4 ม.ค. 2566 - 11:45 น.
เมียช็อกซ้ำ ผัวเหี้ยม ฆ่าลูก3ขวบ ฝังถังแก๊ส เขียนจดหมายขู่ฆ่าทั้งตระกูล จี้ ตำรวจเร่งตามจับ ด้าน ย่า เผยผลชันสูตรร่างหลานสาว สุดเศร้าเตรียมจัดงานศพ
จากกรณี นายรณชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ก่อเหตุอุ้มลูกสาวแท้ ๆ วัย 3 ขวบ ออกจากบ้านช่วงเช้ามืดเข้าไปในป่ามันสำปะหลังบริเวณด้านหลังบ้านพักของตนเองในพื้นที่ ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ก่อนที่ นางอนงค์นาฎ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายรณชัยตามหาจนมาพบว่าหลานสาววัย 3 ขวบเสียชีวิต สภาพศพถูกดินยัดปากแล้วหมกศพภายในไร่มัน ส่วนนายรณชัยได้ขับจักรยานยนต์หลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมียช็อกซ้ำ ผัวเหี้ยม ฆ่าลูก3ขวบ ฝังถังแก๊ส เขียนจดหมายขู่ฆ่าทั้งตระกูล จี้ ตำรวจเร่งตามจับ
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ม.ค.2566 ที่บ้านของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ ที่ถูกพ่อแท้ ๆ ฆ่าจนเสียชีวิต พบว่า นางอนงค์นาฎ ซึ่งเป็นย่าของผู้ตาย และเป็นแม่ของผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนี กำลังจัดเตรียมสถานที่เพื่อจัดงานสวดอภิธรรมศพให้กับหลานสาว ซึ่งศพได้ถูกเคลื่อนย้ายนำกลับมาส่งให้คืนกับญาติที่บ้านเมื่อช่วงเช้าวันนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด โดยมีญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมกันจัดงาน พร้อมกับต่างสาปแช่งพ่อของเด็กที่ฆ่าลูกน้อยของตนเองอย่างเหี้ยมโหด
นางอนงค์นาฎ กล่าวว่า ผลการชันสูตรสภาพศพของหลานสาว ทางแพทย์โรงพยาบาลลาดยาวได้ระบุการเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจช่วงบน ซึ่งสภาพศพของน้อง มีทั้งดินอุดที่ปาก ที่จมูก และตาทั้ง 2 ข้าง แต่ร่องรอยทำร้ายอื่น ๆ ไม่พบแต่อย่างใด มีเพียงรอยบาดแผลที่หน้าผากของหลาน ที่แพทย์ยังไม่ลงความเห็นว่า เป็นแผลที่ถูกทำร้าย หรือเป็นแผลที่เกิดขึ้นตอนถูกอุ้มร่างไปที่ป่ามัน
นางอนงค์นาฎ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2565 นายรณชัยได้ออกไปปาร์ตี้สังสรรค์ในช่วงเทศกาลปีใหม่นานข้ามวันข้ามปี จนเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2566 นายรณชัยก็เริ่มมีอาการไม่หลับไม่นอน และยังออกไปสังสรรค์ตามปกติ กระทั่งมาก่อเหตุอุ้มลูกสาวของตัวเองไปฆ่าหมกไร่มัน ส่วนนายรณชัยเมื่อก่อนเคยไปทำงานอยู่ที่ กทม.
