ถ้าท้อแท้หมดหวังกับชีวิตแล้วมุ่งเน้นทางธรรมเป็นหลัก จะทำให้เราพ้นทุกข์ได้จริงหรือ?

คนที่หนีปัญหา ท้อแท้ สิ้นหวัง แล้วไปบวชหรือมุ่งเน้นไปทางปฏิบัติธรรมเป็นหลัก
จะได้บรรลุธรรมพ้นทุกข์ได้จริงหรือ หรือควรแก้ปัญหาภาระทั้งหลายให้หมดก่อน

ถ้าไม่อยากเสียเวลาอ่านเรื่องของผม จะตอบคำถามเลยก็แล้วแต่

ขอเกริ่นก่อนว่าช่วงนี้ชีวิตผมขาลงจริงๆ ลงแล้วก็ลงอีกไปได้เรื่อยๆ
ไม่รู้จะหยุดอยู่ที่ตรงไหน ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็ชีวิตบัดซบนั่นเอง
ผมอยากทำงานอิสระไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร ผมพยายามทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
แต่ก็ทำไม่สำเร็จ และก็ยังมีปัญหาเรื่องเงินเรื่องสุขภาพด้วย ทะเลาะกับแม่ได้ทุกวัน

จนวันหนึ่งรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง ฝ่ายรัฐบาลเลยเสนอนโยบายว่า ต่อไปนี้เราจะไม่พยายามทำสิ่งที่
ใฝ่ฝันมาตลอด จะแค่หางานง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ทำ อยู่แบบพอกินพอใช้ไม่หวังอะไรมากอีก
ที่ผ่านมาเป็นความอยากได้อยากมีอยากเป็น ควรจะสละมันออกไปแล้วมุ่งเน้นการปฏิบัตธรรม
อย่างจริงจัง ชีวิตเราจะได้พบความสุขที่แท้จริง

ยังนะครับ เรื่องยังไม่จบ

ฝ่ายค้านเลยแย้งว่า ปฏิบัติธรรมให้พ้นทุกข์ทำได้จริงหรือ เป็นไปไม่ได้หรอก
ก็รู้อยู่ว่าตัวเองเป็นคนยังไง ช่วยตัวเองคิดลามกอยู่ทุกวัน อย่าหลอกตัวเองเลย
ที่คิดจะทิ้งสิ่งที่ใฝ่ฝันแล้วมุ่งเน้นปฏิบัติธรรมแทน มันเป็นแค่ความคิดของคนท้อแท้
ที่ไม่สู้ต่อ ที่จริงแล้วเรายังทำได้ยังมีความหวัง อย่าเชื่อมันมันกำลังหลอกเราอยู่

ผมพิจารณาดูแล้วก็คิดได้ว่า ความคิดที่จะละทิ้งสิ่งที่อยากทำนั้นเกิดจากจิตเศร้าหมอง
ไม่ใช่จิตผ่องใส และเมื่อนำเหตุผลของฝ่ายค้านมาประกอบการพิจารณาแล้ว จึงตัดสินว่า
มันเป็นมารในชุดขาวที่มาล่อลวงจึงไม่ควรเชื่อ

อันนี้เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของผมนะครับ ไม่ได้บอกว่าถ้าเป็นคนอื่นเลือกอีกทางแล้วจะผิด
การปฏิบัติธรรมเพื่อพ้นทุกข์เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ผมคิดว่าควรขจัดความท้อแท้สิ้นหวัง
ออกไปให้ได้ก่อน เราจะได้เริ่มต้นอย่างมั่นใจว่ามาถูกทางแล้วจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปฏิบัติธรรม ศาสนาพุทธ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่