SCALA: ที่ระลึกรอบสุดท้าย
" นี่คือการกล่าวคำอำลาแก่โรงภาพยนตร์ 'สกาล่า' ด้วยความผูกพันอย่างลึกซึ้ง...
ขณะเดียวกัน ก็เป็นมรณานุสติที่ก็ทำให้เราตระหนักถึงความไม่เที่ยงของชีวิต "
สวัสดีครับทุกท่าน ! ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ไทย หนึ่งในนั้น ก็คือ
การปิดฉากลงของโรงภาพยนตร์ "Scala" โรงภาพยนตร์สแตนด์อโลนที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ล่าสุด ผมได้มีโอกาสรับชมภาพยนตร์สารคดีเรื่อง
SCALA ที่ระลึกรอบสุดท้าย (2022) ที่กำลังฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นงานกำกับของ
คุณแก๊ป อนันตา ฐิตานัตต์
ในแง่ชื่อเสียงภาพยนตร์ ตัวหนังได้รับเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์หลาย ๆ แห่ง เช่น
Berlin Film Festival ครั้งที่ 72 ในสาย FORUM ได้เข้าชิงรางวัล Berlinale Documentary Award และ Caligari Film Award รวมทั้งได้ฉายในเทศกาล
IDFA หรือ
International Documentary Filmfestival Amsterdam ในสาย Best of Fests
Scala | Trailer | Berlinale 2022
ส่วนในประเทศไทย ตัวหนังคว้ารางวัล Grand Jury Prize จากเทศกาลภาพยนตร์
World Film Festival of Bangkok (
Credit - เพจ SCALA Documentary)
ดังนั้นผมจึงอยากจะกล่าวความรู้สึกหลังชมสั้น ๆ แถมเนื่องจากเป็นหนังนอกกระแสที่อาจจะไม่ได้อยู่ในโรงนาน อย่างน้อยก็หวังว่ารีวิวนี้ จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้รู้จักในวงกว้างมากขึ้นนะครับ
ความรู้สึกหลังชม
Scala | Berlinale Meets... Ananta Thitanat | Berlinale 2022
ว่ากันตามตรง หนังเรื่องนี้อาจไม่ได้อยู่ในรูปแบบภาพยนตร์ที่เราคุ้นเคยสักทีเดียว กล่าวคือ
SCALA (2022) เป็นหนังที่ถูกร้อยเรียงกันด้วยฟุตเทจเกี่ยวกับ
'ห้วงเวลาขณะรื้อถอนโรงภาพยนตร์ "สกาล่า" ก่อนคืนพื้นที่ให้จุฬา' พร้อมกับบรรยายเรื่องราวต่าง ๆ เข้าไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวในวัยเด็กของผู้กำกับที่เติบโตมาในโรงภาพยนตร์แห่งนี้ รวมถึงบรรยากาศความรู้สึกแต่ละคนขณะรื้อถอน
ด้วยความที่ร้อยเรียงด้วยฟุตเทจเพียว ๆ ในแง่ความบันเทิง มันจึงไม่ใช่หนังที่สนุก แถมยังมีความเฉพาะตัว การชมเรื่องนี้เสมือนว่า เรามาดู
"บันทึกความทรงจำก่อนจากลาครั้งสุดท้าย" ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า ซึ่งไม่มีใครเข้าไปถ่ายการรื้อถอนได้ลึกอย่างที่หนังเรื่องนี้ทำ
นอกจากความรู้สึกที่เหมือนกำลังอ่านไดอารี่ของผู้กำกับ ความรู้สึกอีกอย่าง คือ เหมือนเรากำลังอยู่ใน
"พิธีฌาปนกิจ" สิ่งของต่าง ๆ ค่อย ๆ ถูกรื้อถอน คล้าย ๆ กับขั้นตอนทำความสะอาด ไปจนถึงแต่งหน้า แต่งตัว เตรียมส่งผู้วายชนม์ไปสู่โลกหน้า อารมณ์ส่วนใหญ่ในเรื่อง เลยเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างเสียดายและเสียใจต่อการสูญสลายของสกาล่า ไม่ว่าจะในแง่ประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต คุณค่าเชิงสถาปัตยกรรม ไปจนถึงความทรงจำที่หลายคนผูกพันกับโรงหนังสกาล่า
หนังเรื่องนี้ ถือเป็นจดหมายเหตุที่บันทึกเรื่องราวสำคัญในวงการภาพยนตร์ไทยที่คนรักหนังไม่ควรพลาด... อย่างน้อยที่สุด ก็เป็นการกล่าวอำลาครั้งสุดท้าย พร้อมกับขอบคุณในการมีอยู่ของ "สกาล่า" ที่สร้างความทรงจำดี ๆ เสมอมา แน่นอนว่า ถึงแม้จะเจ็บปวด แต่ใด ๆ ในโลกล้วนไม่จีรัง ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
คงไม่มีอะไรจะกล่าวไปมากกว่านี้... ถ้าให้พูดสั้น ๆ จากใจ ก็ขอกล่าวส่งท้ายว่า
" ลาก่อนสกาล่า... หลับให้สบายนะ " 💐
ความทรงจำดี ๆ ที่ได้เข้าไปชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่สกาล่า
บรรยากาศภาพยนตร์รอบสุดท้าย (Tonight at Romance Theater) ของลิโด้ ก่อนที่สกาล่าจะปิดตัวตามไป...
