ครอบครัวไม่ปล่อย

สวัสดีค่ะ อยากให้ทุกคนลองอ่านแล้วช่วยพิจารณาดูนะคะ แล้วดราก็มีคำถามมากมายตอนท้าย ได้โปรดช่วยเราด้วยนะคะ
ตอนนี้เราอายุ21ย่าง22เรียนอยู่มหาลัยปี3ค่ะ
-ครอบครัวเรา ไม่ปล่อยให้ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ว่าจะหลังเลิกเรียน หรือกลางคืน แม่จะโทรตามเราทุกวัน เวลา4-5โมง จะโทรจี้ว่ากลับบ้านหรือยัง ถ้าเขารู้ว่าเราออกไปข้างนอก เขาจะโทรตามเรากลับบ้าน ด่าบ้าง พิมพ์toxicบั่นทอนจิตใจเรามากๆ เราเป็นคนกลัวแม่มากกกกที่สุดในหัวใจเลยค่ะ เพราะตอนเด็กๆโดนบังคับทำนู่นนี่ พอทำให้แม่ไม่พอใจจะโดนทุบตีตบหน้าไม่ยั้ง เลยฝังใจเป็นคนกลัวแม่ ไม่กล้าขัดใจเลยค่ะ แล้วเราก็ทำงานบ้านหนักมากๆตั้งแต่ม.ต้น เพราะแม่เป็นคนไม่ทำงานบ้านไม่หยิบจับอะไรขี้เกียจมากๆ ชอบใช้เราเกาเท้าให้ทุกคืนตั้งแต่เล็กๆ 
-แต่พ่อเราใจดีนะคะไม่ได้บังคับเหมือนแม่
-ตั้งแต่เด็กเวลาเรามีปัญหาที่โรงเรียน ความเป็นเด็กก็จะฟ้องแม่ตามประสาเด็ก แม่กับยายก็จะบุกไปเอาเรื่องที่โรงเรียนตลอด (บ่อย) เราค่อยข้างขี้ฟ้อง555 เราเลยโดนเพื่อนไม่คบตั้งแต่ประถม ครูก็ไม่ชอบหน้า สั่งเพื่อนๆห้ามคุยกับเรา เราทนจนจบป.6 
-ม.ต้นถึงม.ปลายก็ไม่มีเพื่อนคบ เพราะนิสัยไม่เข้าสังคม กลัวสังคม แม่ให้ลุงมารอรับหน้าโรงเรียนตรงเวลาทุกวัน
-เวลาแม่ไม่พอใจอะไรมาจะมาลงที่เราตลอด จะแชทมาด่าพูดบั่นทอนเราบ่อยมากๆๆตั้งแต่ม.ปลาย ทำให้เรายิ่งกลัวเขาไม่กล้าขัดใจอะไรเลย เขาใช้อะไรทำมด เขาสั่งอะไรต้องทำตามคำสั่ง อย่างเช่น มีปัญหากับที่บ้าน เขาแชทมาว่าเราว่า จะไปตายที่ไหนก็ไป ไม่ใช่ลูกกู กูไม่นับเป็นลูก กูนับน้องเป็นลูกกูคนเดียว มันตัวปัญหาอีส** ชิบ*** ยาวววหลายบรรทัดบางทีโทรมาด่าขณะเราเรียน ต้องออกไปร้องไห้นอกห้องเรียน พอกลับบ้านไปเจอหน้าเขาเขาจะปะชดกระแทกนั่นนี่ อึดอัดมาก
-ม.ปลาย เราเห็นเพื่อนๆไปห้างหลังเลิกเรียนกัน เราก็อยากไปบ้างเพราะเพื่อนชวนแล้วไม่เคยได้ไปเลย เราปฏิเสธตลอดด้วยคำว่า ไปไม่ได้แม่ไม่ให้ไป
-เราลองโทรไปหาแม่หลังเรียนเสร็จ "แม่หนูขอไปห้าง...กับเพื่อน4คนนะ มี(พูดชื่อเพื่อน) รายงานครบ ไปชม.เดียว จะรีบกลับ แม่ : ไม่!!กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยไม่ต้องไป(วางสาย) เรา : ยืนร้องไห้รู้สึกแตกต่างจากคนอื่น อยากไปแบบเป็นแก๊งค์กะเพื่อนๆ 
เป็นแบบนี้มาตลอด ได้แต่มองคนอื่นอัพรูปลงเฟสไปเดินเล่นกันที่ห้าง
