คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
- ญาณ ที่ ๑ ถึง ๑๒ อารมณ์(สิ่งที่ถูกรู้โดยจิต) ยังไม่ใช่นิพพาน ยังคงเป็นรูปนามละเอียด จึงยังจัดเป็นโลกียะ
- ญาณที่ ๑๓ นิพพานโผล่มาปรากฏให้จิตเห็น หรือ ถูกรู้โดยจิตแล้ว แต่กิเลสยังเท่าเดิม ..ญาณนี้ จึงเป็นญาณครอบโคตร หรือ ญาณแบบครึ่งๆกลางๆ ระหว่าง โลกียะ และ โลกุตตระ
- ญาณที่ ๑๔ และ ๑๖ นิพพานมาปรากฏเป็นอารมณ์ของจิตอย่างเต็มที่ ...ดังนั้น ๒ ญาณนี้จึงเป็นโลกุตตระ
- ญาณที่ ๑๖ จิตไม่ได้จับนิพพานเป็นอารมณ์เหมือนญาณที่ ๑๔ และ ๑๕ ..แต่ ญาณที่ ๑๖ จิตไปจับเอาสัญญาเก่ามาทบทวนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มต้นสร้างบารมี ซึ่งก็คือ การย้อนไปเห็น การสร้างสะสมบารมีมาเรื่อยๆๆ จนมาถึงเวลาที่เห็นนิพพาน ซึ่งเป็นการย้อนไปเห็นการกระทำกรรมเก่าๆที่ผ่านมาทั้งหมด ซึ่งเป็นโลกียะทั้งหมด เพราะเป็นการทบดูดูสัญญาเก่าๆที่ผ่านมา ... ญาณที่ ๑๖ จึงจัดเป็นโลกียะ
เพราะว่า...
- ญาณ ที่ ๑ ถึง ๑๒ อารมณ์(สิ่งที่ถูกรู้โดยจิต) ยังไม่ใช่นิพพาน ยังคงเป็นรูปนามละเอียด จึงยังจัดเป็นโลกียะ
- ญาณที่ ๑๓ นิพพานโผล่มาปรากฏให้จิตเห็น หรือ ถูกรู้โดยจิตแล้ว แต่กิเลสยังเท่าเดิม ..ญาณนี้ จึงเป็นญาณครอบโคตร หรือ ญาณแบบครึ่งๆกลางๆ ระหว่าง โลกียะ และ โลกุตตระ
- ญาณที่ ๑๔ และ ๑๖ นิพพานมาปรากฏเป็นอารมณ์ของจิตอย่างเต็มที่ ...ดังนั้น ๒ ญาณนี้จึงเป็นโลกุตตระ
- ญาณที่ ๑๖ จิตไม่ได้จับนิพพานเป็นอารมณ์เหมือนญาณที่ ๑๔ และ ๑๕ ..แต่ ญาณที่ ๑๖ จิตไปจับเอาสัญญาเก่ามาทบทวนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มต้นสร้างบารมี ซึ่งก็คือ การย้อนไปเห็น การสร้างสะสมบารมีมาเรื่อยๆๆ จนมาถึงเวลาที่เห็นนิพพาน ซึ่งเป็นการย้อนไปเห็นการกระทำกรรมเก่าๆที่ผ่านมาทั้งหมด ซึ่งเป็นโลกียะทั้งหมด เพราะเป็นการทบดูดูสัญญาเก่าๆที่ผ่านมา ... ญาณที่ ๑๖ จึงจัดเป็นโลกียะ
สรุปง่ายๆคือ เมื่อใดที่นิพพานโผล่มาให้จิตเห็น เมื่อนั้นจัดเป็นโกลกุตตระ(ซึ่งมีเฉพาะมรรคจิตผลจิตแค่นั้น)
แต่เมื่อใดที่สิ่งอื่นๆที่ไม่ใช่นิพพานมาปรากฏให้จิตเห็น เมื่อนั้นจัดเป็นโลกียะ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมญาณที่ 16 เป็นโลกีย์ ?