แบบนี้เรียกทำกินไม่ขึ้นแล้วใช่ไหมครับ ? (ทำธุรกิจมา 5 อย่าง เจ๊งหมด ภายใน 1 ปี)

เรื่องราวที่จะเล่าเป็นเรื่องราวตั้งแต่ปลายปี 2564-2566 ตอนนี้น่ะครับ

ระยะเวลา 1 ปีกว่าๆ คนเราสามารถเจ๊งได้ขนาดนี้เลยหรอครับ


1.ขายของกินตามบูทห้าง
(ลงทุนไป 300,000 ค่าที่วันล่ะ 4,000-5,000 บาท สรุป วันแรกขายได้แค่ 300 บาท ซึ่งต้องจ่ายค่าลูกน้องอีก 1 คน วันละ 450 บาท สรุป เป็นแบบนี้มา 2-3 งาน ระยะเวลา 1-2 เดือน สรุปเลิกไป)

2.ขายของออนไลน์
(ลงทุนไป 100,000 ลงทุนทั้งค่าของ ค่าการตลาด สรุป ขายไม่ได้สักชิ้น ตั้งแต่วันแรกเลย สรุปเลิกไป)

3.ร่วมลงทุนจะเปิดร้านอาหารกับรุ่นพี่ ดิวงานกันเรียบร้อย นัดกันจะเซ็นสัญญา สรุปถึงวันที่จะทำสัญญากัน ดันโดนบอกยกเลิกไปแบบกระทันหัน

4.ร้านอาหาร ลงทุนเองไป 500,000 ทำเลนี้ดีมากๆ ในห้าง ปรึกษาคนใกล้ตัวที่มีประสบการณ์มานาน อายุเยอะแล้ว เขายังฟันธงเลยว่ามาเปิดร้านอาหารในห้างนี้ยังไงก็รุ่งแน่ๆ ทำเลดี คนเยอะ คนมีกำลังซื้อ เพราะเขาเองก็เปิดอยู่ที่นี้เป็นญาติกับผมนี้เอง สรุปพอผมไปทำ จ้างพ่อครัวที่ทำอาหารเก่งๆ ตกแต่งบรรยากาศร้านอย่างดี สรุปพอเปิดกลับไม่ดีอย่างที่คิด ขาดทุนตั้งแต่วันแรกที่ทำเลย อยู่ได้ไม่กี่เดือน สู้ต่อไม่ไหวก็ต้องเลิกไป

5.กลับมาทำธุรกิจออนไลน์
(ลงทุนไป 50,000 ครั้งนี้ลองทำเล็กๆ งบประหยัดไปก่อน สรุป ขายไม่ได้เลยสักชิ้นยันวันนี้ เปิดมาได้ 1 เดือนแล้ว)


ทุกธุรกิจก่อนจะทำได้ศึกษาจากผู้มีประสบการณ์มาแล้วทั้งนั้นนะครับ ทั้งจากการปรึกษา การลงคอร์สเรียน การศึกษาต่างๆ

ผมเลยอยากถามท่านเพื่อนๆ ครับ ว่าอาการแบบผมนี้เรียกว่า “ ทำกินไม่ขึ้นแล้วใช่ไหมครับ “ ?
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ผมเคยเขียนไว้ครับ เรื่องการทำร้านอาหารหรือร้านขายของ
เอาแบบสรุปๆ นะครับ

สองเดือนแรก เปิดร้านให้ลูกค้าเห็นเป็นพอ  ลูกค้าเห็นร้านใหม่จะแช่งว่าเดี๋ยวคงปิด อย่าแวะดีกว่า
เดือนที่สาม ลูกค้าเดิมๆ เริ่มงง ร้านยังอยู่ ลองแวะเข้าไปหน่อย  
เดือนที่สี่ เริ่มซื้อซ้ำ รายได้ร้านพอมี แต่ยังขาดทุน
เดือนที่ห้า  ลูกค้ามาจากการบอกต่อ ลูกค้าใหม่เห็นคนอยู่หน้าร้าน เลยคิดว่าน่าจะมีอะไรดี เลยเข้ามาซ์้อบ้าง
เดือที่หก  รายได้ถึงจะเริ่มพอรายจ่าย

