ก่อนอื่นเลยเรื่องที่จะเล่าเกี่ยวกับครอบครัวเราเองค่ะเรามีพี่น้อง3คนซึ่งคนละพ่อแต่โตมาด้วยกัน จขกท.เป็นลูกคนกลาง
-พี่ชายทำงานที่ต่างประเทศ(ไปกับกรมแรงงาน)
-เราว่างงาน(มีเขียนนิยายลงแอพต่างๆบ้างพอได้ค่าแพมเพิสลูก)เลี้ยงลูกอยู่ กทม.
-น้องสาวทำงานประจำอยู่ กทม.
จขกท.เป็นคนเงียบๆมาตั้งแต่เด็กเอาง่ายๆคือไม่เกเรตั้งใจเรียนมาโดยตลอด ก่อนหน้าเราทะเลากับพี่ชายมาก่อน(ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ) ล่าสุดน้องสาวทะเลาะกับพี่ชายอีกเหตุผลหลักเลยที่ทะเลาะคือเรื่องเงินค่ะ เรากับน้องสาวอยากให้พี่ชายช่วยฉุดดึงพ่อและแม่ให้หลุดพ้นจากความยากจนซึ่งตอนนี้ยังทำงานหนักทั้งที่ได้ชื่อว่าลูกไปทำงานเมืองนอกเพราะพี่ชายมีโอกาสมากกว่าพี่น้องคนอื่นอย่างน้อยไปทำงานที่ต่างประเทศก็ได้เงินเยอะกว่าที่ไทยอยู่แล้ว(ซึ่งระหว่างเดือนพี่ก็โอนเงินมาให้แม่ที่เลี้ยงลูกให้พี่ชายโอนมาไม่เกิน5000 พอกลับมาพักผ่อนที่บ้านก็แทบไม่ได้ยื่นให้แม่เลยแต่กลับขอเงินแม่เวลาจะออกไปกินเหล้าไปเที่ยวกับเมียใหม่ เราอยากให้พี่คิดได้ว่าก่อนที่จะไปทำงานที่เมืองนอกแม่เป็นคนเอาบ้านไปจำนองไปกู้หนี้ยืมสินมาถึงได้ไปนอก แต่พอได้ไปพอมีเงินแล้วนิสัยกลับเปลี่ยนไป)น้องเราทำงานเงินเดือน12000บาทโอนให้แม่ใช้บ้างทุกเดือน ส่วนเราแฟนทำงานประจำก็มีโอนให้แม่ใช้บ้างในแต่ละเดือน ครั้งล่าสุดที่น้องเราทะเลาะกับพี่ชายแม่โทรมาหาเราให้เราบอกน้องว่าอย่าไปว่าอะไรพี่มีอะไรก็เก็บไว้ในใจไม่ต้องพูดออกไปซึ่งเป็นคำเดียวกับที่พูดตอนที่เราทะเลาะกับพี่ชายเป๊ะคำถามคือ
- ทำไมแม่เลือกที่จะโทรมาหาเรากับน้องแล้วบอกให้เราอดทนไม่ต้องไปว่าอะไรให้พี่ทั้งที่แม่ก็ยังมาบ่นเรื่องพี่ชายให้เรากับน้องฟังทำไมไม่ไปบอกไปว่าลูกชายแม่เอง
-ปกติ จขกท.เป็นคนที่เงียบและเก็บความรู้สึกเก่งสุดวันนั้นเลยฟิวส์ขาดบอกแม่ว่างั้นต่อไปนี้เวลาแม่มีเรื่องอะไรแม่ก็ไม่ต้องโทรมาเล่าให้เราฟังแม่เลยตัดสายไปและไม่โทรหาเราอีกเลยทั้งที่ปกติโทรแทบทุกวัน(ตอนนั้นเราเหมือนน้ำเต็มแก้วที่เก็บจนล้นหลายๆเรื่องที่เราทำให้แม่ความหวังดีเหมือนบางทีแม่ไม่เคยเห็นเหมือนทำแล้วมันสูญเปล่า อย่างเวลาที่เรากลับบ้านที่ต่างจังหวัดเสื้อผ้าทั้งของแม่และพ่อเลี้ยงเราก็เป็นคนซักให้ ตื่นเช้ามาหุงข้าว ล้างจาน ซึ่งล่าสุดตอนแม่เข้าผ่าตัดเราก็กระเตงลูกน้อย3เดือนจากกรุงเทพกลับบ้านเพื่อไปอยู่ดูแลแม่ ซึ่งพอแม่ออกจาก รพ.พ่อเลี้ยงก็ทะเลาะกับแม่(ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก)และมาทิ้งแม่ไปแถมยังเสพยาเมามายมาทุบบ้านด่าทอเราเสียๆหายๆว่าเราคนอย่างเราเลี้ยงลูกไม่โต เลี้ยงลูกสัตว์ดีกว่าเลี้ยงเรา ว่าเราชั่ว แถมยังพาลขู่จะฆ่าลูกเราที่นอนหลับในเปลอีก (เราโทรแจ้งความแต่ตำรวจบอกเรื่องภายในครอบครัว)ทุกวันนี้แม่โกรธไม่คุยกับเราเรื่องที่เราพูดและตัดสายไปวันนั้นแต่เลือกที่จะให้อภัยและคืนดีกับพ่อเลี้ยงคนนั้น เวลาเราโทรไปก็ไม่คุยยื่นโทรศัพท์ให้ลูกเราคุยกับเรา เราควรเอาลูกคนโตมาเลี้ยงเองและอยู่เงียบๆไปเลยดีไหมตอนนี้เรารู้สึกแย่มากค่ะเราเป็นลูกที่แย่มากเลยใช่ไหมคะ เราควรจัดการกับความรู้สึกเรายังไงดี?
#ปล...ยาวหน่อยนะคะแต่พอได้มาพิมพ์อะไรแบบนี้ก็เหมือนได้ระบายความรู้สึกและรู้สึกไม่ได้โดดเดี่ยวทั้งที่สามีก็คอยปลอบอยู่ตลอด ขอบคุณล่วงหน้าที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
เราควรจัดการกับความรู้สึกยังไงดีคะ?ทั้งที่บางทีเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากเรา
-พี่ชายทำงานที่ต่างประเทศ(ไปกับกรมแรงงาน)
-เราว่างงาน(มีเขียนนิยายลงแอพต่างๆบ้างพอได้ค่าแพมเพิสลูก)เลี้ยงลูกอยู่ กทม.
-น้องสาวทำงานประจำอยู่ กทม.
จขกท.เป็นคนเงียบๆมาตั้งแต่เด็กเอาง่ายๆคือไม่เกเรตั้งใจเรียนมาโดยตลอด ก่อนหน้าเราทะเลากับพี่ชายมาก่อน(ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ) ล่าสุดน้องสาวทะเลาะกับพี่ชายอีกเหตุผลหลักเลยที่ทะเลาะคือเรื่องเงินค่ะ เรากับน้องสาวอยากให้พี่ชายช่วยฉุดดึงพ่อและแม่ให้หลุดพ้นจากความยากจนซึ่งตอนนี้ยังทำงานหนักทั้งที่ได้ชื่อว่าลูกไปทำงานเมืองนอกเพราะพี่ชายมีโอกาสมากกว่าพี่น้องคนอื่นอย่างน้อยไปทำงานที่ต่างประเทศก็ได้เงินเยอะกว่าที่ไทยอยู่แล้ว(ซึ่งระหว่างเดือนพี่ก็โอนเงินมาให้แม่ที่เลี้ยงลูกให้พี่ชายโอนมาไม่เกิน5000 พอกลับมาพักผ่อนที่บ้านก็แทบไม่ได้ยื่นให้แม่เลยแต่กลับขอเงินแม่เวลาจะออกไปกินเหล้าไปเที่ยวกับเมียใหม่ เราอยากให้พี่คิดได้ว่าก่อนที่จะไปทำงานที่เมืองนอกแม่เป็นคนเอาบ้านไปจำนองไปกู้หนี้ยืมสินมาถึงได้ไปนอก แต่พอได้ไปพอมีเงินแล้วนิสัยกลับเปลี่ยนไป)น้องเราทำงานเงินเดือน12000บาทโอนให้แม่ใช้บ้างทุกเดือน ส่วนเราแฟนทำงานประจำก็มีโอนให้แม่ใช้บ้างในแต่ละเดือน ครั้งล่าสุดที่น้องเราทะเลาะกับพี่ชายแม่โทรมาหาเราให้เราบอกน้องว่าอย่าไปว่าอะไรพี่มีอะไรก็เก็บไว้ในใจไม่ต้องพูดออกไปซึ่งเป็นคำเดียวกับที่พูดตอนที่เราทะเลาะกับพี่ชายเป๊ะคำถามคือ
- ทำไมแม่เลือกที่จะโทรมาหาเรากับน้องแล้วบอกให้เราอดทนไม่ต้องไปว่าอะไรให้พี่ทั้งที่แม่ก็ยังมาบ่นเรื่องพี่ชายให้เรากับน้องฟังทำไมไม่ไปบอกไปว่าลูกชายแม่เอง
-ปกติ จขกท.เป็นคนที่เงียบและเก็บความรู้สึกเก่งสุดวันนั้นเลยฟิวส์ขาดบอกแม่ว่างั้นต่อไปนี้เวลาแม่มีเรื่องอะไรแม่ก็ไม่ต้องโทรมาเล่าให้เราฟังแม่เลยตัดสายไปและไม่โทรหาเราอีกเลยทั้งที่ปกติโทรแทบทุกวัน(ตอนนั้นเราเหมือนน้ำเต็มแก้วที่เก็บจนล้นหลายๆเรื่องที่เราทำให้แม่ความหวังดีเหมือนบางทีแม่ไม่เคยเห็นเหมือนทำแล้วมันสูญเปล่า อย่างเวลาที่เรากลับบ้านที่ต่างจังหวัดเสื้อผ้าทั้งของแม่และพ่อเลี้ยงเราก็เป็นคนซักให้ ตื่นเช้ามาหุงข้าว ล้างจาน ซึ่งล่าสุดตอนแม่เข้าผ่าตัดเราก็กระเตงลูกน้อย3เดือนจากกรุงเทพกลับบ้านเพื่อไปอยู่ดูแลแม่ ซึ่งพอแม่ออกจาก รพ.พ่อเลี้ยงก็ทะเลาะกับแม่(ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก)และมาทิ้งแม่ไปแถมยังเสพยาเมามายมาทุบบ้านด่าทอเราเสียๆหายๆว่าเราคนอย่างเราเลี้ยงลูกไม่โต เลี้ยงลูกสัตว์ดีกว่าเลี้ยงเรา ว่าเราชั่ว แถมยังพาลขู่จะฆ่าลูกเราที่นอนหลับในเปลอีก (เราโทรแจ้งความแต่ตำรวจบอกเรื่องภายในครอบครัว)ทุกวันนี้แม่โกรธไม่คุยกับเราเรื่องที่เราพูดและตัดสายไปวันนั้นแต่เลือกที่จะให้อภัยและคืนดีกับพ่อเลี้ยงคนนั้น เวลาเราโทรไปก็ไม่คุยยื่นโทรศัพท์ให้ลูกเราคุยกับเรา เราควรเอาลูกคนโตมาเลี้ยงเองและอยู่เงียบๆไปเลยดีไหมตอนนี้เรารู้สึกแย่มากค่ะเราเป็นลูกที่แย่มากเลยใช่ไหมคะ เราควรจัดการกับความรู้สึกเรายังไงดี?
#ปล...ยาวหน่อยนะคะแต่พอได้มาพิมพ์อะไรแบบนี้ก็เหมือนได้ระบายความรู้สึกและรู้สึกไม่ได้โดดเดี่ยวทั้งที่สามีก็คอยปลอบอยู่ตลอด ขอบคุณล่วงหน้าที่เข้ามาอ่านกันนะคะ