สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ควรเลือกข้อ 2 ครับ ถ้ากลับไปทำงาน ค่าชดเชยต่างๆ นาๆ จะไม่ได้เลย เงินเดือนย้อนหลังก็ไม่ได้ 5 เดือนเต็มหรอก อ้างว่าไม่ได้ทำงานจะให้เงินเดือนเต็มได้ไง
มันเสียความรู้สึกขนาดนี้แล้ว ก็ไม่ควรกลับไปแล้วนะครับ เค้าแค่อยากประหยัดเงิน อีกหน่อยรับเราเข้าทำงาน แล้วก็เตือนว่าทำผิด พอเตือนว่าผิดเรื่องเดียวกัน 2 ครั้ง เท่ากับ ผิดซ้ำคำเตือน ไล่ออกได้ครับ
มันเสียความรู้สึกขนาดนี้แล้ว ก็ไม่ควรกลับไปแล้วนะครับ เค้าแค่อยากประหยัดเงิน อีกหน่อยรับเราเข้าทำงาน แล้วก็เตือนว่าทำผิด พอเตือนว่าผิดเรื่องเดียวกัน 2 ครั้ง เท่ากับ ผิดซ้ำคำเตือน ไล่ออกได้ครับ
ความคิดเห็นที่ 12
คล้ายเคสที่ผมทำให้เลย แต่เคสผมจบที่การคุยกับ ผบห ก่อนที่จะฟ้อง ของผมไม่ผิดอะไรด้วย เขาก็ให้ข้อเสนอนี้มา แต่ผมเลือกไม่รับครับ เพราะว่าไม่รุ้ว่าจะมีการกลั่นแกล้ง และบีบให่เราออกอีกหรือไม่ แต่ทั้งนี้การตัดสินใจคือต้องมองจาก
1. อายุ เช่นถ้าเกิน 40 ขึ้นไปตำแหน่งไม่เยอะหางานยากแล้ว หรือเกิน 50 หางานไม่ได้ ดังนั้นกลับไปน่าจะคุ้มกว่า แต่ต้องกลับไปแบบนับอายุงานต่อเนื่องนะ แล้วทำตัวให้อย่าให้ผิด ถ้าเขาไล่ออกอีก ก็ฟ้องอีกรอบ
2. เงินค่าชดเชยที่ได้ ว่าได้เยอะแค่ไหน เทียบกับการไปทำงานที่เดิม เช่นทำงานมา 6 ปี ศาลสั่งจ่ายค่าชดเชย ตามกฎหมาย+ บอกกล่าวล่วงหน้า 9 เดือน และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมอีก 6 เดือนรวม 15 เดือน ดังนั้น ถ้ากลับไปได้แค่ 5 เดือนและต้องทำงานต่อ อาจไม่คุ้มครับ
ผมคิดตามนี้ครับ แต่เคสนี้งงนิดนิง ทำไมศาลตัดสินไวจังครับ
1. อายุ เช่นถ้าเกิน 40 ขึ้นไปตำแหน่งไม่เยอะหางานยากแล้ว หรือเกิน 50 หางานไม่ได้ ดังนั้นกลับไปน่าจะคุ้มกว่า แต่ต้องกลับไปแบบนับอายุงานต่อเนื่องนะ แล้วทำตัวให้อย่าให้ผิด ถ้าเขาไล่ออกอีก ก็ฟ้องอีกรอบ
2. เงินค่าชดเชยที่ได้ ว่าได้เยอะแค่ไหน เทียบกับการไปทำงานที่เดิม เช่นทำงานมา 6 ปี ศาลสั่งจ่ายค่าชดเชย ตามกฎหมาย+ บอกกล่าวล่วงหน้า 9 เดือน และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมอีก 6 เดือนรวม 15 เดือน ดังนั้น ถ้ากลับไปได้แค่ 5 เดือนและต้องทำงานต่อ อาจไม่คุ้มครับ
