https://pantip.com/topic/41810938 ต่อจากกระทู้แรกนะครับ
วันนี้จะขอมารีวิวที่เที่ยวต่อจากกระทู้เเรกนะครับ วันนี้เป็นการเดินทางวันที่ 2 หลังจากเหนื่อยกันมานาน เนื่องจากได้นอนน้อยครับ วันนี้จะนำพาทุกท่านไปสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยว ในเมือง Taipei และลงใต้ไปเกาสงกันนะ
Page ไปเที่ยวกัน อย่าลืมกดติดตามเพจท่องเที่ยวให้ด้วยนะครับทุกคน
สถานที่เที่ยวที่เเรก แอดจะนำพาทุกท่านไป เยี่ยมชม วัด Longshan Lungshan Temple, 艋舺龍山寺
เดินทางง่ายมากเลยจ้า ให้ทุกท่าน นั่ง MRT สายสีน้ำเงินมาลงที่ สถานี Longshan นะ ออกทางออกที่1 เดินมาประมาณ 5 นาทีจะพบกับ ทางเข้าวัดเลยจ้า
เดี่ยวแอด ปักหมุดเอาไว้ตรงนี้ให้นะ
ทุกครั้งก่อนเดินทางต้องเตรียมแผนที่ของ MRT Taipei กันหลงทางนะครับ
หวังว่าแผนที่นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะ
เริ่มต้นด้วยเช้าวันใหม่นำพาทุกท่านไปเยี่ยมชม
1. วัด Longshan Temple
2. ย่านเมืองเก่า Bopilliao Historical Block
3. พระราชวังกู้กง
4. ทานข้าวเที่ยงที่ Din Tai Fung ใน Taipei 101
5. นำพาเยี่ยมชมอนุสรณ Chiang Kai Shek Memorial Hall
และนำพาทุกท่านเดินทางไปยังเมือง เกาสง ทางตอนใต้ของไต้หวัน
ณ จุดนี้เป็นบริเวณทางเข้าวัดนะครับ ตรงรั้วประตูสีเเดงที่พี่ผู้ชายใส่เสื้อเหลือง ยืนด้านหน้าวัด ก่อนโควิท สามารถเข้าประตูนี้ได้ แต่ตอนนี้ให้ทุกท่าน เดินเข้ามาในวัด จะเห็นน้ำตก ทางขวามือ ให้ทุกท่านเดินเข้ามาข้างในวัดได้เลยครับ
ข้อมูลนี้ผมเอามาจากเพจ talontiew นะครับ
* เกล็ดเล็กๆน้อยๆเอามาฝากผู้ที่มีจิตศรัทธา เป็นขั้นตอนการสักการะบูชาขอพรที่วัดหลงซาน
1. หลังจากเดินผ่านซุ้มประตูขนาดใหญ่ตรงกลางเข้ามาในเขตรั้ววัดแล้ว ทางวัดจะกั้นทางเข้าลานในวัดตรงกลางเอาไว้เหลือ ประตูด้านข้าง 2 ข้าง ให้เดินเข้าทางประตูมังกรที่เมื่อยืนหันหน้าเข้าหาวัด ประตูนี้จะอยู่ทางขวามือ
2. เมื่อผ่านประตูเข้ามาก็สามารถหยิบธูปมาได้ฟรี
3. ให้จุดธูปไหว้ตามกระถางธูปซึ่งภายในวัดจะมีอยู่ทั้งหมด 7 กระถางด้วยกัน เรียงตามนี้คือ ตรงกลางลานสำหรับเจ้าแม่กวนอิม ตรงกลางถัดเข้าไปอีกหน่อยสำหรับเทพเทียนกง จากนั้นให้เดินเข้าไปด้านในจะมีกระถางธูปอีก 5 กระถางอยู่เรียงกัน ให้เริ่มวนจากขวาก่อนไปจนซ้ายสุด
4. เวลาสักการะขอพร เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ออกทางประตูทางซ้าย ซึ่งเป็นประตูเสือ
