บางทีคนก็เข้าใจผีผิด....ในโชคร้ายบางทีก็มีโชคดีซ่อนอยู่...เป็นโชคดีของไอ้เปี๊ยกแล้ว ที่มันไปเจอผีเข้า
โชคดีที่เจอผี
(รอดตายเพราะผีช่วย)
ล. วิลิศมาหรา
แถวบ้านผมมีต้นตะแบกใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง อยู่ริมทางสัญจรไปมาของชาวบ้าน มันแผ่กิ่งก้านสาขาออกมาจนร่มครึ้ม ยามใดที่ถึงฤดูออกดอก ดอกสีม่วงของมันมองดูสวยงาม แต่ก็แฝงไว้ด้วยความหม่นเศร้า ดูลึกลับในเวลาเดียวกัน
เล่าลือกันว่าต้นตะแบกต้นนี้เคยมีประวัติผู้หญิงมาผูกคอตายที่นี่ ต้นตะแบกจึงมีผีตนนั้นสิงสู่อยู่ มักมีคนเห็นนางผีมานั่งอยู่ที่ใต้ต้นตะแบก คอยหลอกหลอนผู้คนที่เดินทางผ่านไปมา หรือบางทีก็ห้อยหัวลงมาหลอก ข่าวลือที่ว่านี้ จึงไม่ค่อยมีใครกล้าใช้เส้นทางนี้กันมากนัก และไม่มีใครกล้าจะตัดต้นตะแบกทิ้งไป ยิ่งในตอนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปด้วยแล้ว บรรยากาศบริเวณต้นตะแบกยิ่งน่ากลัวไปใหญ่ เงาทะมึนของต้นไม้ และกิ่งก้านของมันที่แกว่งไกวไปตามแรงลม มองไปเหมือนรูปร่างของนางผีร้าย เสียงกิ่งใบสั่นไหวดังซู่ซ่า ระคนมากับเสียงหวีดหวิวของสายลม ฟังดูเหมือนเสียงร้องคร่ำครวญของผู้หญิง
ลุงอ่ำแกมีบ้านอยู่ในเส้นทางของต้นตะแบก แกจำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้ไปขายของในตลาด มีอยู่คืนหนึ่ง แกบังเอิญต้องไปทำงานอยู่ในตลาดจนมืดค่ำ กว่าจะได้กลับบ้านก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มเข้าไปแล้ว
คืนนั้นแกขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจผ่านไปถึงต้นตะแบกใหญ่ รถเจ้ากรรมเกิดมาเสียตรงบริเวณนั้นพอดี แกจึงถอดหัวเทียนออกมาปัด แกปัดไปก็เหลียวมองไปอย่างคนใจคอไม่สู้ดี แสงไฟจากเสาไฟก็อยู่ห่างออกไปจนมีเพียงสลัว แกต้องใช้ไฟฉายมาส่องช่วย ขณะนั้นเอง หูแกก็ได้ยินเสียงเรียกของผู้หญิงดังมาจากทางต้นตะแบก แกจึงแข็งใจเอาไฟฉายส่องดู แล้วก็ต้องตกใจจนแทบช็อก เมื่อเห็นผู้หญิงผมยาว ๆ หน้าซีดขาว ห้อยตัวลงมาจากกิ่งตะแบก ดวงตาลึกโบ๋มองมาที่แก มือข้างหนึ่งกวักเรียก
“ลุงจ๋า ไปไหนมาจ๊ะ”
เท่านั้นเอง ลุงอ่ำก็ใส่ตีนหมาโกยอ้าวไปอย่างไม่ยอมเหลียวหลัง ทิ้งมอเตอร์ไซค์อย่างไม่ใยดี เช้าวันต่อมา ข่าวลุงอ่ำถูกผีที่ต้นตะแบกหลอก ก็ร่ำลือไปทั่ว ยิ่งเพิ่มความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้านในละแวกนั้นเพิ่มมากขึ้น