นางอนงค์นาฎ กล่าวอีกว่า และพบรักกับ น.ส.ปพัศราพร (ขอสงวนนามสกุล) ก่อนจะอยู่กินและมีลูกน้อย คือ ด.ญ.เอ แต่หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็เลิกแยกทางกัน โดยนายรณชัยหอบลูกสาวกลับมาให้ตนเลี้ยงที่บ้าน ส่วนน.ส.ปพัศราพรก็อยู่ทำงานในพื้นที่ จ.นนทบุรี
“หลังจากที่ลูกชายย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน อ.ลาดยาว ก็พบว่า ลูกของฉันมีอาการทางประสาทอยู่ ซึ่งก็ยังคงต้องกินยารักษาอยู่เรื่อยมา แต่ตัวลูกมันไม่ค่อยชอบจะทานยา อีกทั้ง มันก็ชอบกินเหล้าเบียร์อยู่เป็นประจำ แถมยังชอบสูบกัญชาด้วย ซึ่งตั้งแต่ก่อนวันปีใหม่ อาการมันก็ยังปกติดีอยู่ ยังอุ้มหยอกล้อกับลูกของมันสนุกสนาน แต่พอหลังจากวันปีใหม่ มันก็ขี่รถหิ้วเหล้าไปกินที่กระท่อมท้ายไร่คนเดียว แล้วอาการมันก็เปลี่ยนไปทันที จนมาเกิดเหตุสลดขึ้น ฉันอยากให้มันรีบมามอบตัวโดยด่วน” นางอนงค์นาฎ กล่าว
ด้าน นายไพศาล (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นตาของ ด.ญ.เอ กล่าวว่า ตอนที่นายรณชัยอยู่กินกับลูกของตน เจ้าตัวชอบเสพยาเสพติด ทั้งไอซ์ และยาบ้า ซึ่งลูกสาวตนก็ทนไม่ไหว จึงขอเลิกและแยกทางกัน ส่วนหลานสาวคนนี้ ตนรักมาก แล้วยิ่งมารู้เรื่องเมื่อวาน ก็ยิ่งช็อกตกใจ จึงรีบเดินทางมาที่นครสวรรค์ อยากวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตามจับตัวอดีตลูกเขยรายนี้ให้ได้โดยเร็วด้วย หากยังจับไม่ได้ ตนก็จะไม่ยอมเผาร่างหลานสาวอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ น.ส.ปพัศราพร แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า ตนกับนายรณชัยเลิกรากันมานานกว่า 2 ปีแล้ว และเพิ่งจะขาดการติดต่อกันได้ประมาณ 1 ปี แต่ยังคงติดต่อกับลูกสาว และนางอนงค์นาฎอยู่ตลอด ซึ่งตนทำงานอยู่ที่ จ.นนทบุรี แล้วก็ต้องมาช็อกตกใจ เมื่อทราบข่าวช่วงตี 4 ของเมื่อวาน ว่าลูกสาวถูกอดีตสามีฆ่าตาย จึงได้รีบเดินทางกลับมาที่บ้านลูก ที่ จ.นครสวรรค์
น.ส.ปพัศราพร กล่าวต่อว่า และเมื่อมาถึง ก็ต้องยิ่งตกใจเข้าไปอีก เมื่อทราบว่า ตำรวจพบหลักฐานว่า อดีตสามีนำถังแก๊สไปฝังดินไว้ที่บริเวณหลังบ้าน โดยมีแผ่นกระดาษถูกฝังไว้พร้อมกับถังแก๊สด้วย เมื่อเปิดกระดาษออกมาตรวจสอบ ก็พบว่า มีรายมือเขียนถึงรายชื่อที่จะลงมือฆ่า ทั้งครอบครัวตนและครอบครัวของอดีตของสามีให้หมด โดยเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไปตรวจสอบทั้งหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวย่า และแม่ของผู้ตายไปสอบปากคำ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อเตรียมขอศาลอนุมัติออกหมายจับ และคาดว่า น่าจะมีการออกหมายจับในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนการติดตามไล่ล่าตัวนายรณชัย เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามไล่ล่า พร้อมกระจายกันไปเฝ้าติดตามบ้านญาติ และเพื่อนของผู้ต้องหา ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่า ผู้ต้องหายังคงหลบหนีไปได้ไม่ไกลนัก
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7443917
เมียช็อกซ้ำ! ผัว ฆ่าลูก3ขวบ ฝังถังแก๊ส เขียนจม.ขู่ฆ่ายกครัว สลดผลชันสูตร
4 ม.ค. 2566 - 11:45 น.