สามารถขอพร ความรักได้นะครับ ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าหลายองค์ โดยมาจากทั้งศาสนาพุทธ เต๋า และขงจื้อ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม เทพเจ้ากวนอู รวมถึงเทพที่มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรความรัก นั่นก็คือ เทพเย่ว์เหล่า หรือ ผู้เฒ่าจันทรา นั่นเอง
ขั้นตอนเยี่ยมชมและขอพร
– การเข้าเยี่ยมชมและไหว้เทพเจ้าภายในวัดหลงซาน หลังจากเดินผ่านประตูใหญ่หน้าวัดมาแล้ว จะมีประตูเข้าตัววัดแยกเป็นด้านซ้ายกับขวา โดยเราจะต้อง เดินเข้าทางประตูมังกร หรือประตูด้านขวามือเมื่อยืนหันหน้าเข้าวัด และออกจากวัดทางประตูเสือ หรือประตูด้านซ้ายมือ
– เมื่อเข้าประตูมังกรมาแล้ว รับธูปฟรีและไหว้ตามจุดต่างๆ ภายในวัด เริ่มจากที่แรกตรงกลางวัดและวนไปตามจุดต่างๆ เริ่มจาก
จุดที่ 1 โต๊ะบูชา เป็นที่ประดิษฐาน พระศรีศากยมุนีพุทธะ, พระไภษัชยพุทธเจ้า และพระอมิตาภพุทธะ
จุดที่ 2 ระเบียงหน้าตำหนัก ให้ยืนหันหน้าออกหน้าวัด ไหว้เทพเทียนกง
จุดที่ 3 ตำหนักกลาง เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม
จุดที่ 4 ด้านหลังตำหนัก จุดตรงกลาง เป็นที่ประดิษฐานเทพมาจู่ หรือเจ้าแม่ทับทิม เทพแห่งท้องทะเล ขอพรเรื่องการเดินทาง
จุดที่ 5 จะอยู่ด้านขวาเมื่อหันหน้าเข้าจุดที่ 4 จุดนี้จะมีเทพเจ้าหลักเมือง, เทพเจ้าตี้จู้เอี๊ยะ, เทพเจ้าเหวินชาง ขอพรเรื่องการเรียน ส่วนตำหนักเล็กขอพรเรื่องสุขภาพแข็งแรง
จุดที่ 6 เดินไปฝั่งตรงข้ามจุดที่ 5 หรือด้านซ้ายเมื่อหันหน้าเข้าจุดที่ 4 จุดนี้มีเทพเจ้าสำหรับใครที่อยากขอพรเรื่องการมีบุตรหรือขอพรบำรุงครรภ์, เทพกวนอู ขอพรเรื่องการเงิน รวมถึงจุดไฮไลท์ของคนโสดก็คือ เทพเย่ว์เหล่า ขอพรเรื่องความรักและขอคู่
ภายในบริเวณวัดนี้ สามารถ ซื้อจี้เครื่องรางกับไปเป็นโชคลาภของตนเองได้นะ ออกมาจากวัด เดินประมาณ 2 แยกไฟแดงจะ พบกับ Bopilliao Historical Block หรืเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ย่านเมืองเก่านะครับ
จากบริเวณ Bopilliao Historical Block เดินไปไม่ไกลนะ จะเจอร้านข้าวหมูกรอบร้านดังอยู่ เห็นมีคนรีวิวมาว่า อร่อยมากต้องมาชิม
ร้านชื่อ Zhouji Meat Porridge แต่ทว่าแอดไม่ได้ทานเพราะทานข้าวเช้าโรงแรมมาแล้ว เสียดายอยู่
ขอมุมสวยๆๆ สักมุมนะ โชตดีนะ ได้จังหวะไฟแดงพอดี
การรีวิวท่องเที่ยวที่พระราชวังกู้กง ผมได้ใส่เข้าไปข้างล่าง ความคิดเห็นเเล้วนะครับ
อันนี้ถือว่าโชคดีมากๆ เข้าไปในพระราชวัง ตอนแรกแอดก็แบบหิวมากนะ รู้สึกตาหลาย เห็นหมูสามชั้น กับ ผักกาดขาว จะเข้าไปกินแหละ แต่นึกขึ้นได้ อ่อ นี่ Museum นี่เอง +
แอดได้ปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวใน พระราชวังกู้กงให้เเล้วนะครับ
เดี่ยวมาดูกันว่ามีไรบ้างนะ
จุดแรกเลย รถบัสที่ไม่ใช่ สาย R35 ถ้าจำไม่ผิด จะจอดรถตรงด้านหน้าพระราชวังนะครับ ช่วงที่ผมไป อากาศหนาวนิดนึง และฝนตกตลอดทั้งวันเลย เลยทำให้ถ่ายรูปด้านหน้าไมได้
พอเดินขึ้นบันไดไปให้เลี้ยวซ้ายนะครับ หลังจากนั้นจะมาถึงจุดขายตั๋วจ้า
จุดตรงนี้เป็น จุดบริเวณขายตั๋วกันนะครับ เขาให้ถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้ Flash กันนะ และ เข้าไปแล้ว ยามและเจ้าหน้าที่บังคับ ให้สวมหน้ากากตลอดเวลาในการเข้าชม และใครที่พกกระติกน้ำไป สามารถเติมน้ำได้ตามที่กดน้ำต่างๆ ถือว่าสะดวกมาก
อัตราค่าบริการซื้อตั๋วจ้า
นี่ไงที่แอดบอกกำลังหิวเลย หมูกรอบ อ้าวไม่ใช่ หมูสามชั้นนะครับ
ภายในอาคารจัดแสดงหลักมีอยู่ด้วยกัน 4 ชั้นประกอบด้วย
ชั้น 1 มีหนังสือหายาก ส่วนจัดแสดงนิทรรศกาพิเศษ เฟอร์โบราณในยุคราชวงศ์ฉิง(Qing Dynasty)และหมิง(Ming Dynasty) รูปปั้นด้านศาสนาและ แกลอรี่ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละราชวงศ์จีน
ชั้น 2 จะเป็นภาพวาด ภาพเขียนตัวอักษร งานเซรามิคต่างๆของจีน มีโซนที่เป็น Interactive และ Virtual Tour สำหรับภาพวาดที่มีชื่อเสียง 20 ภาพ
ชั้น 3 จัดแสดงเกี่ยวกับผลงานทองสำริด, อาวุธ, เครื่องประดับ, หยก, กาน้ำชา และงานแกะสลักจากยุคราชวงศ์ Ming และ Qing
ชั้น 4 จะมีร้านน้ำชา ที่มีน้ำชาและติ่มซำให้บริการ
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ ตะลอนเที่ยวนะ
หมูสามชั้น กับ ผักกาดขาว น่าทานไหมละ 55555
หลังจากนั้น พอเดินได้ประมาณ 1 ชม ก็หิวแล้ว ตอนนั้น 11;00 เราต้องรีบทำเวลา เพื่อจะไปเอาคิวที่ร้านอาหาร Din tai fung ให้ได้ และต้องไปกินที่นี่เท่านั้น นั่นก็คือ Xiao Long Bao ที่ taipei 101 นั่นเอง นั่งจาก Shilin สายสีเเดงยาวเลยจ้า ออกมาก็เจอตึก Taipei101 พอเข้ามาร้านจะอยู่ทางด้านขวามือนะทุกคน
อันนี้คือตอนออกมาจากสถานีรถไฟนะครับ
ร้าน Din Tai Fung ที่พูดถึงนะ
วันนี้เป็นวันที่เราต้องรีบทำเวลาอีกเหมือนกัน เพราะต้องรีบไป Chiang Kai Shek Memorial Hall และ ไปนั่งรถไฟความเร็วสูงที่เกาสงให้ทันนะครับ ไม่งั้นต้องซื้อตั๋วใหม่อีก เด่ยว Chiang Kai Shek ขอไปอยู่ในตอน ที่ไปเกาสงนะครับ