ไอ้เปี๊ยกมันเป็นเพื่อนของผม เราเติบโตมาด้วยกันอย่างสนิทสนม เห็นผมที่ไหนก็มักเห็นไอ้เปี๊ยกที่นั่น มีเรื่องอะไรเราก็จะเล่าสู่กันฟัง อย่างไม่มีปิดบัง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะร้ายหรือดี เราจะคุยกันอยู่เสมอ แต่แล้วมันกับผมก็เหินห่างกันไป ตั้งแต่ไอ้เปี๊ยกมันริอ่านไปมีแฟน แฟนของมันชื่อน้องพลอย ไอ้เปี๊ยกมันรักจริงหวังแต่ง ทำงานเก็บเงินตัวเป็นเกลียว เพื่อหาเงินไปสู่ขอน้องพลอยมาแต่งงาน ตอนนั้นโลกของมันคงเป็นสีชมพูไปหมด ผมกับมันเลยไม่ค่อยได้เจอกันอีก
อยู่มาวันหนึ่ง ไอ้เปี๊ยกมันมาหาผมที่บ้าน หน้าตาของมันดูหม่นหมองซีดเซียว บ่นแต่ว่าอยากตาย เหตุเพราะน้องพลอยเปลี่ยนใจไปมีแฟนใหม่ และกำลังจะแต่งงานกับไอ้ผู้ชายคนนั้น มันรู้สึกผิดหวังเอามาก ๆ กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว ผมสงสารมันจึงได้แต่ปลอบใจมัน แต่ดูเหมือนไม่ค่อยจะได้ผลสักเท่าไหร่ ไอ้เปี๊ยกกลับบ้านไปด้วยอาการของคนหัวใจสลาย จากนั้นมันก็หายหน้าไปนานเลยทีเดียว
จนกระทั่งวันหนึ่งมันมาหาผมที่บ้านอีก แต่มาคราวนี้ไอ้เปี๊ยกดูมีหน้าตาที่สดใสขึ้น ไม่ได้มีท่าทางซึมเศร้าซังกะตายเหมือนแต่ก่อน ผมจึงถามมันไปว่า มันดีกับแฟนแล้วใช่ไหม มันบอกว่าไม่ใช่ น้องพลอยได้แต่งงานไปแล้ว และมันก็ไม่อยากตายแล้วเช่นเดียวกัน ชีวิตของมันมีคุณค่า มีชีวิตอยู่ก็ต้องต่อสู้กันต่อไป ผมรู้สึกแปลกใจ ถามมันไปว่า อะไรที่ทำให้ความคิดของมันเปลี่ยน มันจึงเล่าให้ผมฟัง วันที่น้องพลอยแต่งงาน มันเสียใจแบบสุด ๆ เลยคิดจะไปผูกคอตายที่ต้นตะแบกใหญ่ จึงไปที่นั่นในเวลากลางคืน ขณะกำลังยืนมองอยู่ต้นไม้ เพื่อจะขึ้นไปผูกคอตาย ก็เห็นผู้หญิงผมยาว หน้าขาวซีด ตาลึกโบ๋ ห้อยตัวลงมาจากกิ่งไม้มาอยู่ตรงหน้ามันพอดี ตอนนั้นมันตกใจเกือบจะวิ่งหนีไปแล้ว แต่มานึกได้ว่าตัวเองกำลังจะผูกคอตาย จะต้องไปกลัวผีทำไม เดี๋ยวมันก็ต้องเป็นผีไปเหมือนกัน มันก็เลยมองผีตนนั้นนิ่งอยู่
ผีถามมันว่า มาฆ่าตัวตายทำไม ไอ้เปี๊ยกตอบว่ามันเสียใจที่ถูกแฟนทิ้ง ผีก็พูดด้วยเสียงอันเยือกเย็นขึ้นว่า อย่าคิดมาฆ่าตัวตายเลย เพราะมันจะเป็นบาปหนัก เหมือนตัวเธอเองที่ผูกคอตายเพราะถูกคนรักทิ้งไป แล้วมาผูกคอตายอยู่ตรงนี้ วิญญาณของเธอถูกจองจำ ไปไหนไม่ได้ ต้องทนทุกข์ทรมานจากความอดอยาก ทั้งร้อนทั้งหนาว ทั้งเงียบเหงา แต่ไปไหนไม่ได้ แถมคนที่ทำให้เธอต้องฆ่าตัวตาย เขาก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรไปกับเธอ มีแต่เธอคนเดียวที่เป็นทุกข์อยู่ตรงนี้ ยามใดมีคนผ่านมา เพียงเพื่อต้องการแสดงตัวออกมาให้เขารู้ เพื่อขอส่วนบุญ แต่พวกเขาก็พากันหวาดกลัว