(เพิ่มเติม) ขออนุญาตแปะกระทู้ดี ๆ อีกหนึ่งกระทู้ เป็นกระทู้ของคุณ BIG TG (ผู้ถ่ายภาพ : ดร.ภาคภูมิ ศิริโรจน์วงศ์) ซึ่งเก็บภาพสวย ๆ ของสกาล่าในวันสุดท้ายอย่างงดงาม
_________________________________
ป.ล. 1 ล่าสุดสามารถดูได้บน Netflix แล้วนะครับ (ตั้งแต่ 15 เม.ย. 65)
ป.ล. 2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพุดคุยหรือติดต่อกับผม
SCALA ที่ระลึกรอบสุดท้าย (2022) - แด่การจากไปของยักษ์ใหญ่ที่ชื่อว่า "สกาล่า"
ในแง่ชื่อเสียงภาพยนตร์ ตัวหนังได้รับเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์หลาย ๆ แห่ง เช่น Berlin Film Festival ครั้งที่ 72 ในสาย FORUM ได้เข้าชิงรางวัล Berlinale Documentary Award และ Caligari Film Award รวมทั้งได้ฉายในเทศกาล IDFA หรือ International Documentary Filmfestival Amsterdam ในสาย Best of Fests
ดังนั้นผมจึงอยากจะกล่าวความรู้สึกหลังชมสั้น ๆ แถมเนื่องจากเป็นหนังนอกกระแสที่อาจจะไม่ได้อยู่ในโรงนาน อย่างน้อยก็หวังว่ารีวิวนี้ จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้รู้จักในวงกว้างมากขึ้นนะครับ
ความรู้สึกหลังชม
ด้วยความที่ร้อยเรียงด้วยฟุตเทจเพียว ๆ ในแง่ความบันเทิง มันจึงไม่ใช่หนังที่สนุก แถมยังมีความเฉพาะตัว การชมเรื่องนี้เสมือนว่า เรามาดู "บันทึกความทรงจำก่อนจากลาครั้งสุดท้าย" ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า ซึ่งไม่มีใครเข้าไปถ่ายการรื้อถอนได้ลึกอย่างที่หนังเรื่องนี้ทำ
นอกจากความรู้สึกที่เหมือนกำลังอ่านไดอารี่ของผู้กำกับ ความรู้สึกอีกอย่าง คือ เหมือนเรากำลังอยู่ใน "พิธีฌาปนกิจ" สิ่งของต่าง ๆ ค่อย ๆ ถูกรื้อถอน คล้าย ๆ กับขั้นตอนทำความสะอาด ไปจนถึงแต่งหน้า แต่งตัว เตรียมส่งผู้วายชนม์ไปสู่โลกหน้า อารมณ์ส่วนใหญ่ในเรื่อง เลยเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างเสียดายและเสียใจต่อการสูญสลายของสกาล่า ไม่ว่าจะในแง่ประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต คุณค่าเชิงสถาปัตยกรรม ไปจนถึงความทรงจำที่หลายคนผูกพันกับโรงหนังสกาล่า
หนังเรื่องนี้ ถือเป็นจดหมายเหตุที่บันทึกเรื่องราวสำคัญในวงการภาพยนตร์ไทยที่คนรักหนังไม่ควรพลาด... อย่างน้อยที่สุด ก็เป็นการกล่าวอำลาครั้งสุดท้าย พร้อมกับขอบคุณในการมีอยู่ของ "สกาล่า" ที่สร้างความทรงจำดี ๆ เสมอมา แน่นอนว่า ถึงแม้จะเจ็บปวด แต่ใด ๆ ในโลกล้วนไม่จีรัง ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป