JJNY : ดักทาง อย่ายุบสภาหนี│‘วรวัจน์’ แนะวางมาตรการรองรับนทท.จีน│‘ชญาภา’ชี้เปิดตัว ไม่ปัง│9 ใน 10 เหอหนาน ‘ติดโควิดแล้ว’

‘ฝ่ายค้าน’ ดักทาง อย่ายุบสภาหนี ม.152 ซัดราชการงก ไม่ให้ใช้สถานที่ปราศรัย รับหากปล่อยถกกัญชาต่อ ร่างกฎหมายอื่นค้างยาว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3764342
 
‘ฝ่ายค้าน’ ดักทาง อย่ายุบสภาหนี ม.152 ซัดราชการงก ไม่ให้พรรคใช้สถานที่ปราศรัย รับหากปล่อยถกกัญชาต่อ ร่างกฎหมายอื่นค้างยาว
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มกราคม ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้านว่า พบปัญหาพรรคการเมืองขณะเริ่มออกปราศรัย พบปะประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยราชการก็ให้ความร่วมมือทั้งหมด แต่ครั้งนี้เริ่มมีหน่วยงานราชการอ้างข้อจำกัดที่เป็นเหตุไม่ให้พรรคการเมืองเข้าไปใช้สถานที่พบปะประชาชนได้ ซึ่งถือว่าเรื่องนี้ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง และวิถีประชาธิปไตย จึงคิดว่าในการพิจารณาวาระรับทราบรายงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเสนอและให้ความเห็นเรื่องนี้ เพื่อให้หน่วยงานราชการทุกหน่วยดำเนินการทบทวน
 
วิธีคิดแบบนี้เราเชื่อว่าเกิดจากผู้นำประเทศที่กลัวการพูดคุย ข่าวสาร และประชาชน จนอ้างแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ว่า ต้องให้ความเป็นพรรคการเมืองเปิดให้เป็นธรรม ซึ่งความเป็นธรรมนั้น แท้จริงควรจะเป็นใครประสงค์ใช้สิทธิ ก็ให้สิทธิ ใครไม่ประสงค์ใช้สิทธิ ก็ไม่ให้ไปลิดรอนสิทธิคนอื่น” นายสุทิน กล่าว
 
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ…. (ฉบับที่….) ซึ่งค้างอยู่ในสภาฯ จนทำให้ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม อาจเข้าสู่วาระการพิจารณาไม่ทัน นายสุทิน กล่าวว่า ยอมรับว่าร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ กีดขวางจราจรอยู่ ทำให้กฎหมายฉบับอื่นไม่ผ่าน แต่มันทำอะไรไม่ง่าย เพราะเป็นการพิจารณากฎหมายตามข้อบังคับ ที่ผ่านมาเคยขอเจ้าของร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เพื่อเลื่อนร่างกฎหมายอื่นขึ้นมา 5 ฉบับก่อนปีใหม่ได้สำเร็จแล้ว แต่คราวหน้ามีร่างกฎหมายหลายเรื่อง และหากเจ้าของร่างไม่ยอม ประธานสภาฯ ก็อาจใช้อำนาจบังคับได้ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าหากยังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไปตามนี้อยู่ ก็จะต้องใช้เวลาอีกนาน
 
เมื่อถามถึง การกำหนดวันพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นายสุทิน กล่าวว่า ทราบว่าทางประธานสภาฯ บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระแล้ว แต่เหลือขั้นตอนการนัดหมายทั้งวิป 2 ฝ่ายคุยกัน เพื่อหารือกรอบเวลา แต่ประธานสภาฯ ยังไม่นัด ซึ่งก็คาดว่าในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่ขัดฝ่ายรัฐบาล หากอยู่ในกำหนดวันช่วงปลายมกราคม ถึงต้นเดือน กุมภาพันธ์ และขอแต่ว่าอย่ายุบสภาฯ ก็พอ
 

 
‘วรวัจน์’ แนะ รบ.-สธ. วางมาตรการ รองรับ นทท.จีน-พร้อมรักษาตัว กวาดรายได้ 2 ต่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3764285
 
‘วรวัจน์’ แนะ รบ.-สธ. วางมาตรการ รองรับ นทท.จีน-พร้อมรักษาตัว กวาดรายได้ 2 ต่อ
 
เมื่อวันที่ 10 มกราคม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังจากมีเที่ยวบินแรกจากประเทศจีนเข้ามาสู่ประเทศไทยแล้วนั้น หากติดตามจากสถานการณ์จะพบว่า คนจีนที่เข้ามาส่วนหนึ่งมาเพื่อท่องเที่ยวก็จริง แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่เดินทางเข้ามาเพื่อดูแลสุขภาพเนื่องจากระบบการรักษาโควิดของจีนไม่สามารถรองรับได้ ซึ่งวันนี้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังจะเริ่มกระเตื้องดีขึ้นอย่างช้าๆ แล้ว ดังนั้นเราก็ต้องระมัดระวังอย่าให้ปัญหาการระบาดของโควิดแบบเดิมๆ กลับมาซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจของไทยอีก ทางรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุขต้องดูแล และรับรองในการแยกสองส่วนนี้ออกจากกันให้ชัดเจน อย่าให้เกิดการระบาดอีกครั้งหนึ่ง เพราะจากสถานการณ์ที่ผ่านมาเราปล่อยปละละเลยจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทยมามากพอแล้ว อย่าให้โอกาสครั้งนี้กลับกลายเป็นวิกฤตอีกครั้งของไทย
 
เมื่อถามว่า ข้อเสนอคือต้องการให้มีการจัดระบบแยกเที่ยวบินให้ชัดเลยว่าอันไหนมาเที่ยว อันไหนมารักษาตัวแบบนี้หรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องการให้มีการวางแผน และจัดให้มีกระบวนการรองรับให้ชัดเจนก่อน คืออย่าตั้งป้อมรังเกียจการเข้ามารักษาตัวโดยไม่ดูข้อเท็จจริง เพราะการที่ชาวจีนเข้ามารักษาสุขภาพก็ถือว่าเป็นรายได้ส่วนหนึ่งเช่นกัน และหลังจากมีการรักษาจนหายแล้วก็มีโอกาสที่คนกลุ่มนี้จะอาศัยอยู่ในประเทศไทยไปต่ออีกระยะหนึ่งเพื่อรอการระบาดที่จีนเบาบางลง ซึ่งส่วนนี้จะก่อให้เกิดรายได้ในการพักรักษาตัวระยะยาวเพิ่มอีกต่อหนึ่งด้วย และแม้จะเดินทางมาในเที่ยวบินลำเดียวกันก็ต้องมีกระบวนการพาไปดูแลรักษาตัวให้ด้วย
 
นายวรวัจน์ กล่าวต่อว่า ตนให้ความสำคัญกับกระบวนการ และมาตรการที่ชัดเจน ไม่ใช่จนถึงมีเที่ยวบินเที่ยวแรกมาถึงแล้ว วันนี้ก็ยังไม่เห็นกระบวนการ หรือมาตรการอะไรเลย ซึ่งการขาดความชัดเจนเช่นนี้ ทำให้พี่น้องประชาชนเริ่มเป็นห่วงว่ารัฐบาลอาจจะละเลย และก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมาอีกหรือไม่ ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาประชาชนก็ส่งสัญญาณเรียกร้องถึงรัฐบาลมาโดยตลอดในเรื่องการดำเนินมาตราการป้องกันในรูปแบบต่างๆแต่ทางรัฐบาลก็บริหารจัดการผิดพลาดจนทำให้เกิดวิกฤตมาแล้ว ในหลายปีที่ผ่านมา



‘ชญาภา’ ชี้ เปิดตัว ‘ประยุทธ์’ ไม่ปัง 8 ปีล้มเหลวยังไม่สำนึก ดักคอ อย่าชิงยุบสภาหนีซักฟอก152
https://www.matichon.co.th/politics/news_3764466

‘ชญาภา’ ชี้ เปิดตัว ‘ประยุทธ์’ ไม่ปัง หมดหวัง ย้อนแย้ง ล้มเหลวมา 8 ปียังไม่สำนึก ดักคอ อย่าชิงยุบสภาหนีซักฟอก152

เมื่อวันที่ 10 มกราคม น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้งส.ส. จ.ร้อยเอ็ด พรรค พท. กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดตัวสมัครเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อย่างเป็นทางการ เมื่อวานนี้ (9 มกราคม) ที่ผ่านมาว่า ไม่ปัง พรรคใหม่ของพล.อ.ประยุทธ์มีนักการเมืองหลายคนที่เคยเป็น กปปส. เป่านกหวีดเรียกร้องการรัฐประหาร วันนี้ผู้เคยเรียกร้องการรัฐประหารกับหัวหน้าคณะรัฐประหารมาทำงานร่วมกันอีก การเปิดตัวของพล.อ.ประยุทธ์เมื่อวานนี้ พรรค พท.ไม่หวั่นไหว ส่วนตัวไม่ให้ราคา ขอให้มาสู้กันในสนามเลือกตั้งให้พี่น้องประชาชนตัดสิน
  
น.ส.ชญาภา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนมีข้อสังเกต ดังนี้ 1.พล.อ.ประยุทธ์ ได้กระทำผิดมารยาททางการเมืองอย่างร้ายแรง เพราะขณะนี้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แต่ไปประกาศเปิดตัวอย่างเอิกเกริกสมัครเป็นสมาชิกพรรครทสช. ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดทางการเมือง ไม่มีใครทำเหมือนพล.อ.ประยุทธ์มาก่อน แต่จะคาดหวังจากคนที่เคยยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นการกระทำที่เป็นกบฏ ก็คงเป็นความคาดหมายที่สูงเกินไป พล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พปชร. มีความสำนึกต่อพี่น้องประชาชนที่เลือก พปชร.หรือไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร นโยบายที่ พปชร.หาเสียงไว้แต่ทำไม่สำเร็จ จะรับผิดชอบอย่างไร
 
น.ส.ชญาภา กล่าวด้วยว่า 2.พล.อ.ประยุทธ์มีพฤติกรรมย้อนแย้งจนหยดสุดท้าย เคยบอกว่าตนเองไม่ใช่นักการเมือง แต่คนไทยรู้แล้วว่าเป็นนักการเมืองเต็มตัว เมื่อวานนี้ก็ประกาศว่าไม่ต้องการอำนาจ แต่กลับมีพฤติกรรมเสพติดอำนาจ อยู่มา 8 ปี และยังกระเ สือกกระสนจะอยู่ต่ออีก 2 ปี อ้างว่าเคารพกระบวนการประชาธิปไตย แต่จุดเริ่มต้นในการเข้าสู่อำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ คือในฐานะหัวหน้าคณะรัฐประหาร ที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน บอกความสงบจบที่ลุงตู่ ตอนนี้เป็นอย่างไร
 
น.ส.ตรีชฎา กล่าวด้วยว่า 3.พล.อ.ประยุทธ์ ประเมินตนเองสูง แต่ประเมินความอดทนของประชาชนต่ำเกินไป ไม่ประเมินความเสียหายที่ตัวเองได้ก่อขึ้น มาตลอด 8 ปี เช่น ล้มเหลวในการปราบปรามทุจริต ล้มเหลวในการจัดการทุนจีนสีเทา ปากบอกว่าตนเองสุจริต แต่คนแวดล้อมมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตใช่หรือไม่ ล่าสุดแต่งตั้งนายเสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐนตรี ทั้งที่มีกรณีคลิปเสียงขอยืมเงินสมาชิกพปชร.เพื่อนำไปจับกุมล็อตเตอรี่รายหนึ่งที่ยังไม่กระจ่างในข้อเท็จจริงจนต้องลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี ทั้งยังตั้งคนในพรรค รทสช. หลายคนมาเป็นที่ปรึกษาตัวเอง ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบและมีผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมืองใช่หรือไม่ หรือแม้กระทั่งเรื่องหลานชายของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดโปงว่ามีความเกี่ยวพันกับนายตู้ห่าว ก็ยังไม่ชัดเจน
 
น.ส.ตรีชฎา กล่าวอีกว่า 4.พล.อ.ประยุทธ์อยู่มา 8 ปี ทุจริตเฟื่องฟู ยาเสพติดระบาดเกลื่อนเมืองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คนไทยตกทุกข์ได้ยาก เพราะวิกฤตเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนท่วม ก่อหนี้ประเทศสูงสุดในประวัติศาสตร์ คนยากจนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เกิดการเมืองแจกกล้วยย้อนยุคไปก่อนปี 2540 อย่างนี้หรือที่พลเอกประยุทธ์ยังอยากจะไปต่อ
 
ความฝันของพล.อ.ประยุทธ์อยากเป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปี แต่สวนทางความฝันของคนจำนวนมากที่ไม่อยากเห็นพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อีกต่อไป ดูจากผลโพลของนิด้าล่าสุดที่พล.อ.ประยุทธ์ได้คะแนนความนิยมแค่ 14% แต่แคนดิเดตพรรคเพื่อไทยอยู่ที่ 34% ดีที่พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ประชาชนรอวันพิพากษาอนาคตทางการเมือง อย่าถอดใจยุบสภาหนีการอภิปรายตามมารา 152 ไปเสียก่อน พรรคเพื่อไทยพร้อมเปลือยตัวตนของพล.อ.ประยุทธ์ก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง” น.ส.ชญาภา กล่าว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่