ก็อย่างว่า เรื่องแบบนี้ เรื่องการใช้เหตุผล สติปัญญา ความเข้าใจ
เป็นปัญหาของสลิ่มชนมาโดยตลอดอยู่แล้ว
น่าเห็นใจ
.
พรรคการเมือง มีหน้าที่นำเสนอนโยบาย และทำนโยบายนั้นให้เป็นจริง
เพื่อให้สิ่งที่แย่ดีขึ้น ให้สิ่งที่ดี ดียิ่งขึ้น
เป็นการนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
บริหารราชการแผ่นดินในภาพรวมให้เกิดประสิทธิภาพมีประสิทธิผล
เช่น เสนอนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการกองทุนหมู่บ้าน จำนำข้าว แค่แรง 300 บาท ฯลฯ
จากนโยบายหาเสียง ก็เป็นนโยบายแห่งรัฐ สู่การปกิบัติจริงและเกิดผลดีต่อประชาชน
อย่างนี้ เรียกว่า "ผลงาน"
.
ต่างกับสิ่งที่เรียกว่า งานรูทีน หรือ "งานประจำ"
ที่เป็นเรื่องปกติ ปกติที่ภาครัฐต้องกระทำ หน่วยงานราชการเสนอมา รัฐบาลเห็นด้วย อนุมัติให้ทำ
การทำให้ดี หรือดีขึ้น ก็เป็นเรื่องปกติของงานประจำ ซึ่งหากมองอย่างพิจารณา จะเห็นว่า ที่ดีขึ้นน่ะ มีน้อย โดนด่าน่ะมีแบบสาธยายไม่หมด
รัฐบาล มีงบประมาณหลายแสนล้านในการทำงาน
จะสร้างนั่น จะปรับปรุงนี่ เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ "ผลงาน" แต่คืองานประจำธรรมดา ๆ เท่านั้นเอง
และนอกจากงบประมาณแล้ว รัฐบาลยังเป็นผู้ทำสัญญาระดับรัฐในการทำโครงการต่าง ๆ
เรื่องอย่างนี้ ก็ปกติอีกนั่นแหละ เป็นเรื่องประจำที่รัฐบาลต้องทำอยู่แล้ว
หากจะนับเป็นผลงาน ก็เช่นเรื่อง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
แต่เป็นผลงานที่แย่ เป็นโครงการเพื่อผลทางการเมือง มากกว่าการมุ่งยกระดับชีวิตประชาชนอย่างจริงจัง
โครงการประกันราคา โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ หมดงบประมาณไปนับล้านล้านบาท
ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
8 ปีงบประมาณที่ผ่านมา รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กองทัพมากกว่าหนึ่งล้านล้านบาท
อ้างเพื่อความมั่นคง
สิ่งที่เห็นคือ เรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ เรือหลวงที่มีปัญหาการซ่อมบำรุงจนเกิดความสูญเสีย ฯลฯ
หรือในอดีต ก็เช่น จีที 200 ที่ถูกเรียกว่าดุ้นลวงโลก เรือเหาะที่เหาะไม่ขึ้น ซ่อมแพงมากกว่าซื้อ สุดท้าย โละทิ้ง
.
สิ่งที่เรียกว่า "ผลงาน" คือ สิ่งที่ออกมาจากวิสัยทัศน์ จากความแหลมคมทางนโยบาย
เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่ของประชาชน
ไม่ใช่เช้าชามเย็นชาม เสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หยุด ไม่ทำงาน
ทำงาน รูทีน ไปวัน ๆ สร้างแฟลต ลอกคลอง ทำโครงการตามสัญญาสัมปทานที่มีแผนแม่บทมาแล้วนับยี่สิบปี
อย่างนี้ ไมใช่ผลงาน ไม่ได้ใช้วิสัยทัศน์ ไม่ได้ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในภาพรวม แถมมีปัญหามากกว่าผลสัมฤทธิ์ในแต่ละเรื่อง
.
ตลกดีนะครับ
ขณะที่สลิ่มบอกว่า ไม่เห็นผลงานของผุ้ว่าชัชชาติ สลิ่มบอกว่าไม่มีเลย
แต่สลิ่มกลับอวดอ้างผลงานสารพัดของลุง (อ้างลุงนะ ไม่ใช่บอกว่าของรัฐบาล)
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ใช่สลิ่มเห็นเองด้วยซ้ำ แค่ลอกมาจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของลุงเท่านั้นเอง
เขาโฆษณาชวนเชื่ออะไรออกมา สลิ่มก็ก็อปมาเย้ว ๆ ต่อ เท่านั้นเอง
ว่าก็ว่าเถุอะ ครบปีแล้ว ไทยกับซาอุเป็นไง
อวยกันสะบัด แล้วไปถึงไหนหรือยัง
รถไฟความสูงถึงไหน
มี ม.44 เป็นรัฐาธิปัตย์ ปฏิรูปอะไรก็ไม่ได้ ปราบโกงก็ไม่มี
แล้วตอนนี้ ที่ใกล้จะมีการเลือกตั้ง ทำขึงขังปราบโกง
จะไปต่อ
ถามหน่อย จะไปไหน
ดั้นไปเรื่อย ต้องไป เพราะหาทางกลับไม่เจอใช่ไหม
.
"ผลงาน" มาจากวิสัยทัศน์ ทำในสิ่งที่เกิดประสิทธิภาพมีประสิทธิผล
ไม่ใช่สักแต่ว่าทำอะไรขึ้นมาก็อ้างว่าเป็นผลงาน
และไม่ใช่ยิ่งทำยิ่งแย่ลง เช่น บัตรคนจน ยิ่งทำยิ่งคนจนมากขึ้น ๆ
นั่นเพราะเน้นที่ผลทางการเมือง ไม่ใช่เน้นผลทางคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน
แถมแย่งกันซะแล้ว ไม่ถึงไหนเลย
ลุงหนึ่งก็บอกว่าจะเพิ่ม ลุงหนึ่งก็ออกมาย้อนว่าฉันนะเป็นคนคิด
ขี้ประติ๋วแต่นี้ ยังแย่งกันแล้ว
จึงน่าคิดนะครับ ว่า ไปต่อ ๆ ๆ นี่
จะไปไหน
สลิ่มชน แยกแยะคำว่า "ผลงาน" กับ "งานประจำ" ไม่เป็น
เป็นปัญหาของสลิ่มชนมาโดยตลอดอยู่แล้ว
น่าเห็นใจ