เที่ยวไต้หวันด้วยตนเอง (เที่ยวใน Taipei และลงใต้ไปเกาสง)
วันนี้จะขอมารีวิวที่เที่ยวต่อจากกระทู้เเรกนะครับ วันนี้เป็นการเดินทางวันที่ 2 หลังจากเหนื่อยกันมานาน เนื่องจากได้นอนน้อยครับ วันนี้จะนำพาทุกท่านไปสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยว ในเมือง Taipei และลงใต้ไปเกาสงกันนะ
Page ไปเที่ยวกัน อย่าลืมกดติดตามเพจท่องเที่ยวให้ด้วยนะครับทุกคน
สถานที่เที่ยวที่เเรก แอดจะนำพาทุกท่านไป เยี่ยมชม วัด Longshan Lungshan Temple, 艋舺龍山寺
เดินทางง่ายมากเลยจ้า ให้ทุกท่าน นั่ง MRT สายสีน้ำเงินมาลงที่ สถานี Longshan นะ ออกทางออกที่1 เดินมาประมาณ 5 นาทีจะพบกับ ทางเข้าวัดเลยจ้า
เดี่ยวแอด ปักหมุดเอาไว้ตรงนี้ให้นะ
ทุกครั้งก่อนเดินทางต้องเตรียมแผนที่ของ MRT Taipei กันหลงทางนะครับ
หวังว่าแผนที่นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะ
เริ่มต้นด้วยเช้าวันใหม่นำพาทุกท่านไปเยี่ยมชม
1. วัด Longshan Temple
2. ย่านเมืองเก่า Bopilliao Historical Block
3. พระราชวังกู้กง
4. ทานข้าวเที่ยงที่ Din Tai Fung ใน Taipei 101
5. นำพาเยี่ยมชมอนุสรณ Chiang Kai Shek Memorial Hall
และนำพาทุกท่านเดินทางไปยังเมือง เกาสง ทางตอนใต้ของไต้หวัน
ณ จุดนี้เป็นบริเวณทางเข้าวัดนะครับ ตรงรั้วประตูสีเเดงที่พี่ผู้ชายใส่เสื้อเหลือง ยืนด้านหน้าวัด ก่อนโควิท สามารถเข้าประตูนี้ได้ แต่ตอนนี้ให้ทุกท่าน เดินเข้ามาในวัด จะเห็นน้ำตก ทางขวามือ ให้ทุกท่านเดินเข้ามาข้างในวัดได้เลยครับ
ข้อมูลนี้ผมเอามาจากเพจ talontiew นะครับ
* เกล็ดเล็กๆน้อยๆเอามาฝากผู้ที่มีจิตศรัทธา เป็นขั้นตอนการสักการะบูชาขอพรที่วัดหลงซาน
1. หลังจากเดินผ่านซุ้มประตูขนาดใหญ่ตรงกลางเข้ามาในเขตรั้ววัดแล้ว ทางวัดจะกั้นทางเข้าลานในวัดตรงกลางเอาไว้เหลือ ประตูด้านข้าง 2 ข้าง ให้เดินเข้าทางประตูมังกรที่เมื่อยืนหันหน้าเข้าหาวัด ประตูนี้จะอยู่ทางขวามือ
2. เมื่อผ่านประตูเข้ามาก็สามารถหยิบธูปมาได้ฟรี
3. ให้จุดธูปไหว้ตามกระถางธูปซึ่งภายในวัดจะมีอยู่ทั้งหมด 7 กระถางด้วยกัน เรียงตามนี้คือ ตรงกลางลานสำหรับเจ้าแม่กวนอิม ตรงกลางถัดเข้าไปอีกหน่อยสำหรับเทพเทียนกง จากนั้นให้เดินเข้าไปด้านในจะมีกระถางธูปอีก 5 กระถางอยู่เรียงกัน ให้เริ่มวนจากขวาก่อนไปจนซ้ายสุด
4. เวลาสักการะขอพร เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ออกทางประตูทางซ้าย ซึ่งเป็นประตูเสือ