-ขอพูดตรงนี้ว่าทำงานบ้านหนักมากๆต้องดูแลสองบ้าน ทำแม้กระทั่งตากผ้าพับผ้าให้สมาชิกทุกคนในบ้าน ยาย ย่า พ่อ แม่ น้อง พี่ น้า ล้างจาน โดนใช้หยิบนั่นนี่อยู่ตลอด อยู่ติดบ้าน เพราะเขาไม่ให้ออกไปไหน
-แล้วตั้งแต่เด็กๆยายกับแม่จะบงการทุกอย่างของเรา ว่าต้องเรียนพิเศษ ต้องไปเรียนเสริมหลายที่และวันหยุด ต้องเรียนความสามารถนั่นนี่ ต้องตื่นตี3-4บางวันเพื่อแต่งหน้าแต่งตัวไปแสดงงานโชว์ข้างนอก เขาจะตัดสินใจทุกอย่างแทนเราจนโต โดยไม่ถามเราสักคำ ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร ต้องเรียนอันนั้นอันนี้ ต้องการอะไรไม่ต้องการอะไร เขาจะเป็นคนตัดสินใจแทนเราทุกเรื่อง
-ขึ้นมหาลัยปี1 เราตั้งใจสอบที่ไกลๆ เพื่อไปอยู่หอ เราสอบติดที่ชลบุรีกับเพื่อนสนิทคนนึง เราดีใจมาก ตอนแรกที่บ้านรับไม่ได้ที่ต้องไปอยู่ไกล แต่มันจำเป็นจนพวกเขายอม เขาก็ไปส่งเราวันมอบตัวมหาลัย พอเรามอบตัวเสร็จ แม่บอกว่า เลือกหอให้แล้ว เลือกห้องให้แล้ว ซึ่งเราตกใจว่าทำไมไม่ปรึกษาเราก่อน เขาก็พาเราไปดูห้องในหอ ห้องเล็กแคบมากอยู่ชั้นล่างติดประตูทางเข้าเลย แล้วเขาก็บอกว่า ให้เพื่อนสนิทเราอยู่ห้องด้วยเป็นรูมเมทไปเลย ไม่ต้องจ่ายค่าห้องน้ำไฟนะ ทางบ้านเราจะจ่ายเองขอแค่อยู่กับเราเพราะไม่อยากให้เราอยู่คนเดียว เห้อ... พออยู่กันไปเรื่อยๆอยู่ไม่รอด!! นิสัยต่างกัน มาอยู่ด้วยกัน รูมเมทสกปรก ไม่ช่วยประหยัดน้ำไฟ กลางคืนไม่หลับนอนเปิดเพลงร้องเพลงเสียงดัง ไม่ช่วยทำความสะอาด ชอบพาเราเสียเงินค่าของกิน ยืมเงินไม่จ่าย บลาๆๆหลายอย่าง ทำให้เราอดนอนทุกวัน บวกกับเราไม่มีเพื่อนที่มหาลัย เราพยายามเข้าหาแต่พวกเขาตีตัวออกจากเรา เขาทำเหมือนเราไม่มีตัวตน พวกเขาบ้าเกาหลีเลยอยู่ด้วยกันได้ ยิ่งเมาท์ยิ่งมันส์ปากกัน แต่เราไม่ใช่ติ่งเกาหลีทำให้คุยไม่ค่อยสนุก เขาคุยกันเรื่องแบบนี้ตลอดจนลืมว่ามีเรา... ขนาดเราพูดบ๊ายบายเขายังไม่หันมามองกันเลย เดินร้องไห้กลับหอตากฝนไปอีก จนไม่มีอารมณ์ไปเรียนที่มอ เราหยุดไปหลายวัน และสาขาที่เรียนอยู่เรียนไม่รู้เรื่อง รู้สึกว่ามาผิดทาง ทำข้อสอบไม่ได้ สิ่งที่เรียนไม่เข้าหัวเลย+ไม่ชอบ เห้อออผิดทางจริงๆ สุดท้ายทนไม่ไหวร้องไห้โทรหาพ่อบอกว่าอยากกลับบ้าน... โดนที่บ้านด่าไปหลายยกแต่ก็ยอม สุดท้ายได้กลับบ้านตัวเอง เพราะความอยากอิสระของเราแท้ๆ