เมียช็อกซ้ำ ผัวเหี้ยม ฆ่าลูก3ขวบ ฝังถังแก๊ส เขียนจดหมายขู่ฆ่าทั้งตระกูล จี้ ตำรวจเร่งตามจับ ด้าน ย่า เผยผลชันสูตรร่างหลานสาว สุดเศร้าเตรียมจัดงานศพ
จากกรณี นายรณชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ก่อเหตุอุ้มลูกสาวแท้ ๆ วัย 3 ขวบ ออกจากบ้านช่วงเช้ามืดเข้าไปในป่ามันสำปะหลังบริเวณด้านหลังบ้านพักของตนเองในพื้นที่ ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ก่อนที่ นางอนงค์นาฎ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายรณชัยตามหาจนมาพบว่าหลานสาววัย 3 ขวบเสียชีวิต สภาพศพถูกดินยัดปากแล้วหมกศพภายในไร่มัน ส่วนนายรณชัยได้ขับจักรยานยนต์หลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมียช็อกซ้ำ ผัวเหี้ยม ฆ่าลูก3ขวบ ฝังถังแก๊ส เขียนจดหมายขู่ฆ่าทั้งตระกูล จี้ ตำรวจเร่งตามจับ
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ม.ค.2566 ที่บ้านของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ ที่ถูกพ่อแท้ ๆ ฆ่าจนเสียชีวิต พบว่า นางอนงค์นาฎ ซึ่งเป็นย่าของผู้ตาย และเป็นแม่ของผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนี กำลังจัดเตรียมสถานที่เพื่อจัดงานสวดอภิธรรมศพให้กับหลานสาว ซึ่งศพได้ถูกเคลื่อนย้ายนำกลับมาส่งให้คืนกับญาติที่บ้านเมื่อช่วงเช้าวันนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด โดยมีญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมกันจัดงาน พร้อมกับต่างสาปแช่งพ่อของเด็กที่ฆ่าลูกน้อยของตนเองอย่างเหี้ยมโหด
นางอนงค์นาฎ กล่าวว่า ผลการชันสูตรสภาพศพของหลานสาว ทางแพทย์โรงพยาบาลลาดยาวได้ระบุการเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจช่วงบน ซึ่งสภาพศพของน้อง มีทั้งดินอุดที่ปาก ที่จมูก และตาทั้ง 2 ข้าง แต่ร่องรอยทำร้ายอื่น ๆ ไม่พบแต่อย่างใด มีเพียงรอยบาดแผลที่หน้าผากของหลาน ที่แพทย์ยังไม่ลงความเห็นว่า เป็นแผลที่ถูกทำร้าย หรือเป็นแผลที่เกิดขึ้นตอนถูกอุ้มร่างไปที่ป่ามัน
นางอนงค์นาฎ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2565 นายรณชัยได้ออกไปปาร์ตี้สังสรรค์ในช่วงเทศกาลปีใหม่นานข้ามวันข้ามปี จนเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2566 นายรณชัยก็เริ่มมีอาการไม่หลับไม่นอน และยังออกไปสังสรรค์ตามปกติ กระทั่งมาก่อเหตุอุ้มลูกสาวของตัวเองไปฆ่าหมกไร่มัน ส่วนนายรณชัยเมื่อก่อนเคยไปทำงานอยู่ที่ กทม.
