ท่านชัชชาติช่วงชีวิตการทำงานของแกส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารหน่วยงานเอกชน การบริหารย่อมเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง
เมื่อพูดถึงข้าราชการ กทม. สมัยผู้ว่าอัศวินจนถึงผู้ว่าชัชชาติ ไม่ว่าจะเป็น เทศกิจ คนดูแลคลอง
คนดูแลสวน ย่อมเป็นคนเดียวกันทำหน้าที่เดียวกัน ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลทางเท้าห้ามมิให้แม่ค้ามาตั้งขายของ หน้าที่ดูแล
สภาพน้ำในคลองต่างๆ หน้าที่ดูแลสวนต่างๆ บลาๆๆ
ท่านชัชชาติแกน่าจะรู้ว่าข้าราชการ กทม หรือข้าราชการโดยทั่วไป การทำงานจะแตกต่างกับหน่วยงานเอกชนโดยสิ้นเชิง
หน่วยงานเอกชนบุคลากรทำหน้าที่เสมอต้นเสมอปลายแม้จะเปลี่ยนผู้บริหารกีคนก็ตาม แต่ จนท.ข้าราชการพอเปลี่ยนผู้บริหาร
คนปฏิบัติก็เริ่มดูท่าทีในความเข้มงวดของผู้บริหาร ถ้าผู้บริหารไม่เข้ามาจี้หรือมาสั่งการซ้ำ ย่อมเปลี่ยนแปลงใน
รูปแบบการทำงานทันที ดูได้จากผลลัพท์ ณ ปัจจุบัน ทั้งๆ ที่ คนปฏิบัติก็คนเดียวกันแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทางเท้าตอนนี้
เทศกิจก็คนเดียวกันเหมือนเมื่อก่อนแต่ทำไมถึงทำให้ทางเท้าเป็นอย่างนี้ไปได้ สวนเบญฯ สภาพโทรมไปอย่างมาก
จนท.คนเดียวกันใยไม่ทำเหมือนเมื่อก่อน
สุดท้ายแล้วการบริหารหน่วยงาน จนท.รัฐ มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกันเอกชน ถ้าชุดบริหารผู้ว่าคนใหม่ยังบริหาร
อยู่อย่างนี้เชื่อว่า กทม. พัฒนาแบบถอยหลังอย่างแน่นอน เหลือเวลาอีก 3 ปีกว่าไม่อยากจะนึกสภาพตอนนั้นเลย
การที่จะทำให้ กทม.พัฒนามากกว่าเดิม ผู้บริหารตำแหน่งต่างๆ จะต้องสั่งการ เน้นย้ำ จนท.ระดับปฏิบัติการ หรือตำแหน่งลงมา
ให้ทำหน้าที่ที่ควรจะทำ
ปล.ผู้ว่าอัศวินแกเป็นตำรวจมาเป็นผู้บริหารบุคลากรตั้งแต่ ตำแหน่ง ผกก. จนถึง รอง ผบ.ตร. ประสบการณ์ การเรียนรู้
การเข้าถึงนิสัยลูกน้อง เข้าถึงการทำงานของลูกน้องที่ทำงานแบบข้าราชการแกย่อมรู้ถึงข้อด้อย ข้อเสีย พอมาเป็น
ผู้ว่า กทม. แกสามารถสั่งการ เน้นย้ำ เข้าไปจี้ มีการเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาประชุมรายงานผลของการสั่งการ จึงทำ
ให้การพัฒนา กทม. สมัยของท่านพัฒนาขึ้นตามลำดับ
ท่านผู้ว่าชัชชาติท่านรู้หรือเปล่าว่าการบริหารบุคลากรหน่วยงานรัฐมันต่างกับหน่วยงานเอกชนเป็นอย่างมาก
เมื่อพูดถึงข้าราชการ กทม. สมัยผู้ว่าอัศวินจนถึงผู้ว่าชัชชาติ ไม่ว่าจะเป็น เทศกิจ คนดูแลคลอง
คนดูแลสวน ย่อมเป็นคนเดียวกันทำหน้าที่เดียวกัน ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลทางเท้าห้ามมิให้แม่ค้ามาตั้งขายของ หน้าที่ดูแล
สภาพน้ำในคลองต่างๆ หน้าที่ดูแลสวนต่างๆ บลาๆๆ
ท่านชัชชาติแกน่าจะรู้ว่าข้าราชการ กทม หรือข้าราชการโดยทั่วไป การทำงานจะแตกต่างกับหน่วยงานเอกชนโดยสิ้นเชิง
หน่วยงานเอกชนบุคลากรทำหน้าที่เสมอต้นเสมอปลายแม้จะเปลี่ยนผู้บริหารกีคนก็ตาม แต่ จนท.ข้าราชการพอเปลี่ยนผู้บริหาร
คนปฏิบัติก็เริ่มดูท่าทีในความเข้มงวดของผู้บริหาร ถ้าผู้บริหารไม่เข้ามาจี้หรือมาสั่งการซ้ำ ย่อมเปลี่ยนแปลงใน
รูปแบบการทำงานทันที ดูได้จากผลลัพท์ ณ ปัจจุบัน ทั้งๆ ที่ คนปฏิบัติก็คนเดียวกันแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทางเท้าตอนนี้
เทศกิจก็คนเดียวกันเหมือนเมื่อก่อนแต่ทำไมถึงทำให้ทางเท้าเป็นอย่างนี้ไปได้ สวนเบญฯ สภาพโทรมไปอย่างมาก
จนท.คนเดียวกันใยไม่ทำเหมือนเมื่อก่อน
สุดท้ายแล้วการบริหารหน่วยงาน จนท.รัฐ มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกันเอกชน ถ้าชุดบริหารผู้ว่าคนใหม่ยังบริหาร
อยู่อย่างนี้เชื่อว่า กทม. พัฒนาแบบถอยหลังอย่างแน่นอน เหลือเวลาอีก 3 ปีกว่าไม่อยากจะนึกสภาพตอนนั้นเลย
การที่จะทำให้ กทม.พัฒนามากกว่าเดิม ผู้บริหารตำแหน่งต่างๆ จะต้องสั่งการ เน้นย้ำ จนท.ระดับปฏิบัติการ หรือตำแหน่งลงมา
ให้ทำหน้าที่ที่ควรจะทำ
ปล.ผู้ว่าอัศวินแกเป็นตำรวจมาเป็นผู้บริหารบุคลากรตั้งแต่ ตำแหน่ง ผกก. จนถึง รอง ผบ.ตร. ประสบการณ์ การเรียนรู้
การเข้าถึงนิสัยลูกน้อง เข้าถึงการทำงานของลูกน้องที่ทำงานแบบข้าราชการแกย่อมรู้ถึงข้อด้อย ข้อเสีย พอมาเป็น
ผู้ว่า กทม. แกสามารถสั่งการ เน้นย้ำ เข้าไปจี้ มีการเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาประชุมรายงานผลของการสั่งการ จึงทำ
ให้การพัฒนา กทม. สมัยของท่านพัฒนาขึ้นตามลำดับ