ยายมีลูก 4 คน
คนโต ออกบ้านไม่เอามรดก
คน2 เสียชีวิต (คนเลี้ยงแม่)
คน 3 เสียชีวิต
คนที่ 4 แม่เราเอง
ยายแบ่งมรดกแล้วคนละเท่ากัน แล้วจะมีส่วนนึงที่เหลือไว้สำหรับคนที่จะมาเลี้ยงยายตอนแก่ นั่นก็เป็นว่าลูกคนที่ 2 เป็นคนเลี้ยงก็โอนให้แล้ว
พอลูกคนที่ 2 แก่เสีย ก็ต้องเป็นหลานมาเลี้ยงต่อ (แก่มีหลาน 2 คนที่เลี้ยงตอนนี้ คนพี่ไปทำงานกรุงเทพ น้องเป็นคนดูยาย)
พอแกไปทำงานก็จะเป็นแม่เราที่ดูแลยายระหว่างนั้นเพราะบ้านเราอยู่ตรงข้ามกัน เท่ากับว่าก็ช่วยกันเลี้ยงยายนั่นแหละ
ตอนนี้หลาน(คนน้อง)บอกไม่เลี้ยงแล้ว มรดกส่วนที่เลี้ยงยายก็ไม่เอา ยืนยันหนักแน่นว่าไม่กลับมาเลี้ยงยายแล้ว (เมียแกทะเลาะกับยาย)
หลาน (คนพี่) ก็บอกว่า จะให้น้องแวะมาดูอาทิตย์ละครั้ง ไม่ใช่หายไปเลย (คนพี่ยังไงก็จะไม่กลับมาเลี้ยงยายเหมือนกัน)
เท่ากับยัดเยียดให้แม่เราซึ่งเป็นลูกคนที่ 4 เลี้ยง ซึ่งแม่เราก็ไม่แข็งแรง จะรับผิดชอบเลี้ยงจริงๆก็ไม่ไหวถ้าจะเป็นคนเลี้ยงยายจริงๆก็จะเป็นเรา
ถ้าเอาตามคนน้องพูด เราบอกเลยว่า โอนมรดกส่วนที่เลี้ยงยายมา ทุกอย่างเลย
ถ้าเอาตามที่คนพี่พูด เราบอกเลยว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนั้น เพราะสุดท้ายคุณก็ไปอยู่ดี เราก็ต้องเป็นคนเลี้ยงอยู่ดี
พอเราให้แม่ไปพูดให้พวกเขาฟัง
เขาก็บอกว่า ต้องเอาด้วยหรอ ยังไงก็แม่นะ จะไม่ดูเอาแม่เลยหรอ
(เราก็อยากพูดนะ ตลอดเวลาที่แม่พวกคุณป่วยติดเตียง ใครละที่ดูทั้งแม่คุณทั้งยายไว้ให้คุณ ตอนที่คุณไปทำงาน)
ซึ่งเรามองว่า ยายเป็นคนเลือกให้แม่ของเขาเป็นคนเลี้ยงและแม่เขาก็ยินดีจะเลี้ยงเพราะอยากได้มรดก เท่ากับว่า พวกคุณต้องเลี้ยงยายไปจนกว่ายายจะเสีย นั้นคือข้อตกลงกันตั้งแต่แรก
แล้วตอนนี้จะมาเปลี่ยนข้อตกลง จะมายัดเยียดให้บ้านเราเลี้ยงตัวเองก็สบายตัว คนยุ่งคนเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลยายเป็นฝ่ายเรา แล้วจะไม่ให้อะไรเราสักอย่างเลย จะมาบอกว่าเราเห็นแก่ตัวไม่เลี้ยงแม่อย่างนี้หรอ
เราอยากรู้ว่า ใครต้องเลี้ยงยาย แล้วเราผิดหรอที่เราต้องการแบบนั้น ถ้าจะให้เราเลี้ยง
ใครต้องเป็นคนเลี้ยงยาย (หนักใจมากช่วยเข้ามาให้คำแนะนำทีค่ะ)
คนโต ออกบ้านไม่เอามรดก
คน2 เสียชีวิต (คนเลี้ยงแม่)
คน 3 เสียชีวิต
คนที่ 4 แม่เราเอง
ยายแบ่งมรดกแล้วคนละเท่ากัน แล้วจะมีส่วนนึงที่เหลือไว้สำหรับคนที่จะมาเลี้ยงยายตอนแก่ นั่นก็เป็นว่าลูกคนที่ 2 เป็นคนเลี้ยงก็โอนให้แล้ว
พอลูกคนที่ 2 แก่เสีย ก็ต้องเป็นหลานมาเลี้ยงต่อ (แก่มีหลาน 2 คนที่เลี้ยงตอนนี้ คนพี่ไปทำงานกรุงเทพ น้องเป็นคนดูยาย)
พอแกไปทำงานก็จะเป็นแม่เราที่ดูแลยายระหว่างนั้นเพราะบ้านเราอยู่ตรงข้ามกัน เท่ากับว่าก็ช่วยกันเลี้ยงยายนั่นแหละ
ตอนนี้หลาน(คนน้อง)บอกไม่เลี้ยงแล้ว มรดกส่วนที่เลี้ยงยายก็ไม่เอา ยืนยันหนักแน่นว่าไม่กลับมาเลี้ยงยายแล้ว (เมียแกทะเลาะกับยาย)
หลาน (คนพี่) ก็บอกว่า จะให้น้องแวะมาดูอาทิตย์ละครั้ง ไม่ใช่หายไปเลย (คนพี่ยังไงก็จะไม่กลับมาเลี้ยงยายเหมือนกัน)
เท่ากับยัดเยียดให้แม่เราซึ่งเป็นลูกคนที่ 4 เลี้ยง ซึ่งแม่เราก็ไม่แข็งแรง จะรับผิดชอบเลี้ยงจริงๆก็ไม่ไหวถ้าจะเป็นคนเลี้ยงยายจริงๆก็จะเป็นเรา
ถ้าเอาตามคนน้องพูด เราบอกเลยว่า โอนมรดกส่วนที่เลี้ยงยายมา ทุกอย่างเลย
ถ้าเอาตามที่คนพี่พูด เราบอกเลยว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะทำแบบนั้น เพราะสุดท้ายคุณก็ไปอยู่ดี เราก็ต้องเป็นคนเลี้ยงอยู่ดี
พอเราให้แม่ไปพูดให้พวกเขาฟัง
เขาก็บอกว่า ต้องเอาด้วยหรอ ยังไงก็แม่นะ จะไม่ดูเอาแม่เลยหรอ
(เราก็อยากพูดนะ ตลอดเวลาที่แม่พวกคุณป่วยติดเตียง ใครละที่ดูทั้งแม่คุณทั้งยายไว้ให้คุณ ตอนที่คุณไปทำงาน)
ซึ่งเรามองว่า ยายเป็นคนเลือกให้แม่ของเขาเป็นคนเลี้ยงและแม่เขาก็ยินดีจะเลี้ยงเพราะอยากได้มรดก เท่ากับว่า พวกคุณต้องเลี้ยงยายไปจนกว่ายายจะเสีย นั้นคือข้อตกลงกันตั้งแต่แรก
แล้วตอนนี้จะมาเปลี่ยนข้อตกลง จะมายัดเยียดให้บ้านเราเลี้ยงตัวเองก็สบายตัว คนยุ่งคนเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลยายเป็นฝ่ายเรา แล้วจะไม่ให้อะไรเราสักอย่างเลย จะมาบอกว่าเราเห็นแก่ตัวไม่เลี้ยงแม่อย่างนี้หรอ
เราอยากรู้ว่า ใครต้องเลี้ยงยาย แล้วเราผิดหรอที่เราต้องการแบบนั้น ถ้าจะให้เราเลี้ยง