จะเปิดร้านอะไรก็ตาม ต้องคิดว่าจะอยู่ได้ไหม 6 - 12 เดือน โดยไม่มีรายได้เข้ามาเลย  ถ้าทนได้ มีสายป่านยาวพอก็เปิดเลยครับ
แต่ถ้าคิดว่า เดือนแรกจะมีรายได้พอค่าของค่าลูกน้อง เลิกคิดครับ


----
ส่วนการเปิดร้านในห้าง  
ตัวเองจะต้องมีลูกค้าจากข้างนอกที่ทำกำไรได้แล้ว แค่จะมาเปิดช่องทางให้ลูกค้าสบายขึ้นเท่านั้น
ถ้าเริ่มใหม่เลย ไม่เคยมีฐานลูกค้า แล้วมาเปิดในห้าง  กลับไปอ่านท่อนบน   ทนได้ไหม หกเดือน  กับค่าเช่ามหาโหด
ขนาดร้านติดตลาด มีแบรนด์  ยังไปกันไม่ค่อยรอดในห้างเลยครับ

จะเริ่มอะไรก็ตาม เริ่มจากเล็กๆ จะได้ไม่เจ็บตัวมาก แล้วค่อยขยาย เริ่มหลายๆอย่าง อันไหนไม่รอดก็ทิ้งมันไป
ความคิดเห็นที่ 3
[ผมไม่ใช่คนทำธุรกิจนะครับ แค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ]
ไม่เกี่ยวเลย คุณอาจจะบอก ศึกษาดีแล้ว ผมคิดว่ายังไม่ดีนักหรอกครับ เพราะ...

1.ขายของกินตามบูทห้าง
ขายของ สิ่งสำคัญคือ อร่อย ครับ ถ้าไม่อร่อย ยังมีเพื่อนร่วมอาชีพที่จะเสียบอยู่แล้ว หรืออาจจะมีของนี้ขายอยู่แล้ว หรือคนส่วนใหญ่อาจไม่กิน หรือไม่ก็กินนิดเดียวแล้วผ่าน

2.ขายของออนไลน์
ค่าการตลาดนี่ อะไรครับ? อีกอย่าง กว่าที่คุณจะโผล่ในโลกออนไลน์ มันต้องใช้เวลา ทำ SEO ไปเรื่อยๆ นะครับ แล้วชื่อร้านของคุณ มันโผล่ขึ้นมารึยังครับ?

3.ร่วมลงทุนจะเปิดร้านอาหารกับรุ่นพี่
ร่วมทุนกับใครซักคน จะบอกว่า คุณอาจมีรุ่นพี่ที่ดี แต่ไม่เกี่ยวกับ เขาจะเป็นหุ้นส่วนที่ดีนะครับ ยกเลิกนี่แหละ ดีแล้ว

4.ร้านอาหาร
ถึงผมจะไม่ใช่เจ้าของ แต่บอกได้เลยว่า เวลาคุณจะซื้อต่อกิจการอะไรซักอย่าง ง่ายๆ เขาบอกคุณเท่าไหร่ ลบไปก่อนเลย 50% ครับ หรืออาจจะมากกว่า ทำไม ถ้ามันไม่มีปัญหา เขาจะส่งต่อร้านนี้ให้คุณเพื่ออะไรครับ? ให้พี่น้องหรือญาติทำ? หาลูกน้องมาทำ? ก็ยังดีกว่าส่งต่อให้คุณครับ ยกเว้นอย่างเดียว คือ มันน่าจะมีปัญหาอะไรซักอย่าง และเขาไม่ได้บอกคุณครับ

5.กลับมาทำธุรกิจออนไลน์
ลงทุนไป 50,000 นี่ ค่าอะไร จริงๆ มันมีแค่ ค่าสินค้า เท่านั้นแหละครับ สำหรับ การเริ่มต้น และก็เหมือน ข้อ 2 ทำ SEO ต้องใช้เวลา ไม่ใช่แค่ลองเดือนเดียว คุณสรุปเลย จบ

สรุป (จากมุมมองของผม)
คุณทำแบบ ทุกอย่างเร็ว เริ่มเร็ว เลิกเร็ว เร็วไปมากๆ พอทำไปนิดเดียว เรียกว่า ยังไม่ทันที่ทุกอย่างจะเข้าที่ คุณก็เลิก ทำธุรกิจใหม่ แต่ละอย่างต้องใช้เวลานะครับ ทั้งรอให้ลูกค้าเดินผ่าน เห็นหน้าเห็นตากิจการคุณ แล้วก็ใช่ว่า เขาจะซื้อของๆ คุณวันนั้นเลย บางที คุณอาจต้องรอเดือนสองเดือนผ่านไป เขาถึงจะซื้อ ก็มี

อีกอย่างนะครับ การลงคอร์สเรียน การศึกษาต่างๆ นั่น ก็ดีครับ แต่ไม่ได้ทำให้ คุณเข้าใจการขายดีพอ จนกว่าคุณจะลงสนามเองครับ
ความคิดเห็นที่ 14
เค้าเรียกว่าทำไม่เป็นต่างหากครับ

สิ่งที่คุณทำ คุณไม่มีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญเลย อยู่ๆอยากทำ หรือคนโน้นคนนี้บอกดีก็กระโจนลงไปทำ การเรียนคอร์ส ไม่ได้การันตีความสำเร็จ แค่บอกว่าคุณต้องทำอะไรแค่นั้น

การทำธุรกิจ ใน​ประสบการณ์หลายด้าน คนทำงานในองค์กร ซึ่งส่วนใหญ่ทำแต่หน้าที่เดียว จึงออกมาล้มเหลว บางคนทำปุ๊บ จ้างคนปั๊บ มีรายจ่ายทันที ตัวเองไม่ลงมือทำ มันจะหาประสบการณ์จากไหน

กว่าจะสำเร็จ กว่าคนอื่นจะเห็น ก็เลยนึกว่ามันง่าย เหมือนหวยออกแล้ว อะไรก็รู้ไปหมด

ลงมาเจ็บ ลงมาล้มครับ แค่ห้าครั้ง น้อยมากครับ

อีกอย่าง เห็นใน pantip พวกได้หลายแสนในบริษัท แล้วบอกว่าออกมาทำเองได้สบายๆ ได้รายได้อีกหลายเท่าตัว ตลกครับ ถ้ามันจริง จะโง่เป็นลูกจ้างได้เงินน้อยกว่าอยู่ในบริษัทไปทำไม
ความคิดเห็นที่ 7
อืม ใจร้อนไปค่ะ
ควรศึกษารูปแบบธุรกิจให้มากกว่านี้
คุณเปิดร้านปั๊บจะให้กำไรเลย มันไม่ได้หรอกค่ะ
มันมีระยะเวลาคืนทุนของมัน

เปิดขายของวันแรก คุณก็จะเอากำไร จะให้มีคนมาซื้อหลายคนเลย มันไม่ใช่ไง
ลูกค้าเขายังไม่รู้จักร้านคุณเลย ไม่รู้ว่าคุณขายอะไร ของมีคุณภาพแค่ไหน
บางคนยังไม่รู้ด้วซ้ำว่ามีร้านคุณอยู่
แต่คุณกลับล้มเลิกไปก่อนซะแล้ว

ร้านอาหารดูกันที่ 3-4 เดือนเลยนะคะ
เพราะเป็นช่วงที่ลูกค้าส่วนมากรู้แล้วว่าร้านคุณอยู่ตรงนี้ รู้ว่าร้านคุณขายอะไร และอาจจะเริ่มมีลูกค้าประจำแล้ว

อยากได้กำไรทันที ให้ขายของเล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องไปทำร้านใหญ่โตค่ะ

แต่นั่นแหละ
ต่อให้ขายหมูปิ้ง น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ วันแรกคนไม่รู้ ขับรถผ่านมาเห็น จอดรถไม่ทัน เขาก็ไม่ซื้อ
หรือเขาไปซื้ออย่างอื่นมาเต็มแล้ว เพิ่งผ่านมาเห็นร้านคุณ เขาก็ไม่ซื้อแล้ว เพราะว่าซื้อของกินมาเต็มแล้ว
จดไว้ในใจ ว่าตรงนี้มีร้านขายอันนี้ๆ นะ กะว่าจะมาซื้อวันหลัง แต่คุณดันเลิกขายไปแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่