วิ่งหนีกันไปหมด เธอทำอะไรไม่ได้ จึงต้องทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้ ถ้าย้อนเวลากลับไป จะไม่ฆ่าตัวตายอย่างเด็ดขาด แต่จะไม่ยอมพ่ายแพ้แก่ชีวิต ต้องเอาชนะด้วยความมุมานะ สร้างตัวเองให้มีคุณค่าเพิ่มขึ้นมา ทำไมต้องตายให้กับคนที่ไม่เห็นค่าของตัวเราเอง ยังมีพ่อแม่พี่น้องอีกมากมายที่จะต้องเสียใจจากการกระทำของเรา ไอ้เปี๊ยกบอกว่า มันยืนมองนางผีที่มีรูปร่างผอมโซ เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก มีเชือกรัดคอจนกิ่ว ตาลึกโบ๋มีน้ำตาไหลรินอย่างน่าเวทนา ตอนนั้นมันบอกว่าเริ่มคิดได้ และล้มเลิกความตั้งใจจะฆ่าตัวตาย บอกลาผีกลับบ้านไป
ตั้งแต่นั้นมา ไอ้เปี๊ยกก็หันมาทำตัวใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน โดยไม่หวนไปนึกถึงน้องพลอยอีกเลย จนตอนนี้มันมีเงินทองมากพอสมควร และมีคนรักใหม่ที่ใส่ใจในตัวมัน มีโครงการจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้
ผมฟังมันด้วยความตื้นตันอยู่ในใจ บางครั้งคนเราก็เข้าใจผีผิด ผีไม่ได้หลอกหลอนคนให้กลัว แต่แสดงตัวออกมาเพื่อขอส่วนบุญต่างหาก ตั้งแต่นั้นมาสายตาผมที่มองไปยังต้นตะแบกก็เปลี่ยนไป ผมไม่ค่อยกลัวผีที่ต้นตะแบกเท่าไหร่แล้ว และยังหมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ผีที่ต้นตะแบกนั้นอีกด้วย
จบ
ผลงานลิมีที่ช่องหลังไมค์แชลแนลด้วยค่ะ
มีที่ช่องอุทัยทิพ์ด้วยค่ะ น้องเขาชอบงานเรื่องสั้นของลิ จึงมอบเรื่องสั้นสุดดราม่าเรื่องสำนึกสุดท้ายของมือปืนให้น้องไป
สองช่องนี้ได้รับการอนุญาตให้นำผลงานของลิไปใช้อย่างถูกต้องแล้วค่ะ
โชคดีที่เจอผี
เล่าลือกันว่าต้นตะแบกต้นนี้เคยมีประวัติผู้หญิงมาผูกคอตายที่นี่ ต้นตะแบกจึงมีผีตนนั้นสิงสู่อยู่ มักมีคนเห็นนางผีมานั่งอยู่ที่ใต้ต้นตะแบก คอยหลอกหลอนผู้คนที่เดินทางผ่านไปมา หรือบางทีก็ห้อยหัวลงมาหลอก ข่าวลือที่ว่านี้ จึงไม่ค่อยมีใครกล้าใช้เส้นทางนี้กันมากนัก และไม่มีใครกล้าจะตัดต้นตะแบกทิ้งไป ยิ่งในตอนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปด้วยแล้ว บรรยากาศบริเวณต้นตะแบกยิ่งน่ากลัวไปใหญ่ เงาทะมึนของต้นไม้ และกิ่งก้านของมันที่แกว่งไกวไปตามแรงลม มองไปเหมือนรูปร่างของนางผีร้าย เสียงกิ่งใบสั่นไหวดังซู่ซ่า ระคนมากับเสียงหวีดหวิวของสายลม ฟังดูเหมือนเสียงร้องคร่ำครวญของผู้หญิง
ลุงอ่ำแกมีบ้านอยู่ในเส้นทางของต้นตะแบก แกจำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้ไปขายของในตลาด มีอยู่คืนหนึ่ง แกบังเอิญต้องไปทำงานอยู่ในตลาดจนมืดค่ำ กว่าจะได้กลับบ้านก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มเข้าไปแล้ว
คืนนั้นแกขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจผ่านไปถึงต้นตะแบกใหญ่ รถเจ้ากรรมเกิดมาเสียตรงบริเวณนั้นพอดี แกจึงถอดหัวเทียนออกมาปัด แกปัดไปก็เหลียวมองไปอย่างคนใจคอไม่สู้ดี แสงไฟจากเสาไฟก็อยู่ห่างออกไปจนมีเพียงสลัว แกต้องใช้ไฟฉายมาส่องช่วย ขณะนั้นเอง หูแกก็ได้ยินเสียงเรียกของผู้หญิงดังมาจากทางต้นตะแบก แกจึงแข็งใจเอาไฟฉายส่องดู แล้วก็ต้องตกใจจนแทบช็อก เมื่อเห็นผู้หญิงผมยาว ๆ หน้าซีดขาว ห้อยตัวลงมาจากกิ่งตะแบก ดวงตาลึกโบ๋มองมาที่แก มือข้างหนึ่งกวักเรียก
“ลุงจ๋า ไปไหนมาจ๊ะ”
เท่านั้นเอง ลุงอ่ำก็ใส่ตีนหมาโกยอ้าวไปอย่างไม่ยอมเหลียวหลัง ทิ้งมอเตอร์ไซค์อย่างไม่ใยดี เช้าวันต่อมา ข่าวลุงอ่ำถูกผีที่ต้นตะแบกหลอก ก็ร่ำลือไปทั่ว ยิ่งเพิ่มความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้านในละแวกนั้นเพิ่มมากขึ้น
ไอ้เปี๊ยกมันเป็นเพื่อนของผม เราเติบโตมาด้วยกันอย่างสนิทสนม เห็นผมที่ไหนก็มักเห็นไอ้เปี๊ยกที่นั่น มีเรื่องอะไรเราก็จะเล่าสู่กันฟัง อย่างไม่มีปิดบัง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะร้ายหรือดี เราจะคุยกันอยู่เสมอ แต่แล้วมันกับผมก็เหินห่างกันไป ตั้งแต่ไอ้เปี๊ยกมันริอ่านไปมีแฟน แฟนของมันชื่อน้องพลอย ไอ้เปี๊ยกมันรักจริงหวังแต่ง ทำงานเก็บเงินตัวเป็นเกลียว เพื่อหาเงินไปสู่ขอน้องพลอยมาแต่งงาน ตอนนั้นโลกของมันคงเป็นสีชมพูไปหมด ผมกับมันเลยไม่ค่อยได้เจอกันอีก
อยู่มาวันหนึ่ง ไอ้เปี๊ยกมันมาหาผมที่บ้าน หน้าตาของมันดูหม่นหมองซีดเซียว บ่นแต่ว่าอยากตาย เหตุเพราะน้องพลอยเปลี่ยนใจไปมีแฟนใหม่ และกำลังจะแต่งงานกับไอ้ผู้ชายคนนั้น มันรู้สึกผิดหวังเอามาก ๆ กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว ผมสงสารมันจึงได้แต่ปลอบใจมัน แต่ดูเหมือนไม่ค่อยจะได้ผลสักเท่าไหร่ ไอ้เปี๊ยกกลับบ้านไปด้วยอาการของคนหัวใจสลาย จากนั้นมันก็หายหน้าไปนานเลยทีเดียว
จนกระทั่งวันหนึ่งมันมาหาผมที่บ้านอีก แต่มาคราวนี้ไอ้เปี๊ยกดูมีหน้าตาที่สดใสขึ้น ไม่ได้มีท่าทางซึมเศร้าซังกะตายเหมือนแต่ก่อน ผมจึงถามมันไปว่า มันดีกับแฟนแล้วใช่ไหม มันบอกว่าไม่ใช่ น้องพลอยได้แต่งงานไปแล้ว และมันก็ไม่อยากตายแล้วเช่นเดียวกัน ชีวิตของมันมีคุณค่า มีชีวิตอยู่ก็ต้องต่อสู้กันต่อไป ผมรู้สึกแปลกใจ ถามมันไปว่า อะไรที่ทำให้ความคิดของมันเปลี่ยน