สามารถขอพร ความรักได้นะครับ ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าหลายองค์ โดยมาจากทั้งศาสนาพุทธ เต๋า และขงจื้อ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม เทพเจ้ากวนอู รวมถึงเทพที่มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรความรัก นั่นก็คือ เทพเย่ว์เหล่า หรือ ผู้เฒ่าจันทรา นั่นเอง
ขั้นตอนเยี่ยมชมและขอพร
– การเข้าเยี่ยมชมและไหว้เทพเจ้าภายในวัดหลงซาน หลังจากเดินผ่านประตูใหญ่หน้าวัดมาแล้ว จะมีประตูเข้าตัววัดแยกเป็นด้านซ้ายกับขวา โดยเราจะต้อง เดินเข้าทางประตูมังกร หรือประตูด้านขวามือเมื่อยืนหันหน้าเข้าวัด และออกจากวัดทางประตูเสือ หรือประตูด้านซ้ายมือ
– เมื่อเข้าประตูมังกรมาแล้ว รับธูปฟรีและไหว้ตามจุดต่างๆ ภายในวัด เริ่มจากที่แรกตรงกลางวัดและวนไปตามจุดต่างๆ เริ่มจาก
จุดที่ 1 โต๊ะบูชา เป็นที่ประดิษฐาน พระศรีศากยมุนีพุทธะ, พระไภษัชยพุทธเจ้า และพระอมิตาภพุทธะ
จุดที่ 2 ระเบียงหน้าตำหนัก ให้ยืนหันหน้าออกหน้าวัด ไหว้เทพเทียนกง
จุดที่ 3 ตำหนักกลาง เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม
จุดที่ 4 ด้านหลังตำหนัก จุดตรงกลาง เป็นที่ประดิษฐานเทพมาจู่ หรือเจ้าแม่ทับทิม เทพแห่งท้องทะเล ขอพรเรื่องการเดินทาง
จุดที่ 5 จะอยู่ด้านขวาเมื่อหันหน้าเข้าจุดที่ 4 จุดนี้จะมีเทพเจ้าหลักเมือง, เทพเจ้าตี้จู้เอี๊ยะ, เทพเจ้าเหวินชาง ขอพรเรื่องการเรียน ส่วนตำหนักเล็กขอพรเรื่องสุขภาพแข็งแรง
จุดที่ 6 เดินไปฝั่งตรงข้ามจุดที่ 5 หรือด้านซ้ายเมื่อหันหน้าเข้าจุดที่ 4 จุดนี้มีเทพเจ้าสำหรับใครที่อยากขอพรเรื่องการมีบุตรหรือขอพรบำรุงครรภ์, เทพกวนอู ขอพรเรื่องการเงิน รวมถึงจุดไฮไลท์ของคนโสดก็คือ เทพเย่ว์เหล่า ขอพรเรื่องความรักและขอคู่
ภายในบริเวณวัดนี้ สามารถ ซื้อจี้เครื่องรางกับไปเป็นโชคลาภของตนเองได้นะ ออกมาจากวัด เดินประมาณ 2 แยกไฟแดงจะ พบกับ Bopilliao Historical Block หรืเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ย่านเมืองเก่านะครับ
จากบริเวณ Bopilliao Historical Block เดินไปไม่ไกลนะ จะเจอร้านข้าวหมูกรอบร้านดังอยู่ เห็นมีคนรีวิวมาว่า อร่อยมากต้องมาชิม
ร้านชื่อ Zhouji Meat Porridge แต่ทว่าแอดไม่ได้ทานเพราะทานข้าวเช้าโรงแรมมาแล้ว เสียดายอยู่
ขอมุมสวยๆๆ สักมุมนะ โชตดีนะ ได้จังหวะไฟแดงพอดี
การรีวิวท่องเที่ยวที่พระราชวังกู้กง ผมได้ใส่เข้าไปข้างล่าง ความคิดเห็นเเล้วนะครับ