ผมคิดตามนี้ครับ แต่เคสนี้งงนิดนิง ทำไมศาลตัดสินไวจังครับ
ความคิดเห็นที่ 13
ในความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่า
- เลือกข้อ 2.รับค่าชดเชย/ค่าเสียหาย ตามคำพิพากษาเต็มจำนวน แล้วไปประกอบอาชีพอื่นตามทาง
- การที่ บริษัทยื่นข้อเสนอให้ 2 ทาง เดาว่าข้อ 1 ทางบริษัทก็ไม่ได้ต้องการให้ จขกท กลับมา แต่ยื่นเป็นทางเลือกไปให้เพื่อ เอาหน้า ต่อศาล
ถ้าบริษัทเห็นคุณค่าเราจริง จะไม่เกิดกรณีการ ไล่อออก หรือเลิกจ้างแบบไม่เป็นธรรม ที่เป็นที่มาของการฟ้องร้องต่อศาล
ดังนั้น เมื่อเหตุการณ์ล่วงเลยมาจนถึงขั้นฟ้องร้องต่อศาลและศาลพิจารณาให้พนักงานชนะคดี ก็ควรจบและสิ้นสุดกันเท่านี้
เลือกรับค่าชดเชยแล้วแยกทางออกมาจะเหมาะกว่า
หรือไม่ทาง จขกท ควรจะกลับไปลองพิจารณาอีกครั้ง ว่าทำไมเราถึงเลือกที่จะไปฟ้องร้องต่อศาลตั้งแต่แรก
เพราะได้รับความไม่เป็นธรรม หรือ เพราะต้องการกลับไปทำงานที่เก่าเช่นเดิม
ถ้าเป็นเรามาถึงขั้นฟ้องร้อง สิ่งที่เราต้องการได้รับคือความเป็นธรรม ว่าเราบริสุทธิ์ เราไม่มีความผิด และบริษัทจะทำแบบนี้กับใครๆก็ได้ ไม่ได้
แล้วแยกค่ะ ไปตามทางดีกว่า สบายใจ ไม่ระแวง ถ้ากลับไป ยังไงก็หายใจไม่สะดวกแน่นอน
- เลือกข้อ 2.รับค่าชดเชย/ค่าเสียหาย ตามคำพิพากษาเต็มจำนวน แล้วไปประกอบอาชีพอื่นตามทาง
- การที่ บริษัทยื่นข้อเสนอให้ 2 ทาง เดาว่าข้อ 1 ทางบริษัทก็ไม่ได้ต้องการให้ จขกท กลับมา แต่ยื่นเป็นทางเลือกไปให้เพื่อ เอาหน้า ต่อศาล
ถ้าบริษัทเห็นคุณค่าเราจริง จะไม่เกิดกรณีการ ไล่อออก หรือเลิกจ้างแบบไม่เป็นธรรม ที่เป็นที่มาของการฟ้องร้องต่อศาล
ดังนั้น เมื่อเหตุการณ์ล่วงเลยมาจนถึงขั้นฟ้องร้องต่อศาลและศาลพิจารณาให้พนักงานชนะคดี ก็ควรจบและสิ้นสุดกันเท่านี้
เลือกรับค่าชดเชยแล้วแยกทางออกมาจะเหมาะกว่า
หรือไม่ทาง จขกท ควรจะกลับไปลองพิจารณาอีกครั้ง ว่าทำไมเราถึงเลือกที่จะไปฟ้องร้องต่อศาลตั้งแต่แรก
เพราะได้รับความไม่เป็นธรรม หรือ เพราะต้องการกลับไปทำงานที่เก่าเช่นเดิม
ถ้าเป็นเรามาถึงขั้นฟ้องร้อง สิ่งที่เราต้องการได้รับคือความเป็นธรรม ว่าเราบริสุทธิ์ เราไม่มีความผิด และบริษัทจะทำแบบนี้กับใครๆก็ได้ ไม่ได้
แล้วแยกค่ะ ไปตามทางดีกว่า สบายใจ ไม่ระแวง ถ้ากลับไป ยังไงก็หายใจไม่สะดวกแน่นอน