นางอนงค์นาฎ กล่าวอีกว่า และพบรักกับ น.ส.ปพัศราพร (ขอสงวนนามสกุล) ก่อนจะอยู่กินและมีลูกน้อย คือ ด.ญ.เอ แต่หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็เลิกแยกทางกัน โดยนายรณชัยหอบลูกสาวกลับมาให้ตนเลี้ยงที่บ้าน ส่วนน.ส.ปพัศราพรก็อยู่ทำงานในพื้นที่ จ.นนทบุรี
“หลังจากที่ลูกชายย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน อ.ลาดยาว ก็พบว่า ลูกของฉันมีอาการทางประสาทอยู่ ซึ่งก็ยังคงต้องกินยารักษาอยู่เรื่อยมา แต่ตัวลูกมันไม่ค่อยชอบจะทานยา อีกทั้ง มันก็ชอบกินเหล้าเบียร์อยู่เป็นประจำ แถมยังชอบสูบกัญชาด้วย ซึ่งตั้งแต่ก่อนวันปีใหม่ อาการมันก็ยังปกติดีอยู่ ยังอุ้มหยอกล้อกับลูกของมันสนุกสนาน แต่พอหลังจากวันปีใหม่ มันก็ขี่รถหิ้วเหล้าไปกินที่กระท่อมท้ายไร่คนเดียว แล้วอาการมันก็เปลี่ยนไปทันที จนมาเกิดเหตุสลดขึ้น ฉันอยากให้มันรีบมามอบตัวโดยด่วน” นางอนงค์นาฎ กล่าว
ด้าน นายไพศาล (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นตาของ ด.ญ.เอ กล่าวว่า ตอนที่นายรณชัยอยู่กินกับลูกของตน เจ้าตัวชอบเสพยาเสพติด ทั้งไอซ์ และยาบ้า ซึ่งลูกสาวตนก็ทนไม่ไหว จึงขอเลิกและแยกทางกัน ส่วนหลานสาวคนนี้ ตนรักมาก แล้วยิ่งมารู้เรื่องเมื่อวาน ก็ยิ่งช็อกตกใจ จึงรีบเดินทางมาที่นครสวรรค์ อยากวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตามจับตัวอดีตลูกเขยรายนี้ให้ได้โดยเร็วด้วย หากยังจับไม่ได้ ตนก็จะไม่ยอมเผาร่างหลานสาวอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ น.ส.ปพัศราพร แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า ตนกับนายรณชัยเลิกรากันมานานกว่า 2 ปีแล้ว และเพิ่งจะขาดการติดต่อกันได้ประมาณ 1 ปี แต่ยังคงติดต่อกับลูกสาว และนางอนงค์นาฎอยู่ตลอด ซึ่งตนทำงานอยู่ที่ จ.นนทบุรี แล้วก็ต้องมาช็อกตกใจ เมื่อทราบข่าวช่วงตี 4 ของเมื่อวาน ว่าลูกสาวถูกอดีตสามีฆ่าตาย จึงได้รีบเดินทางกลับมาที่บ้านลูก ที่ จ.นครสวรรค์
น.ส.ปพัศราพร กล่าวต่อว่า และเมื่อมาถึง ก็ต้องยิ่งตกใจเข้าไปอีก เมื่อทราบว่า ตำรวจพบหลักฐานว่า อดีตสามีนำถังแก๊สไปฝังดินไว้ที่บริเวณหลังบ้าน โดยมีแผ่นกระดาษถูกฝังไว้พร้อมกับถังแก๊สด้วย เมื่อเปิดกระดาษออกมาตรวจสอบ ก็พบว่า มีรายมือเขียนถึงรายชื่อที่จะลงมือฆ่า ทั้งครอบครัวตนและครอบครัวของอดีตของสามีให้หมด โดยเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไปตรวจสอบทั้งหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวย่า และแม่ของผู้ตายไปสอบปากคำ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อเตรียมขอศาลอนุมัติออกหมายจับ และคาดว่า น่าจะมีการออกหมายจับในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนการติดตามไล่ล่าตัวนายรณชัย เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามไล่ล่า พร้อมกระจายกันไปเฝ้าติดตามบ้านญาติ และเพื่อนของผู้ต้องหา ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่า ผู้ต้องหายังคงหลบหนีไปได้ไม่ไกลนัก
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7443917