ชาวยุโรปและทวีปอเมริกามีมุมมองต่อ "ผี" (Ghost) อย่างไร?

... โดยทั่วไป "ผี" (Ghost) หมายถึง "ดวงจิตของสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะคนกับสัตว์ที่ไม่ได้สถิตอยู่ในร่างกายเดิมของตนเอง" และมีความสามารถในการสร้างปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติ(Paranormal phenomena) อาทิ เข้ามาสื่อสารในความฝัน, แสดงรูปลักษณ์ให้คนเห็น, เข้าสิงควบคุมร่างกายคน, ขยับเคลื่อนย้ายสิ่งของ และควบคุมปรากฎการณ์ธรรมชาติ เป็นต้น แต่ในมุมมองของศาสนาคริสต์ซึ่งชาวยุโรปและผู้คนในทวีปอเมริกานับถือกันเป็นส่วนใหญ่ เชื่อว่า"เมื่อดวงจิตออกจากร่างของตนแล้ว ก็ต้องไปรอการพิพากษาจากพระเจ้าในสถานที่ที่เรียกว่าแดนมรณา(Hades/Sheol) ว่าจะได้ตกนรกหรือขึ้นสวรรค์" อ้างอิงจากเนื้อหาในพระคัมภีร์(Bible)ที่ว่า "มีข้อกำหนดสำหรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะต้องตายหนหนึ่ง และหลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษาฉันใด" (ฮีบรู 9:27), เรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐีนุ่งผ้าป่านสีม่วงกับขอทานนาม"ลาซารัส" ในลูกา 16:19-31 และการบรรยายถึงแดนมรณาในวิวรณ์ 20:11-15 ดังนั้นในจักรวาลวิทยา(Cosmology)ของคริสต์ ดวงจิตของผู้ล่วงลับหรือผีไม่ปรากฏอยู่ในโลกของมนุษย์ ขณะที่ปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติล้วนเกิดขึ้นจากการดลบันดาลของทูตสวรรค์(Angel), ซาตาน(Satan) และหมู่มาร(Demons)ด้วยจุดประสงค์ต่างๆ (หากข้อความข้างต้นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนสามารถแนะนำข้อมูลที่แม่นยำกว่าได้)

ทว่าสื่อต่างๆในยุโรปและทวีปอเมริกาที่นำเสนอเนื้อหาแนว Paranormal Reality บ่อยครั้งมักมีการพูดถึง "ผี" ตามนิยามข้างต้น ยกตัวอย่าง Concept ของรายการ เช่น การล่าผีในบ้านยุควิกตอเรียนที่ยังมีผีเจ้าของบ้านคนก่อนๆคอยหลอกหลอนอยู่, การล่าผีในสถานที่ที่เคยเกิดการฆาตกรรม หรือการล่าผีตามสุสาน ฯลฯ จึงเกิดความสงสัยว่าชาวยุโรปและทวีปอเมริกาทั้งที่เป็นผู้ผลิตและผู้ที่นิยมเสพสื่อแนวดังกล่าวมีมุมมองเกี่ยวกับ "ผี" อย่างไร? ...
1. พวกเขาจัดวางความเชื่อเรื่อง "ผี" ไว้นอกจักรวาลวิทยาของคริสต์ เช่น คติชาวบ้าน(Folklore) และกลุ่มศาสนา Paganism เป็นต้น ใช่หรือไม่?
2. พวกเขาเอาความเชื่อเกี่ยวกับ "ผี" มาใส่ไว้ในจักรวาลวิทยาของคริสต์ใช่หรือไม่? (หากเป็นไปตามข้อนี้ พวกเขามีวิธีอธิบายอย่างไร?)
3. พวกเขาเหล่านั้นมักไม่ใช่คริสต์ศาสนิกชน จึงไม่มีความเชื่อในจักรวาลวิทยาของคริสต์ใช่หรือไม่?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่