https://etipitaka.com/read/thai/12/196/
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในธรรมที่เรา กล่าวไว้ดีแล้วอย่างนี้ เป็นของตื้นเปิดเผย ปรากฏ แยกขยายแล้ว
ภิกษุเหล่าใด ผู้เป็นธัมมานุสารี เป็นสัทธานุสารี ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด มีปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ดีเป็นที่ไปในเบื้องหน้า.
..
...
https://etipitaka.com/read/thai/13/181/
[๒๓๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัทธานุสารีบุคคลเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล บางคนในโลกนี้ ไม่ได้ถูกต้องวิโมกข์อันละเอียด
คือ อรูปสมาบัติล่วงรูปสมาบัติด้วยกายอยู่
แต่อาสวะบางเหล่าของผู้นั้นสิ้นไป เพราะเห็น (อริยสัจ) ด้วยปัญญา
อนึ่ง ผู้นั้นมีแต่เพียง ความเชื่อความรักในพระตถาคต
อีกประการหนึ่ง ธรรมเหล่านี้ คือ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ ย่อมมีแก่ผู้นั้น
บุคคลนี้เรากล่าวว่า สัทธานุสารีบุคคล.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า กิจที่ควรทำด้วยความไม่ประมาท ย่อมมีแก่ภิกษุแม้นี้
ข้อนั้น เพราะเหตุไร ?
เพราะเราเห็นผลแห่งความไม่ประมาทของภิกษุนี้เช่นนี้ว่า
ไฉนท่านผู้นี้เสพเสนาสนะ ที่สมควร คบหากัลยาณมิตร ทำอินทรีย์ให้เสมออยู่
พึงทำให้แจ้งซึ่งที่สุดพรหมจรรย์ อันไม่มี ธรรมอื่นยิ่งกว่า
ที่กุลบุตรทั้งหลายผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ
ด้วยปัญญา อันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบัน แล้วเข้าถึงอยู่
ดังนี้ จึงกล่าวว่า " กิจที่ควรทำด้วยความไม่ประมาท ย่อมมีแก่ภิกษุนี้. "
สัตว์:..ผู้อริยสาวก-ผู้โสดาบัน..ตอนที่ 4 :โสดาบันปฏิมรรค.. ผู้หนักด้วยความเชื่อ-ปฏิบัติเพื่อความเป็นโสดาบัน
https://etipitaka.com/read/thai/12/196/
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในธรรมที่เรา กล่าวไว้ดีแล้วอย่างนี้ เป็นของตื้นเปิดเผย ปรากฏ แยกขยายแล้ว
ภิกษุเหล่าใด ผู้เป็นธัมมานุสารี เป็นสัทธานุสารี ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด มีปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ดีเป็นที่ไปในเบื้องหน้า.
..
...
https://etipitaka.com/read/thai/13/181/
[๒๓๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัทธานุสารีบุคคลเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล บางคนในโลกนี้ ไม่ได้ถูกต้องวิโมกข์อันละเอียด
คือ อรูปสมาบัติล่วงรูปสมาบัติด้วยกายอยู่
แต่อาสวะบางเหล่าของผู้นั้นสิ้นไป เพราะเห็น (อริยสัจ) ด้วยปัญญา
อนึ่ง ผู้นั้นมีแต่เพียง ความเชื่อความรักในพระตถาคต
อีกประการหนึ่ง ธรรมเหล่านี้ คือ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ ย่อมมีแก่ผู้นั้น
บุคคลนี้เรากล่าวว่า สัทธานุสารีบุคคล.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า กิจที่ควรทำด้วยความไม่ประมาท ย่อมมีแก่ภิกษุแม้นี้
ข้อนั้น เพราะเหตุไร ?
เพราะเราเห็นผลแห่งความไม่ประมาทของภิกษุนี้เช่นนี้ว่า
ไฉนท่านผู้นี้เสพเสนาสนะ ที่สมควร คบหากัลยาณมิตร ทำอินทรีย์ให้เสมออยู่
พึงทำให้แจ้งซึ่งที่สุดพรหมจรรย์ อันไม่มี ธรรมอื่นยิ่งกว่า
ที่กุลบุตรทั้งหลายผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ
ด้วยปัญญา อันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบัน แล้วเข้าถึงอยู่
ดังนี้ จึงกล่าวว่า " กิจที่ควรทำด้วยความไม่ประมาท ย่อมมีแก่ภิกษุนี้. "