อันนี้ถือว่าโชคดีมากๆ เข้าไปในพระราชวัง ตอนแรกแอดก็แบบหิวมากนะ รู้สึกตาหลาย เห็นหมูสามชั้น กับ ผักกาดขาว จะเข้าไปกินแหละ แต่นึกขึ้นได้ อ่อ นี่ Museum นี่เอง +
แอดได้ปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวใน พระราชวังกู้กงให้เเล้วนะครับ
เดี่ยวมาดูกันว่ามีไรบ้างนะ
จุดแรกเลย รถบัสที่ไม่ใช่ สาย R35 ถ้าจำไม่ผิด จะจอดรถตรงด้านหน้าพระราชวังนะครับ ช่วงที่ผมไป อากาศหนาวนิดนึง และฝนตกตลอดทั้งวันเลย เลยทำให้ถ่ายรูปด้านหน้าไมได้
พอเดินขึ้นบันไดไปให้เลี้ยวซ้ายนะครับ หลังจากนั้นจะมาถึงจุดขายตั๋วจ้า
จุดตรงนี้เป็น จุดบริเวณขายตั๋วกันนะครับ เขาให้ถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้ Flash กันนะ และ เข้าไปแล้ว ยามและเจ้าหน้าที่บังคับ ให้สวมหน้ากากตลอดเวลาในการเข้าชม และใครที่พกกระติกน้ำไป สามารถเติมน้ำได้ตามที่กดน้ำต่างๆ ถือว่าสะดวกมาก
อัตราค่าบริการซื้อตั๋วจ้า
นี่ไงที่แอดบอกกำลังหิวเลย หมูกรอบ อ้าวไม่ใช่ หมูสามชั้นนะครับ
ภายในอาคารจัดแสดงหลักมีอยู่ด้วยกัน 4 ชั้นประกอบด้วย
ชั้น 1 มีหนังสือหายาก ส่วนจัดแสดงนิทรรศกาพิเศษ เฟอร์โบราณในยุคราชวงศ์ฉิง(Qing Dynasty)และหมิง(Ming Dynasty) รูปปั้นด้านศาสนาและ แกลอรี่ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละราชวงศ์จีน
ชั้น 2 จะเป็นภาพวาด ภาพเขียนตัวอักษร งานเซรามิคต่างๆของจีน มีโซนที่เป็น Interactive และ Virtual Tour สำหรับภาพวาดที่มีชื่อเสียง 20 ภาพ
ชั้น 3 จัดแสดงเกี่ยวกับผลงานทองสำริด, อาวุธ, เครื่องประดับ, หยก, กาน้ำชา และงานแกะสลักจากยุคราชวงศ์ Ming และ Qing
ชั้น 4 จะมีร้านน้ำชา ที่มีน้ำชาและติ่มซำให้บริการ
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ ตะลอนเที่ยวนะ
หมูสามชั้น กับ ผักกาดขาว น่าทานไหมละ 55555
หลังจากนั้น พอเดินได้ประมาณ 1 ชม ก็หิวแล้ว ตอนนั้น 11;00 เราต้องรีบทำเวลา เพื่อจะไปเอาคิวที่ร้านอาหาร Din tai fung ให้ได้ และต้องไปกินที่นี่เท่านั้น นั่นก็คือ Xiao Long Bao ที่ taipei 101 นั่นเอง นั่งจาก Shilin สายสีเเดงยาวเลยจ้า ออกมาก็เจอตึก Taipei101 พอเข้ามาร้านจะอยู่ทางด้านขวามือนะทุกคน
อันนี้คือตอนออกมาจากสถานีรถไฟนะครับ
ร้าน Din Tai Fung ที่พูดถึงนะ
วันนี้เป็นวันที่เราต้องรีบทำเวลาอีกเหมือนกัน เพราะต้องรีบไป Chiang Kai Shek Memorial Hall และ ไปนั่งรถไฟความเร็วสูงที่เกาสงให้ทันนะครับ ไม่งั้นต้องซื้อตั๋วใหม่อีก เด่ยว Chiang Kai Shek ขอไปอยู่ในตอน ที่ไปเกาสงนะครับ