระมัดระวังนะ ห้ามรีบลงน้ำหรักเต็ม 100 เชื่อหมอ ...
เดี๋ยว หลังจากไปหา หมอ เมษานี้ ผมจะเอารูปมาลงย้อนหลังใว้ให้ดูนะครับ
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกๆหายใวๆนะครับ อย่าลืม ทำใจดีๆ คอยให้กำลังใจตัวเอง และที่สำคัญ ทำตามคำแนะนำของหมอ ปล่อยให้ร่างกายใด้เยียวยาตัวเองแบบ เต็มที่ ถือซะว่า ร่างกายต้องการพักผ่อนครับ ขอให้โชคดีครับ