ความคิดเห็นที่ 10
กลับเข้าไปทำงาน เขาก็ทยอยจ่ายเงินคุณทีละหน่อยๆ ทำให้เงินสดถึงมือคุณช้าลง จากที่จะควรได้เป็นก้อนใหญ่พร้อมดอกเบี้ยเพื่อไปสร้างประโยชน์ให้งอกเงย ก็ต้องมารับทีละน้อยๆ แถมยังต้องทำงานแลกมาอีก
เผลอๆ เจอจับผิดลงโทษ คราวนี้คุณดิ้นไม่หลุดแน่
จากกันไม่ดีแบบนี้ จะกลับเข้าไปให้เขาจ้องเชือดคุณเหรอไง ในทางธุรกิจ เขาเสนอแบบนี้ เพราะไม่อยากจ่ายเงินก้อนใหญ่กว่านั้นให้คุณ
วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่สามารถปกป้องลูกจ้างจากการใส่ร้ายป้ายสีกันเองแบบนี้ ไม่ควรกลับเข้าไปทำงานอีก มันเปลี่ยนยากมากๆ เพราะคนชุดเดิมยังอยู่ครบ
เผลอๆ เจอจับผิดลงโทษ คราวนี้คุณดิ้นไม่หลุดแน่
จากกันไม่ดีแบบนี้ จะกลับเข้าไปให้เขาจ้องเชือดคุณเหรอไง ในทางธุรกิจ เขาเสนอแบบนี้ เพราะไม่อยากจ่ายเงินก้อนใหญ่กว่านั้นให้คุณ
วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่สามารถปกป้องลูกจ้างจากการใส่ร้ายป้ายสีกันเองแบบนี้ ไม่ควรกลับเข้าไปทำงานอีก มันเปลี่ยนยากมากๆ เพราะคนชุดเดิมยังอยู่ครบ
แสดงความคิดเห็น
บริษัทยื่นข้อเสนอรับกลับเข้าทำงาน ภายหลังจาก"ไล่ออก"แล้ว ควรทำอย่างไร
*เราเป็นโจทก์ฟ้องคดีเลิกจ้างไม่เป็นธรรมต่อบริษัท เพื่อเรียกร้องเงินค่าชดเชยและค่าเสียหายตามกฎหมาย ต่อมา...
*ผลคดีปรากฎว่า
ศาลพิพากษาให้เราชนะคดี และให้บริษัทจ่ายค่าชดเชยพร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้เรา เนื่องจากเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม เพราะเราไม่ได้ผิดวินัยร้ายแรง ต่อมา...
*บริษัทยื่นข้อเสนอให้ 2 ทางดังนี้
1.ข้อเสนอรับกลับเข้าทำงานอีกครั้ง โดยให้ ตำแหน่งเดิม เงินเดือนเดิม และ จ่ายเงินเดือนเดิมย้อนคืนให้เมื่อตอนที่เลิกจ้างไป 5 เดือน หรือ...
2.จะเลือกรับค่าชดเชย/ค่าเสียหาย ตามคำพิพากษาเต็มจำนวน แล้วไปประกอบอาชีพอื่นตามทาง
ทั้งนี้
ขอความคิดเห็นและคำแนะนำในแง่เงื่อนต่างๆเพื่อนำไปพิจารณาว่า ควรเลือกแบบไหนดี ระหว่าง
ข้อ1. ควรกลับเข้าไปทำงาน หรือ
ข้อ2.เมื่อออกมาแล้ว ก็ควรออกมาเลย หากกลับเข้าไป อาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพหรืออาจถูกกดดัน บีบให้ออกอีก
*ปัจจุบันยังไม่ได้งานใหม่เลย