-ลืมบอกเรามีแฟนตอนม.4 เพราะความวัยรุ่นอะเนอะ มีแฟนเล่นๆ แต่ดันคบนานเฉยเลย ตอนนี้คบกันได้6ปีแล้ว ขณะคบเขาชวนเราไปที่นู่นที่นี่ กินที่นั่นนี่ แต่เราไปไม่ได้ เพราะที่บ้านไม่ให้ออกข้างนอก เราสงสารเขาที่ต้องมาอดทนอะไรแบบนี้ การออกไปเที่ยวกับแฟนเป็นเรื่องปกติอะเนอะ เราต้องแอบนัดเจอกันตอนเช้าตอนก่อนเข้าเรียน เขาขับมารอเราข้างโรงเรียนเพื่อคุยกันสักแปปแล้วเขาก็จะไปเพราะมันถึงเวลาเรียนแล้ว บางทีเขามารอเราหน้าโรงเรียนตอนเย็นเราได้เจอเขาก็ดีใจได้คุยสักแปป พอลุงมารับเราต้องรีบเดินหนีเขาเพื่อนั่งรถกลับบ้าน ไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีแฟน เพราะที่บ้านไม่ให้มีแฟน แฟนเราบอกว่าจะอดทนรอ จนกว่าที่บ้านเราจะยอมรับ
-เราแอบนัดเจอกันมาตลอดจนเราเรียนจบม.6 พอเราอยู่มหาลัย เขาขับรถมาหาเราที่ชลบุรีนานๆครั้ง เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันแบบไม่ต้องระแวง แต่ก็กลัวแม่โทรมาหาบ้างแหละ555 แต่ก็ยังดีกว่าตอนอยู่กทม มีความสุขมากครั้งแรกที่ได้ออกมาเดินตลาดด้วยกันนั่งกินคาเฟ่กัน เรารู้สึกดีมากๆ แต่เสียดายอยู่ที่ชลบุรีได้ไม่นาน.
-พอเราดรอปเรียนออกมา แฟนเราทำงานอยู่ปั๊ม เราเลยไปสมัครอเมซอนที่อยู่ในตัวปั๊ม เพื่อเจอหน้าแฟน แล้วเราก็ได้ทำงานที่นั่น แล้วมีอยู่วันนึงแม่เรามาหาเราที่ทำงาน แล้วเขาพอรู้มาบ้างแล้ว ว่าเราแอบมีแฟน น่าจะเห็นในเฟสบุ๊ค แล้วเขาก็จำหน้าแฟนเราได้ เขารู้ได้ไงอี๊กว่าแฟนเราทำงานที่นี่ เขามาหาเราที่ทำงาน เห็นหน้าแฟนเราอีก เขาเดินเข้ามาถามเราว่า ทำงานที่นี่เพื่อแฟนเหรอ?? เราก็อ้ำอึ้ง จากนั้นแม่ขอเรียกพบผู้จัดการ แม่เราพูดกับผู้จัดการว่าห้ามให้เรายุ่งกับผชคนนั้นเด็ดขาด ห้ามให้เขาติดต่อกัน เขาโวยวายแบบโมโห 
-เราโดนคนที่ทำงานกดดันโดนแกล้ง นิสัยพวกเขาแย่สุดๆ เราอ่อนแอ เพราะไม่เคยมาโลกข้างนอก ทำให้เราเปราะบางมาก ทนไม่ไหว เลยลาออกไปอยู่สาขาอื่น
-แฟนเราเปลี่ยนงานมาวิ่งมอไซค์ แล้วมีอยู่วันนึง เราอยากออกข้างนอกกับแฟนบ้าง เราโกหกที่บ้านว่าวันนั้นไปทำงาน แต่จริงๆแล้วตารางงานวันนั้นเราได้หยุด พอเราไปทำงานกับแฟน(ส่งอาหาร) ความบังเอิญที่บ้านเรามาหาดูเราที่ทำงาน เห็นเราไม่อยู่ เลยถามพนักงานในนั้นว่าเราไปไหน แล้วพนักงานที่นั่นบอก "วันนี้ตารางน้องหยุดนะคะ" นั้นแหละ ความวายวอดมาเลย เขาโทรจี้เรากันตั้งแต่ยายยันพ่อ โดยเฉพาะแม่ โทรมาด่าแบบเหมือนเราไปฆ่าใคร สั่งเรากลับบ้านมาคุยเดี๋ยวนี้พร้อมเอาแฟนมาด้วย เรากับแฟนจับมือกันตัวสั่น พอถึงบ้านเราสองคนโดนสั่งห้ามติดต่อกันห้ามเจอกัน เราโดนกักกันหนักกว่าเดิม เราผิดเองที่โกหก แต่ที่เราโกหกก็เพราะที่บ้านเป็นแบบนี้...