มันจึงเล่าให้ผมฟัง วันที่น้องพลอยแต่งงาน มันเสียใจแบบสุด ๆ เลยคิดจะไปผูกคอตายที่ต้นตะแบกใหญ่ จึงไปที่นั่นในเวลากลางคืน ขณะกำลังยืนมองอยู่ต้นไม้ เพื่อจะขึ้นไปผูกคอตาย ก็เห็นผู้หญิงผมยาว หน้าขาวซีด ตาลึกโบ๋ ห้อยตัวลงมาจากกิ่งไม้มาอยู่ตรงหน้ามันพอดี ตอนนั้นมันตกใจเกือบจะวิ่งหนีไปแล้ว แต่มานึกได้ว่าตัวเองกำลังจะผูกคอตาย จะต้องไปกลัวผีทำไม เดี๋ยวมันก็ต้องเป็นผีไปเหมือนกัน มันก็เลยมองผีตนนั้นนิ่งอยู่
ผีถามมันว่า มาฆ่าตัวตายทำไม ไอ้เปี๊ยกตอบว่ามันเสียใจที่ถูกแฟนทิ้ง ผีก็พูดด้วยเสียงอันเยือกเย็นขึ้นว่า อย่าคิดมาฆ่าตัวตายเลย เพราะมันจะเป็นบาปหนัก เหมือนตัวเธอเองที่ผูกคอตายเพราะถูกคนรักทิ้งไป แล้วมาผูกคอตายอยู่ตรงนี้ วิญญาณของเธอถูกจองจำ ไปไหนไม่ได้ ต้องทนทุกข์ทรมานจากความอดอยาก ทั้งร้อนทั้งหนาว ทั้งเงียบเหงา แต่ไปไหนไม่ได้ แถมคนที่ทำให้เธอต้องฆ่าตัวตาย เขาก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรไปกับเธอ มีแต่เธอคนเดียวที่เป็นทุกข์อยู่ตรงนี้ ยามใดมีคนผ่านมา เพียงเพื่อต้องการแสดงตัวออกมาให้เขารู้ เพื่อขอส่วนบุญ แต่พวกเขาก็พากันหวาดกลัว วิ่งหนีกันไปหมด เธอทำอะไรไม่ได้ จึงต้องทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้ ถ้าย้อนเวลากลับไป จะไม่ฆ่าตัวตายอย่างเด็ดขาด แต่จะไม่ยอมพ่ายแพ้แก่ชีวิต ต้องเอาชนะด้วยความมุมานะ สร้างตัวเองให้มีคุณค่าเพิ่มขึ้นมา ทำไมต้องตายให้กับคนที่ไม่เห็นค่าของตัวเราเอง ยังมีพ่อแม่พี่น้องอีกมากมายที่จะต้องเสียใจจากการกระทำของเรา ไอ้เปี๊ยกบอกว่า มันยืนมองนางผีที่มีรูปร่างผอมโซ เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก มีเชือกรัดคอจนกิ่ว ตาลึกโบ๋มีน้ำตาไหลรินอย่างน่าเวทนา ตอนนั้นมันบอกว่าเริ่มคิดได้ และล้มเลิกความตั้งใจจะฆ่าตัวตาย บอกลาผีกลับบ้านไป
ตั้งแต่นั้นมา ไอ้เปี๊ยกก็หันมาทำตัวใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน โดยไม่หวนไปนึกถึงน้องพลอยอีกเลย จนตอนนี้มันมีเงินทองมากพอสมควร และมีคนรักใหม่ที่ใส่ใจในตัวมัน มีโครงการจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้
ผมฟังมันด้วยความตื้นตันอยู่ในใจ บางครั้งคนเราก็เข้าใจผีผิด ผีไม่ได้หลอกหลอนคนให้กลัว แต่แสดงตัวออกมาเพื่อขอส่วนบุญต่างหาก ตั้งแต่นั้นมาสายตาผมที่มองไปยังต้นตะแบกก็เปลี่ยนไป ผมไม่ค่อยกลัวผีที่ต้นตะแบกเท่าไหร่แล้ว และยังหมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ผีที่ต้นตะแบกนั้นอีกด้วย