เมื่อสติ... ตั้งตัวได้ไม่พลั้งเผลอ มีความจดจ่อต่อเนื่องกันอยู่เสมอ

กระทู้คำถาม
"เมื่อสติ...
ตั้งตัวได้ไม่พลั้งเผลอ มีความจดจ่อต่อเนื่องกันอยู่เสมอ 
ไม่ยอมให้ขณะจิตใด ที่จะเพ่นพ่านออกไป 
ด้วยอำนาจของกิเลส ผลักดันให้ออก 
มีเฉพาะอารมณ์ ที่เป็นธรรมบทบริกรรมเครื่องยึดของจิตเท่านั้น 
ให้จิตได้ยึดอารมณ์นั้นเป็นที่พักพิง
เพื่อ...สั่งสมกำลังความสงบ
ถ้ากำหนดอานาปานสติ 
ก็ให้รู้ลมเข้า-ลมออกจริงๆ ด้วยสติ ไม่จำต้อง
ตามลมเข้าไป ตามลมออกมา 
เพียงแต่...มีสติรู้ อยู่...กับลมที่สัมผัสเข้า-ออก
ขณะที่ลมเข้าก็รู้ ลมออกก็รู้ 
มีสติบังคับ อยู่...ที่ประตู แห่งลมออก-ลมเข้านั้นเท่านั้น จิต จะฝืนไปไหนได้
เมื่อถูกบังคับด้วยความเอาจริงเอาจัง ไม่ให้จิตคิดเถลไถลไปกับอารมณ์ต่างๆ ให้อยู่...กับที่ตั้งลม อันจะให้เกิดความสงบ คือ คำบริกรรม หรือลมหายใจ เท่านั้น
จิต จะต้องหยั่งเข้า สู่...
ความสงบ เห็นองค์ของสมาธิได้อย่างแท้จริง ภายในใจดวงที่เคยวุ่นวายมานักต่อนักนี้ โดย
ไม่ต้องสงสัย นี่คือ...วิธีการพิสูจน์หาความจริง ภายในตัวเรา 
จงพากันพิสูจน์ จะทราบความจริงไปโดยลำดับ
ธรรมพระพุทธเจ้า 
ไม่เคยโกหกผู้ใด นอกจากกิเลสจอมโกหก มันจึงโกหกไม่หยุดไม่ถอย จงเห็นโทษของมัน ด้วยการพิจารณาเห็นความจริง 
เรากำลังปฏิบัติ
เพื่อ สมาธิ
เพื่อ ปัญญา
เพื่อ วิมุตติหลุดพ้น 
กิเลส มันโกหกอยู่ในร่องรอย อันเดียวกันนั่นแล 
ฉากเดียวกันนั่นแล ว่า...
สมาธิ จะไม่มี สมาธิ จะไม่เกิดบ้าง 
ปัญญา ไม่มี ปัญญา ไม่เกิดบ้าง 
มรรคผล-นิพพาน หมดสมัยไปนานแล้ว 
อย่าพากันทำให้ลำบากเปล่าบ้าง หมดความสามารถอำนาจวาสนาไม่มีบ้าง เป็นต้น
กิเลสมันลบล้างอย่างนี้ 
โกหกอย่างนี้ จงพากันระวังอย่าให้เสียเปรียบ
มันอีก
เอาให้เห็น ลบล้างกิเลสเหล่านี้ 
ออกให้ได้ ด้วยความพากเพียร อย่าง...เข้มแข็ง บังคับบัญชาด้วยสติให้ดี 
ทำไมจะไม่รู้ พระพุทธเจ้า รู้มาแท้ๆ 
สาวกทั้งหลาย รู้มาแท้ๆ เป็นมาแท้ๆ
ด้วยสมาธิ เป็นพื้นฐานเบื้องต้น 
ทำไมเราจะไม่รู้ จิตแท้ๆ เป็นผู้จะรับรองธรรม
ทั้งหลาย 
ไม่ว่าสมาธิธรรม 
ปัญญาธรรม 
วิมุตติธรรม นอกเหนือไปจากจิต จากสตินี้ไป
ไม่ได้เลย
การบำเพ็ญ ของเรา
ก็บำเพ็ญโดยถูกทางอยู่แล้ว ทำไม ? จะรู้ไม่ได้ 
เมื่อสมาธิ ปรากฏเป็นความสงบขึ้นมา
ให้เห็นอย่างประจักษ์ ต้องหายสงสัยทันที ว่า...
สมาธิ อยู่ที่ไหนแน่ อยู่ในตำรับตำรา หรืออยู่ดินฟ้าอากาศแบบลมๆ แล้งๆ ที่ไหน
จะหมดปัญหาไปทันที 
เพราะความสงบประจักษ์อยู่กับใจ ดวงสงบสุขนี้
แล้วเวลานี้."
----------------------------------------------------------------------
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด
วันที่ ๒๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๓
กิเลสเป็นภัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่