กลายเป็นกระแสฮือฮาอย่างมากในโลกออนไลน์ เรียกได้ว่า กระแสแรงพอๆ กับที่มีการแสดงคอนเสิร์ตของวงนักร้องดัง BLACKPINK จากเกาหลีที่สนามศุภชลาศัย หรือ พิธีมอบรางวัล Golden Disc Awards 2023 จากเกาหลีที่บินมามอบรางวัลกันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กับ แจ็ค หม่า อดีตมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีน เจ้าของผู้ก่อตั้ง อาลีบาบา กรุ๊ป แอนท์ กรุ๊ป และ อาลีเพย์ ที่แค่มากินข้าวที่ร้าน “เจ๊ไฝ” Street food ระดับมิชลิน 1 ดาว
เรียกได้ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ของคนดังระดับโลกที่เข้ามาเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ยิ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทย เป็นเมืองที่นักลงทุนต่างชาติ นักท่องเที่ยว และคนดังระดับโลกให้ความสนใจประเทศหนึ่ง
โดยเฉพาะเมื่อ แจ็ค หม่า ที่หายหน้าหายตาไปจากทุกสื่อ ไม่ว่าจะสื่อในประเทศจีนเอง หรือสื่อในระดับโลกหลายปี แต่วันดีคืนดีมาปรากฎตัวในสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นที่เมืองไทย พร้อมกับ
สุภกิต และ มาริษา เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) และภรรยา ซึ่งได้ถ่ายร่วมกันทั้ง แจ๊ค หม่า และเจ๊ไฝ ด้วย
จึงทำให้สังคมเริ่มตั้งคำถามกันว่า
• แจ็ค หม่า มาที่เมืองไทยทำไม
• การปรากฎตัวร่วมกันของ แจ็ค หม่า และ สุภกิต เจียรวนนท์ ในครั้งนี้จะมีการร่วมลงทุนอะไรหรือไม่
• แจ็ค หม่า ถูกลดการถือหุ้น ไม่ร่วมลงคะแนนเสียง และเหลือเพียงเป็น 1 ในกรรมการบริษัทฯ ใน Ant Group เท่านั้น
เหตุการณ์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของ แจ็ค หม่า เรียกว่า ร้อนแรงไม่แพ้กระแส BLACKPINK กันเลยทีเดียว
การที่ แจ็ค หม่า มาเมืองไทยในครั้งนี้ ก็อาจจะเพราะเมื่อปี 2561 Alibaba ได้เข้ามาลงทุนศูนย์กลางดิจิทัล (Smart Digital Hub) ในพื้นที่ EEC เพื่อสร้างระบบโลจิสติกส์ขนส่งสินค้าระหว่างไทย-จีน และประเทศเพื่อนบ้าน เป็นมูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท และเพิ่งเปิดทดลองให้บริการไปเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา
สังคมเลยตั้งคำถามว่า อาจจะมีการร่วมลงทุนอะไรเพิ่มกับกลุ่มซีพีด้วยหรือไม่
เพราะกลุ่มซีพี ก็มีการขยายการลงทุนในพื้นที่ EEC อยู่เช่นกัน ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา), นิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี (CPGC) และมักกะสันคอมเพล็กซ์ (ที่รอก่อสร้าง) ยิ่งทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของซีพีกับประเทศจีน หรือ ซีพีกับนักลงทุนต่างชาติในระดับโลก เพราะตอนที่แจ็ค หม่า เข้ามาลงทุนเมื่อปี 2561 ครั้งนั้น มีข่าวลือว่า เจ้าสัวซีพี ธนินท์ เจียรวนนท์ แนะนำให้ แจ็ค หม่า เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
เมื่อมองย้อนไปถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างซีพี และประเทศจีนเอง ก็ต้องมองย้อนกลับไปถึงปี 2523 ครั้นเมื่อประธานาธิบดี เติ้ง เสี่ยวผิง เปิดประเทศจีนครั้งแรกเพื่อให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าไปลงทุนในประเทศจีนได้ ก็มีบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติบริษัทแรกที่เข้าไปลงทุนในจีน และได้จดทะเบียนการค้าเป็นบริษัทแรก หมายเลข 001
ทำให้ซีพี และประเทศจีนจึงมีความสัมพันธ์อันดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ครั้งนั้น
ดังคำกล่าวที่ว่า
"จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" ยิ่งทำให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยว่า มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม อาหารการกิน ไปจนถึงความร่วมมือในระดับภูมิภาคที่ประเทศจีนช่วยสนับสนุนไทย
ทำให้การเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ของ แจ็ค หม่า และปรากฎภาพร่วมกับคนของซีพียิ่งทำให้เชื่อได้ว่า คงไม่ได้มาแค่พักผ่อนเฉยๆ อย่างแน่นอน อาจจะต้องมีการคุยธุรกิจร่วมกันด้วยหรือไม่