-ตอนนี่เราคบกับแฟนได้6ปีกว่าแล้ว มหาลัยปี3แล้ว ก็ยังไม่กล้าออกไปไหน เพราะกลัวที่บ้านโทรตาม พอเกิน5โมง จะเริ่มโดนโทรจี้กลับบ้าน ถามว่าอยู่ไหนทำอะไรกับใครจะกลับตอนไหน พอเราไม่รับสาย กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ผลัดกันโทรจี้ทั้งบ้าน บางทีเราเลิกเรียนไว แอบไปห้างแบบเงียบๆ พอถึง5โมงก็รีบกลับบ้าน 
-ลืมเล่าว่า ตอนเรียนมหาลัยปีแรก มีเพื่อนนะ แต่เพื่อนใช้เราเป็นเบ๊เลย แต่เรายอม เพราะเรากลัวไม่มีเพื่อนเพราะที่ผ่านมาไม่มีใครคบมาตลอดเรากลัวการไม่มีเพื่อน ยอมโดนใช้ ยอมแบกของ ยอมให้เขารุมด่า ยอมทำการบ้านให้ ยอมบอกข้อสอบ ยอมเป็นตัวบอกงานทุกอย่างเพื่อมีเพื่อน แอบร้องไห้หลังเลิกเรียนทุกวันเพราะสาหัสจริงๆ พวกเขาชวนเราไปข้างนอก เราก็บอกไปไม่ได้ที่บ้านไม่ให้ไป ก็ยิ่งโดนด่าโดนเกลียดเข้าไปใหญ่
-วันเกิดเพื่อน เพื่อนให้ไปกินกลางคืนกันแบบครบๆ เราเป็นตัวปัญหาอยู่คนเดียวที่ไปไม่ได้ทำให้เพื่อนๆรู้สึกแย่ ขนาดตอนเช้ายังออกนอกไม่ได้เลยจะเอาอะไรกับมืดๆ เวลาเพื่อนชวนไปเที่ยวทะเล ห้าง เกาะ นอนพักค้างคืน ก็ยิ่งไปไม่ได้ พยายามขอแล้วเขาไม่ให้ไป แต่ถ้าตื๊อขอร้องล่ะโดนด่าเละ
-ตอนนี้มหาลัยปี3 ชีวิตก็ยังเป็นแบบเดิม ทำงานบ้านหนัก ไม่ได้ออกข้างนอก เหมือนตัวคนเดียว โดนแม่ข่มทุกวัน กลัวแม่มากๆ ยังแอบคบกับแฟนอยู่
คำถามคือ
1.ถ้าเราเรียนจบแล้ว ที่บ้านจะปล่อยเรามั้ย เพราะเราเคยถามเขาแล้วว่าถ้าเราเรียนจบจะให้ออกไปเที่ยวได้ไหม เช่าห้องได้ไหมเขาก็บอกว่า ถ้าเที่ยวก็ต้องกลับบ้านไม่เกิน6โมง ต้องคอยรายงานตลอด ห้ามคุยกับผู้ชายห้ามไปไหนกับผู้ชาย ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ให้ออกไปไหน เรื่องเช่าห้องเหรอเหอะ คิดว่าจะให้เหรอ.. นั้นสิเอาอะไรกับไปเช่าห้อง
2.แฟนเรารอเรามาตลอดเขาบอกว่าถ้าเราเรียนจบมาอยู่กับเขานะ เรารู้เราไม่ควรฝากชีวิตไว้กับใคร เราเช่าห่องอยู่คนเดียวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องกับแฟน เราแค่อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง
3.สมัยนี้มีแฟน/อยู่หอกับแฟนเป็นเรื่องปกติไปหมดแล้ว แล้วทำไมเขาถึงยังห้ามเรา เราเห็นเพื่อนอยู่กะแฟนไปเที่ยวกะแฟน อิจฉามากๆ 
4.เราพูดอ้อมๆกับทางบ้านว่าทำไมเพื่อนถึงอยู่เช่าห้องกะแฟนได้ เขาก็บอกว่าก็ผู้หญิงพวกนั้นทำตัวไม่มีค่า แล้วเขาก็บอกเราว่าอย่าโง่ไปเสียตัวให้ใคร.. ซึ่งเราคิดว่าสมัยนี้มีพสพ.เป็นเรื่องปกติขอแค่ป้องกันดูแลตัวเองได้ก็พอ แต่พวกเขาไม่ยอมรับว่าเรื่องพวกนี้ปกติ งั้นเราก็ไม่ควรปรึกษาเขาเรื่องแบบนี้ใช่มั้ย
5.เราควรทำยังไงถึงจะหนีพ้น รอเรียนจบแล้วทำยังไงต่อที่จะหลีกหนีได้ เพราะที่บ้านขาดเราไม่ได้ ไม่มีใครทำงานบ้าน ที่บ้านจะเป็นยังไง เห้อเป็นห่วง ไม่หมดห่วง เวลาเราไปไหนจะกระวนกระวายตลอด ระแวงด้วย555
6.เราไม่กล้าหนีออกไปเช่าห้อง เราใจไม่ถึง เรากลัวที่บ้านเข้าไส้เลยโดยเฉพาะแม่ เราไม่กล้าออกกรอบไปไหนเลย ทำยังไงดี เราขจัดความกลัวไม่ได้ เราเรียนจบเราควรทำยังไงต่อให่พ้นจากตรงนี้
-เราเรียนจบจะทำงานเพื่อรักษาบำบัดสุขภาพจิตเพราะเราเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง ทำร้ายตัวเอง พยายามฆตตหลายครั้ง หมอเคยเรียกแม่เราไปพบ แม่เราโวยวายใส่หมอว่าเราโกหก คิดไปเอง และแม่ก็ไม่พาเราไปบำบัดอีกเลย ทำให้เราขาดยาต่อเนื่อง จนเกิดอาการต่างๆ เราเลยคิดว่าเรียนจบจะส่งตัวเองไปบำบัดด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งพาใคร
-เราเคยพยายามฆตต เราพิมพ์บอกลาพี่สาว แล้วพี่สาวโทรบอกแม่ แม่เข้ามาลากเราไปห้องแม่ แล้วแม่ก็ถามว่าอยากตายนักใช่มั้ยเอาเชือกไปผูกคอมั้ยจะหยิบให้ เสียงเขาโมโหมากทำให้เรากลัวเลยไม่กล้าทำ
-ทุกวันนี้เขาจะโทรปลุกเราทุกเช้า จนสุขภาพจิตเราเสีย เราเป็นเด็กทุนมหาลัย เรียนหนักมากกิจกรรมเยอะทำงานบ้านหนักกลับมาถึงบ้านก็หยิบจับไม้กวาดเลย ทำให้เราเพลีย เป็นเลือดจาง นอนไม่พอ เป็นซึมเศร้าอีก ทำให้เราหลับนานกว่าปกติ เเต่โดนปลุกทุกๆเช้า ทำให้เราเพลียหนักทุกวัน ไม่มีวันได้พักผ่อน(โทรปลุกเพื่อให้ตื่นมาทำงานบ้าน) ขนาดแม่หิวน้ำยังใช้เราหยิบให้ดื่ม จนทุกวันนี้หลอนเสียงโทรศัพท์มากๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่