แกนึกว่าแกคือสตาร์ ที่ไปไหนใคร ๆ ก็จะแห่เห่อตาม แกนึกว่าแกคือผู้กำหนดเกม
แต่ความจริงไม่ใช่เลย ไม่ใช่สักอย่าง
ว่าก็ว่าเหอะ ตอนนี้ ผมว่าแกเหลือแค่เสื้อผ้าเท่านั้นแหละที่ติดตัว
ไม่เหลือพวก พรรคก็ไม่น่ารอด กับเชลียร์อีกฝูงที่เฝ้าอวยแกอยู่เท่านั้น อ่อ สลิ่มอีกหย่อมหนึ่งด้วย
ไม่ใช่ปี 62 ที่มี ม.44 อยู่ในมือ
ตอนนั้น แค่กระแอม ใคร ๆ ก็หวั่น ใคร ๆ ก็ต้องสยบยอม แต่วันนี้ ตอนนี้ ไม่ใช่แล้ว ไม่มี ม.44
ตอนนั้น เอาคดีไปขู่ใคร เอาเงื่อนไขยื่นให้ใคร ด้วยฤทธิ์ ม.44 ด้วยอำนาจหัวหน้าคณะรัฐประหาร
ใคร ๆ เขาก็ต้องยอม
นั่นคือวันวาน แต่วันนี้ ต่อให้ขอร้อง ใครไหนเขาจะสน
นักการเมืองวันนี้ เขามองไปที่โจทย์ประชาชน จะตอบโจทย์ประชาชนยังไง ไมใช่ตอบโจทย์ให้แกอยางเคยเป็น
จะดันทุรังแค่ไหน จะพยายามเพียงใด นั่นแค่มโน
ในความเป็นจริง หัวหน้าอย่างพี่พี เลขาฯพรรคอย่างน้องขิง มีอะไรที่จะทำให้ใคร ๆ เขาเสน่หา
บารมีไม่ถึง ทุนไม่มี กระแสเงียบสนิท ภาพลักษณ์ก็แค่คนหาที่ยืนเพื่อสร้างบทบาทหาโอกาสยึดที่มั่นทางการเมืองเท่านั้น
สุดท้าย ใจไม่ถึง กลัวแพ้ กลัวเสียหน้า เพราะไม่สามารถชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ได้อีกแล้ว
แกก็จะหาทางไปดื้อ ๆ เทให้พรรคเก้อ เอาตัวรอดลอยชาย
ยกเว้น จะมีอภินิหาร บัญชาจากสวรรค์ บันดลบันดาลให้ใคร ๆ ต้องอุ้มแกอีกครั้งเท่านั้น
ทั้งหลายที่ต้องจำเป็นอุ้มแกอีกครั้ง ก็จะอ้างตรงกันว่า เพราะมี "ข้อมูลใหม่"
.
คำว่า "ข้อมูลใหม่" ใช้ได้เสมอสำหรับการเมืองไทย
แม้กระทั่งเรื่องค่าไฟฟ้า
.
มีเหรอจะกล้าลงการเมืองเต็มตัว
มีเหรอจะกล้าลงเลือกตั้ง ไม่ว่าเลือกตั้งแบบเขต หรือแบบปาร์ตี้ลิสต์
ไม่อยู่ในเกมที่ได้เปรียบทุกอย่าง ไม่กล้าเล่นหรอก
ไม่ได้เปรียบแบบชนะแบเบอร์แน่ ๆ ไม่กล้าลงสนามหรอก
ไม่มีอำนาจพิเศษในมือ ไม่กล้าตัดสินใจและกล้าทำอะไรหรอก
การเมืองไมใช่ราชการ ที่แค่มีเส้นอะไร ๆ ก็ง่าย
กระแสไม่มี กระสุนก็ไม่มา ไม่มี 44 ก็ไม่มีฤทธิ์ ใครเขาจะควักหนุน
.
เลยเวลาลง รอแค่เวลาแพ้
จะแพ้แบบไหน แบบยอมกลืนเลือด จากไปเงียบ ๆ หรือจะแพ้แบบลากพรรคแพ้ไปด้วย ไม่ยอมเจ็บคนเดียว
อีกไม่นาน...
ผมว่า สุดท้ายแกก็จะทิ้งพรรค หลังจากทิ้งพวกเรียบร้อยแล้ว
แกนึกว่าแกคือสตาร์ ที่ไปไหนใคร ๆ ก็จะแห่เห่อตาม แกนึกว่าแกคือผู้กำหนดเกม
แต่ความจริงไม่ใช่เลย ไม่ใช่สักอย่าง
ว่าก็ว่าเหอะ ตอนนี้ ผมว่าแกเหลือแค่เสื้อผ้าเท่านั้นแหละที่ติดตัว
ไม่เหลือพวก พรรคก็ไม่น่ารอด กับเชลียร์อีกฝูงที่เฝ้าอวยแกอยู่เท่านั้น อ่อ สลิ่มอีกหย่อมหนึ่งด้วย
ไม่ใช่ปี 62 ที่มี ม.44 อยู่ในมือ
ตอนนั้น แค่กระแอม ใคร ๆ ก็หวั่น ใคร ๆ ก็ต้องสยบยอม แต่วันนี้ ตอนนี้ ไม่ใช่แล้ว ไม่มี ม.44
ตอนนั้น เอาคดีไปขู่ใคร เอาเงื่อนไขยื่นให้ใคร ด้วยฤทธิ์ ม.44 ด้วยอำนาจหัวหน้าคณะรัฐประหาร
ใคร ๆ เขาก็ต้องยอม
นั่นคือวันวาน แต่วันนี้ ต่อให้ขอร้อง ใครไหนเขาจะสน
นักการเมืองวันนี้ เขามองไปที่โจทย์ประชาชน จะตอบโจทย์ประชาชนยังไง ไมใช่ตอบโจทย์ให้แกอยางเคยเป็น
จะดันทุรังแค่ไหน จะพยายามเพียงใด นั่นแค่มโน
ในความเป็นจริง หัวหน้าอย่างพี่พี เลขาฯพรรคอย่างน้องขิง มีอะไรที่จะทำให้ใคร ๆ เขาเสน่หา
บารมีไม่ถึง ทุนไม่มี กระแสเงียบสนิท ภาพลักษณ์ก็แค่คนหาที่ยืนเพื่อสร้างบทบาทหาโอกาสยึดที่มั่นทางการเมืองเท่านั้น
สุดท้าย ใจไม่ถึง กลัวแพ้ กลัวเสียหน้า เพราะไม่สามารถชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ได้อีกแล้ว
แกก็จะหาทางไปดื้อ ๆ เทให้พรรคเก้อ เอาตัวรอดลอยชาย
ยกเว้น จะมีอภินิหาร บัญชาจากสวรรค์ บันดลบันดาลให้ใคร ๆ ต้องอุ้มแกอีกครั้งเท่านั้น
ทั้งหลายที่ต้องจำเป็นอุ้มแกอีกครั้ง ก็จะอ้างตรงกันว่า เพราะมี "ข้อมูลใหม่"