เพราะทั้ง แจ็ค หม่า และ เจ้าสัวธนินท์ เรียกได้ว่า เป็น 2 นักธุกิจที่ไม่เคยหยุดในการขยายธุรกิจ คนไทยเราอาจจะได้เห็น 2 นักธุรกิจระดับโลกร่วมลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน อาจจะไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่อาจจะเป็นในระดับโลก สอดคล้องไปกับที่เครือซีพีที่กำลังจะร่วมทำธุรกิจกับเทเลนอร์กรุ๊ป ในธุรกิจโทรคมนาคมเช่นกัน
ยิ่งทำให้เห็นว่า เมืองไทยวันนี้กำลังเป็นที่สนใจของคนเก่ง และนักลงทุนระดับโลก ที่สนใจจะเข้ามาร่วมลงทุน อย่างไรก็ตาม ก็อยู่ที่ว่ารัฐบาลของไทย พร้อมที่ก้าวตามให้ทันเอกชนในการพัฒนาประเทศไทยให้ไประดับโลกหรือไม่ เพราะการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในประเทศนั้น จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อ "แจ็ค หม่า" มาเมืองไทย จิ๊กซอว์สำคัญ ทำให้เห็นว่าไทยยังน่าลงทุน
โดยเฉพาะเมื่อ แจ็ค หม่า ที่หายหน้าหายตาไปจากทุกสื่อ ไม่ว่าจะสื่อในประเทศจีนเอง หรือสื่อในระดับโลกหลายปี แต่วันดีคืนดีมาปรากฎตัวในสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นที่เมืองไทย พร้อมกับ สุภกิต และ มาริษา เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) และภรรยา ซึ่งได้ถ่ายร่วมกันทั้ง แจ๊ค หม่า และเจ๊ไฝ ด้วย
จึงทำให้สังคมเริ่มตั้งคำถามกันว่า
• แจ็ค หม่า มาที่เมืองไทยทำไม
• การปรากฎตัวร่วมกันของ แจ็ค หม่า และ สุภกิต เจียรวนนท์ ในครั้งนี้จะมีการร่วมลงทุนอะไรหรือไม่
• แจ็ค หม่า ถูกลดการถือหุ้น ไม่ร่วมลงคะแนนเสียง และเหลือเพียงเป็น 1 ในกรรมการบริษัทฯ ใน Ant Group เท่านั้น
เหตุการณ์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของ แจ็ค หม่า เรียกว่า ร้อนแรงไม่แพ้กระแส BLACKPINK กันเลยทีเดียว
การที่ แจ็ค หม่า มาเมืองไทยในครั้งนี้ ก็อาจจะเพราะเมื่อปี 2561 Alibaba ได้เข้ามาลงทุนศูนย์กลางดิจิทัล (Smart Digital Hub) ในพื้นที่ EEC เพื่อสร้างระบบโลจิสติกส์ขนส่งสินค้าระหว่างไทย-จีน และประเทศเพื่อนบ้าน เป็นมูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท และเพิ่งเปิดทดลองให้บริการไปเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา
เมื่อมองย้อนไปถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างซีพี และประเทศจีนเอง ก็ต้องมองย้อนกลับไปถึงปี 2523 ครั้นเมื่อประธานาธิบดี เติ้ง เสี่ยวผิง เปิดประเทศจีนครั้งแรกเพื่อให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าไปลงทุนในประเทศจีนได้ ก็มีบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติบริษัทแรกที่เข้าไปลงทุนในจีน และได้จดทะเบียนการค้าเป็นบริษัทแรก หมายเลข 001
ดังคำกล่าวที่ว่า "จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" ยิ่งทำให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยว่า มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม อาหารการกิน ไปจนถึงความร่วมมือในระดับภูมิภาคที่ประเทศจีนช่วยสนับสนุนไทย
ทำให้การเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ของ แจ็ค หม่า และปรากฎภาพร่วมกับคนของซีพียิ่งทำให้เชื่อได้ว่า คงไม่ได้มาแค่พักผ่อนเฉยๆ อย่างแน่นอน อาจจะต้องมีการคุยธุรกิจร่วมกันด้วยหรือไม่
เพราะทั้ง แจ็ค หม่า และ เจ้าสัวธนินท์ เรียกได้ว่า เป็น 2 นักธุกิจที่ไม่เคยหยุดในการขยายธุรกิจ คนไทยเราอาจจะได้เห็น 2 นักธุรกิจระดับโลกร่วมลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน อาจจะไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่อาจจะเป็นในระดับโลก สอดคล้องไปกับที่เครือซีพีที่กำลังจะร่วมทำธุรกิจกับเทเลนอร์กรุ๊ป ในธุรกิจโทรคมนาคมเช่นกัน
ยิ่งทำให้เห็นว่า เมืองไทยวันนี้กำลังเป็นที่สนใจของคนเก่ง และนักลงทุนระดับโลก ที่สนใจจะเข้ามาร่วมลงทุน อย่างไรก็ตาม ก็อยู่ที่ว่ารัฐบาลของไทย พร้อมที่ก้าวตามให้ทันเอกชนในการพัฒนาประเทศไทยให้ไประดับโลกหรือไม่ เพราะการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในประเทศนั้น จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน